Baania
Baania
จังหวัด
ประเภทประกาศ
ประเภทอสังหาริมทรัพย์
ราคา

วางแผนซื้อบ้านต่างจังหวัดปี 2564 ต้องเตรียมอะไรบ้าง

x
คลิกที่นี่ เพื่อฟังบทความ

ใครที่อยากหนีกรุง แล้ววางแผนไว้ว่าปีนี้จะซื้อบ้านต่างจังหวัดสักหลัง เพื่อรับอากาศดีๆ บรรยากาศชิลๆ ใช้ชีวิตในบั้นปลาย หรือจะไปลงหลักปักฐาน รวมถึงคนที่อยู่ในต่างจังหวัดอยู่แล้ว แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ทำให้การออกจากบ้านได้ไม่คล่องตัวมากนัก ไหนจะเรื่องงบประมาณในการซื้อที่ต้องคำนวณให้ดี รวมการยื่นขอสินเชื่ออีกด้วย ทำให้การซื้อบ้านต่างจังหวัด ปี 2564 คงต้องเตรียมความพร้อม วางแผนกันให้ดี วันนี้ Baania นำเทคนิคการวางแผนให้ดีก่อนซื้อบ้านต่างจังหวัดมาแนะนำกัน

1. สำรวจทำเลที่ต้องการ

อย่างแรกที่เราต้องเตรียมเลยก็คือ ทำเลที่จะอยู่ในต่างจังหวัด โดยอาจเลือกจากความต้องการที่จะอยู่ สภาพแวดล้อม สถานที่ทำงาน การเดินทาง รวมถึงไลฟ์สไตล์ของเรา ซึ่งในต่างจังหวัด เราอาจตั้งทำเลกว้างๆ  ได้มากกว่าในกรุงเทพฯ นะครับ เพราะการจราจรในต่างจังหวัดมักไม่ติดเท่ากับในกรุงเทพฯ และปริมณฑล แต่แนะนำว่าควรรถส่วนตัว จะได้เดินทางได้อย่างสะดวก เนื่องจากในต่างจังหวัดคนนิยมเดินทางด้วยรถส่วนตัว อีกทั้งบริการรถสาธารณะก็ไม่มากเท่าในกรุงเทพฯ ฉะนั้นหากจะเดินทางไปไหน แล้วจะหาแท็กซี่ รถเมล์ หรือรถไฟฟ้าอาจจะยากสักหน่อย


2. สำรวจงบประมาณของเรา

งบประมาณในกระเป๋าคือเรื่องสำคัญที่ห้ามลืมวางแผนซื้อบ้านต่างจังหวัด ซึ่งเราควรดูว่าเรามีงบประมาณเท่าไร แล้วจะซื้อเงินผ่อนหรือเงินสด หากเป็นเงินผ่อน แม้เราจะไม่ต้องจ่ายทั้งหมดในครั้งเดียว แต่เราต้องคำนวณถึงวงเงินกู้และเงินผ่อน ทั้งเงินต้น ดอกเบี้ยด้วยนะครับ


3. สำรวจราคาและเปรียบเทียบหาโครงการบ้านที่ใช่

เมื่อวางแผนทำเลและงบประมาณบ้านที่จะซื้อแล้ว ก็ต้องมาดูกันที่แบบบ้านว่าแบบไหนถึงจะตอบโจทย์ความต้องการ ทั้งเรื่องสภาพแวดล้อม ขนาดของพื้นที่ดิน และขนาดของพื้นที่ใช้สอย จำนวนคนอยู่อาศัย รวมถึงหากวางแผนจะอยู่ในบั้นปลาย อาจต้องคำนึงถึงบ้านที่ตอบโจทย์กับผู้สูงอายุด้วยนะครับ 

เมื่อได้ความต้องการของบ้านมาแล้ว คราวนี้แนะนำให้หารายชื่อโครงการที่เข้าเกณฑ์ พร้อมหาข้อมูลโครงการนั้นๆ มาเพื่อเปรียบเทียบกัน 

ในส่วนของราคานั้นโดยปกติแล้วเมื่อเปรียบเทียบกับบ้านแบบเดียวกัน ราคาบ้านต่างจังหวัดมักจะถูกกว่าบ้านในกรุงเทพฯ เนื่องจากที่ดินอาจมีราคาถูกกว่า ทำให้ต้นทุนบางอย่างมีราคาถูกกว่าบ้านในกรุงเทพฯ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูทำเลในแต่ละที่ด้วยนะครับว่าคือที่ไหน


4. วางแผนการผ่อนและซ้อมผ่อนสัก 6 เดือน

หากใครที่คิดจะกู้เงินซื้อบ้าน อีกหนึ่งการวางแผนที่หลายคนชอบลืมก็คือการวางแผนในการผ่อนค่าบ้าน  แนะนำว่าให้เราลองไปประเมินสินเชื่อและดอกเบี้ยกันก่อนว่าเราจะสามารถกู้ได้เท่าไร และควรผ่อนเท่าไร โดยสามารถเครื่องมือประเมินสินเชื่อของแต่ละธนาคาร หรือจะใช้ของ Baania ก็ได้นะครับ 

เมื่อได้แล้ว แนะนำว่าอยากให้ทดลองซ้อมผ่อนสักประมาณ 6 เดือน หรืออย่างน้อย 3 เดือนก็ได้ครับ เช่น หากยื่นกู้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) มีรายได้ที่ 30,000 บาทต่อเดือน ต้องการกู้ระยะเวลา 40 ปี มีดอกเบี้ยอยู่ที่ 3.25% และได้วงเงินกู้ได้ 100% ของราคาประเมิน หากบ้านราคา 2,000,000 บาท จะต้องชำระค่างวดที่ประมาณ 7,451 บาทต่อเดือน

ดังนั้นเราก็ลองนำเงิน 7,451 บาท เข้าบัญชีเงินฝากประจำไปสัก 3-6 เดือนดูว่าถ้าต้องผ่อนจริง รวมกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในชีวิตประจำวันของเราแล้วจะทำได้หรือไม่ครับ


5. วางแผนรายจ่ายภาพรวมทั้งหมด 

ซื้อบ้านต่างจังหวัด ไม่ได้มีแค่ค่าตัวบ้าน แต่ยังมีค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ อีกด้วย เช่น เสียค่าธรรมเนียมยื่นกู้, ค่าธรรมเนียมการโอน, ค่าสำรวจและประเมินราคาหลักประกัน, ค่าอากรแสตมป์, ค่าจดจำนอง, ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย, ค่าส่วนกลาง, ค่าตกแต่งบ้าน เป็นต้น จึงอยากแนะนำว่าให้สอบถามและศึกษากับธนาคารที่จะยื่นกู้ก่อนว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง เพื่อที่เราจะได้วางแผนหาเงินในส่วนมาไว้ก่อน


6. เตรียมเอกสารขอยื่นกู้เงินทำบ้านให้พร้อม

การเตรียมเอกสารให้พร้อมก่อนที่เรายื่นกู้เงินซื้อบ้านนั้นจะช่วยให้การพิจารณาอนุมัติเงินกู้รวดเร็วมากขึ้น ซึ่งเอกสารหลักๆ ที่ต้องเตรียมให้พร้อมในการยื่นกู้ซื้อบ้านต่างจังหวัดก็เหมือนการยื่นกู้ปกติครับ ประกอบไปด้วย

1. กลุ่มเอกสารส่วนบุคคล เช่น บัตรประจำตัวประชาชน / บัตรข้าราชการ / บัตรรัฐวิสาหกิจ, สำเนาทะเบียนสมรส / ใบหย่า / ใบมรณะบัตร (ถ้ามี), สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ – สกุล (ถ้ามี), สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนคู่สมรส (ถ้ามี)

2. กลุ่มเอกสารทางการเงิน หากเป็นพนักงานประจำ ก็จะต้องมีใบรับรองเงินเดือน, สลิปเงินเดือนหรือหลักฐานการรับเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน, สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน แต่ถ้าหากเป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระก็จะต้องมีสำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 12 เดือน / หลักฐานแสดงฐานะการเงินอื่นๆ (พร้อมเอกสารฉบับจริง), สำเนาทะเบียนการค้า / ทะเบียนบริษัท / ห้างหุ้นส่วน, หลักฐานการเสียภาษีเงินได้, รูปถ่ายกิจการ, สำเนาใบประกอบวิชาชีพ

3. กลุ่มเอกสารหลักประกัน จะประกอบไปด้วยสำเนาโฉนดที่ดิน / นส.3ก ทุกหน้า, หลักฐานการยื่นขอใบอนุญาตปลูกสร้าง / สำเนาใบอนุญาตปลูกสร้าง, แบบแปลน และใบประมาณการปลูกสร้าง / สัญญาว่าจ้างก่อสร้าง


7. เช็คสินเชื่อและเลือกธนาคารที่ต้องการ

ต้องยอมรับว่าช่วงนี้ใครๆ ก็กลัวว่ากู้ซื้อบ้านจะยาก แต่ละธนาคารต้องพิจารณากันมากขึ้น แต่ขอบอกเลยว่าตอนนี้ดอกเบี้ยต่ำมากๆ ถือเป็นโอกาสทอง สำหรับคนที่มีความสามารถในการผ่อนเลยละครับ 

โดยวิธีการหาสินเชื่อที่เหมาะกับเรานั้นแนะนำว่าให้นำข้อมูลของแต่ละสินเชื่อของแต่ละธนาคารมาเทียบกันก่อนยื่นกู้ ทั้งวงงินกู้ ระยะเวลาในการผ่อน อัตราดอกเบี้ย และเงื่อนไขต่างๆ เพื่อหาสินเชื่อไหนที่ตอบโจทย์ตรงไลฟ์สไตล์ และความสามารถในการผ่อนของเรา

สำหรับวันนี้ Baania ก็มีสินเชื่อซื้อบ้านหรือคอนโดต่างจังหวัด จากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) มาแนะนำกัน ขอบอกว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ เลยครับ ทั้งวงเงินกู้สูง ดอกเบี้ยต่ำ และระยะเวลาผ่อนยาวๆ 40 ปี ที่สำคัญมีหลากหลายโปรฯ สินเชื่อให้เลือกได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น

สินเชื่อบ้าน Dream Home by GHB

สินเชื่อบ้านสำหรับคนที่อยากซื้อหรือสร้างบ้านต่างจังหวัด หรือจะในกรุงเทพฯ และปริมณฑลก็ได้  มีจุดเด่นอยู่ที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยลูกค้าสวัสดิการ จะได้รับดอกเบี้ย 3 ปีแรก 3.25% ต่อปี เท่านั้น ส่วนลูกค้ารายย่อย จะได้รับดอกเบี้ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 3.35% ต่อปีครับ

สำหรับระยะเวลาในการผ่อนนั้นบอกเลยว่าผ่อนได้นานถึง 40 ปีกันเลย แต่อายุผู้กู้รวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี ยกเว้นข้าราชการตุลาการ อัยการ หรืออื่นๆ ที่มีอายุเกษียณมากกว่า 60 ปี ให้ใช้อายุผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 75 ปีครับ

นอกจากนี้ยังยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ หากใครสนใจจะต้องยื่นคำขอกู้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 30 ธันวาคม 2564 รวมถึงอนุมัติและทำนิติกรรมภายในวันที่ 31 มกราคม 2565 นะครับ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย<<4541b291bbd7e70b8a0ce3ff678a56bf>>


สินเชื่อบ้าน D Plus

ใครที่วางแผนว่าจะซื้อคอนโดหรือบ้านต่างจังหวัดที่อยู่ภายใต้โครงการจัดสรรกับ ธอส. วงเงินกู้ 2.5 ล้านบาทขึ้นไป สินเชื่อบ้าน D Plus ตอบโจทย์มากๆ เพราะจะได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ถูกมากๆ โดยลูกค้าสวัสดิการจะได้รับดอกเบี้ยปีแรก 1.99% ต่อปี และลูกค้ารายย่อยจะได้รับดอกเบี้ยปีแรก 2.09% ต่อปี เท่านั้น

แถมยังผ่อนได้ยาวๆ ถึง 40 ปี แต่รวมอายุผู้กู้แล้วไม่เกิน 70 ปี ยกเว้นข้าราชการตุลาการ อัยการ หรืออื่นๆ ที่มีอายุเกษียณมากกว่า 60 ปี ให้ใช้อายุผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 75 ปีครับ

ไม่เพียงเท่านั้นยังยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ด้วย หากสนใจจะต้องยื่นคำขอกู้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 30 ธันวาคม 2564 รวมถึงอนุมัติและทำนิติกรรมภายในวันที่ 31 มกราคม 2565 นะครับ ดูรายละเอียดกันได้เลยคลิกที่นี่


สินเชื่อโครงการบ้านจัดสรร (Developer)

อีกสินเชื่อบ้านน่าสนใจสำหรับใครที่วางแผนซื้อบ้านต่างจังหวัดที่อยู่ซื้อที่อยู่อาศัยภายใต้โครงการจัดสรรกับ ธอส. (โครงการ Fast Track/ Smart Fast Track / Regional Fast Track / LTF/ BZP) เพราะจะได้รับดอกเบี้ยปีแรกสำหรับลูกค้าสวัสดิการอยู่ที่ 2.80% ต่อปี และลูกค้ารายย่อยอยู่ที่ 2.90% ต่อปีเท่านั้น แถมยังยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ด้วย

ที่สำคัญยังผ่อนได้ยาวๆ นานถึง 40 ปี แต่รวมอายุผู้กู้แล้วไม่เกิน 70 ปี ยกเว้นจะเป็นกลุ่มอาชีพข้าราชการตุลาการ อัยการ หรืออื่นๆ ที่มีอายุเกษียณมากกว่า 60 ปี ให้ใช้อายุผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 75 ปีครับ

หากสนใจจะต้องยื่นคำขอกู้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 30 ธันวาคม 2564 รวมถึงอนุมัติและทำนิติกรรมภายในวันที่ 31 มกราคม 2565 เท่านั้นนะครับ โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยคลิกที่นี่


3 ตัวเลือกดีๆ กับสินเชื่อบ้านของ ธอส. หากใครที่มีข้อสงสัยหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) โทร 0-2645-9000 หรือ www.ghbank.co.th และ Facebook Fanpage : ธนาคารอาคารสงเคราะห์ นะครับ

วางแผนดีมีชัยไปกว่าครึ่ง คำพูดนี้ใช้ได้ดีกับการวางแผนซื้อบ้านต่างจังหวัด หวังว่าเทคนิควางแผนเตรียมความพร้อมก่อนซื้อบ้านต่างจังหวัดนี้ จะช่วยให้ฝันที่จะมีบ้านของคุณในปี 2564 นี้เป็นจริงนะครับ


ประกาศยอดนิยม ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร

โครงการยอดนิยม ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร