ท่องเที่ยวไทยกระทบ 4 หมื่นล้าน หลัง นทท.จีนยกเลิกห้องพัก

จากเหตุการณ์เรือล่มที่จังหวัดภูเก็ต นอกจากจะส่งผลกระทบต่อด้านจิตใจของหลายๆ คนแล้ว อีกมุมหนึ่งในด้านภาคการท่องเที่ยวและบริการภายในจังหวัดภูเก็ตเองหรือแม้แต่ภาพรวมของประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน ที่หนักสุดคงหนีไม่พ้นการที่นักท่องเที่ยวจีนซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายใหญ่ของการท่องเที่ยว ได้ทยอยยกเลิกการจองที่พักและชะลอการเข้ามาเที่ยวในไทย หนำซ้ำบุคลากรของรัฐบาลอย่าง บิ๊กป้อม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ยังได้ออกมาวิจารณ์และพาดพิงถึงจีน ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลกระทบอย่างมากในด้านการท่องเที่ยวของไทย

ด้าน นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงผลกระทบจากเหตุการณ์เรือล่มที่ จ.ภูเก็ต ว่า แม้รัฐบาลไทยจะออกมาตรการเยียวยานักท่องเที่ยวแล้ว แต่ทว่านักท่องเที่ยวจีนได้ทยอยยกเลิกการจองห้องพักใน จ.ภูเก็ต ไปแล้วกว่าร้อยละ 10-15 จากปกติจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาภูเก็ตปีละไม่น้อยกว่า 3 ล้านคน โดยยอดนักท่องเที่ยวจีนในไทยมีถึง 10 ล้านคน/ปี

นายไชยา ระพือพล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวอันดามัน กล่าวว่า ยอดการจองห้องพักใน จ.ภูเก็ต ในช่วง 2 เดือนข้างหน้า หายไปแล้วกว่าร้อยละ 70 ส่งผลกระทบต่อรายได้ไม่น้อยกว่า 42,000 ล้านบาท จึงเรียกร้องให้รัฐบาลเรียกความเชื่อมั่นกลับมาให้ได้ภายในระยะ 3 เดือน เพื่อไม่ให้กระทบรายได้ท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ต ที่เติบโตกว่าปีละ 350,000 ล้านบาท

ด้านนายถาวรรัตน์ คงแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้เปิดตัวสายรัดข้อมือคิวอาร์โค้ด ซึ่งใช้ระบบจีพีเอสเชื่อมกับกล้องวงจรปิด (ซีซีทีวี) เพื่อติดตามและค้นหานักท่องเที่ยว หากเกิดอุบัติเหตุทั้งทางบกและทางเรือ รวมทั้งประชาสัมพันธ์มาตรการหลักประกันความปลอดภัยนักท่องเที่ยว หลังยอดจองห้องพักและโปรแกรมการท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ต หยุดชะงัก

ขณะที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งกรมเจ้าท่าทบทวนมาตรฐานความปลอดภัยการเดินทางเรือใหม่ โดยอาจพิจารณาแนวทางการบริหารการตรวจปล่อยท่าเรือเหมือนท่าอากาศยาน รวมทั้ง ปรับปรุงข้อกฎหมายเพิ่มอำนาจเจ้าที่ หากพบพฤติกรรมผู้ประกอบการฝ่าฝืนคำเตือน คาดว่าจะเร่งออกมาตรการปลอดภัยในการเดินเรือใหม่ภายในสิ้นปีนี้

นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ข้อจำกัดเรื่องจำนวนเจ้าหน้าที่ และอำนาจในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กระทบประสิทธิภาพการควบคุมความปลอดภัยทางเรือ โดยเฉพาะตามท่าเรือของเอกชน ซึ่งการออกเดินเรือ เป็นดุลพินิจของผู้ประกอบการ ซึ่งอาจกดดันคนขับเรือ

อย่างไรก็ตามคงต้องติดตามกันต่อไปเกี่ยวกับมาตรการดูแลนักท่องเที่ยวและมาตรการเรียกความเชื่อมั่นจากจีนกลับคืนมาให้ได้โดยเร็ว

ที่มา : news.thaipbs