“วิศรุต ปัญญาภิญโญผล”ใช้ความจริงใจ เพื่อไปให้ถึงความสำเร็จ

คอลัมน์ Home Talk ได้เสนอมุมมองการทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ของดีลเวลอปเปอร์มาแล้วหลายฉบับ ฉบับนี้เราจึงเปลี่ยนบรรยากาศไปพูดคุยกับ คุณวิศรุต ปัญญาภิญโญ ผลผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) ที่คร่ำหวอดในแวดวงสินเชื่อให้คำปรึกษาและอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของโครงการต่างๆ จำนวนมาก

คุณวิศรุตหรือคุณป๋อมหนุ่มเมืองกรุงที่ใช้ชีวิตธรรมดาเหมือนคนทั่วไป เรียนจบปริญญาตรีและปริญญาโทจากคณะบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากนั้นในปี 2541จึงเริ่มทำงานในฝ่ายสินเชื่อ ธนาคารกรุงเทพเป็นเวลา 2ปีจึงย้ายมาเป็นผู้จัดการร้าน ห้างคาร์ฟู(บิ๊กซีเอ็กซ์ตร้าในปัจจุบัน)ช่วงสั้นๆจากนั้นปี 2543จึงเริ่มเข้ามาสู่แวดวงอสังหาฯ ในฝ่ายพัฒนาธุรกิจของบริษัทพลัส พร็อพเพอร์ตี้จำกัดในเครือแสนสิริรับบริหารโครงการและพัฒนาโครงการจัดสรร จุดนี้เองที่ทำให้มีพื้นฐานด้านอสังหาริมทรัพย์ได้เรียนรู้เรื่องงานบริหารงานขายโครงการเห็นโครงการหลากหลาย มีความรู้เรื่องการเลือกที่ดิน ทำเลที่เหมาะสำหรับการพัฒนารวมถึงวิธีคิดมุมมองของผู้ประกอบการตลอดระยะเวลา 3 ปี

กระทั่งในปี 2546จึงได้ร่วมงานกับธนาคารเกียรตินาคินในตำแหน่งเจ้าหน้าที่สินเชื่อ วิเคราะห์และดูแลการให้สินเชื่อแก่โครงการต่างๆทั้งโซนรังสิต,ศูนย์กลางย่านธุรกิจหรือทำเลทองใจกลางเมือง(CBD)และ,ต่างจังหวัดจากความรู้และประสบการณ์จากบริษัทพลัสฯทำให้มีวิธีคิดและเข้าใจความต้องการของดีเวลอปเปอร์โดยใช้เวลา 12 ปีจากเจ้าหน้าที่สินเชื่อสู่ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์

ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่แม้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศแต่ความได้เปรียบจากเมืองท่องเที่ยว หากมีการพัฒนาระบบคมนาคมที่สะดวก เมื่อระบบโครงสร้างพื้นฐานของเมืองดีขึ้นก็จะทำให้ศักยภาพการแข่งขันของทำเลนั้นดีขึ้นเกิดการจ้างงานและมีแหล่งงานเพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าผลประกอบการในปี2558ของจังหวัดเชียงใหม่ไว้ประมาณ 3 พันล้านบาทสูงกว่าปี2557ซึ่งมีผลประกอบการอยู่ที่2 พันล้านบาท และจะให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโดยจะพิจารณาผ่อนผันเงื่อนไขเป็นกรณี

สูตรความสำเร็จของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน แต่สำหรับคุณวิศรุต การทำงานไม่ว่าจะเป็นอาชีพไหนทำแล้วต้องมีความสุข โดยเฉพาะในสายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กุญแจสำคัญของการเป็นดีลเวลอปเปอร์ที่ประสบความสำเร็จที่ยั่งยืนนั่นคือความจริงใจ อีกทั้งการมีหุ้นส่วนธุรกิจที่ดีไม่ว่าจะเป็นผู้รับเหมา ธนาคารหรือเพื่อนธุรกิจเดียวกัน เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ร่วมกันเป็นทั้งการกระจายความเสี่ยงและเสริมสร้างความแข็งแรงในการแข่งขันได้

“คนที่ตัดสินใจซื้อบ้านหนึ่งหลัง นั่นคือเงินก้อนใหญ่ของเขา ดังนั้นเราต้องพยายามทำบ้านออกมาให้ดีที่สุดเพื่อจะส่งมอบให้กับลูกค้าอาจจะใช้เวลาสักหน่อยแต่มันจะสะท้อนออกมาให้เห็นว่าเราใส่ใจกับสิ่งที่ทำมากน้อยแค่ไหน หากใครที่คิดจะโกงหรือหมกเม็ดลูกค้าคงอยู่ได้ไม่นาน”คุณวิศรุตกล่าว

สำหรับมุมมองการใช้ชีวิตมองว่าความสำเร็จในหน้าที่การงานยังเป็นเป้าหมายหลักในชีวิต แม้ความจริงแล้วจะไม่ได้ใช้ชีวิตแบบเต็มร้อยแต่ก็เต็มที่กับทุกสิ่งที่ทำ และคิดว่าทุกวินาทีต้องมีความสุขไม่ว่ากับคนรอบข้าง, ครอบครัวหรือ, เพื่อนร่วมงาน เพราะเมื่อวันหนึ่งที่เวลาผ่านไปแล้วเราไม่สามารถกลับไปแก้ตัวใหม่ได้

คนเราอาจมีต้นทุนชีวิตที่ต่างกันแต่ความสำเร็จที่เกิดขึ้นเกิดจากการเรียนรู้และตั้งใจในสิ่งที่ทำบนพื้นฐานของความจริงใจ แม้หนทางข้างหน้าจะอีกยาวไกลแต่ความจริงใจจะทำให้พบกับความสำเร็จที่ยั่งยืนอย่างแน่นอน....