4 เรื่อง ต้องห้ามลืมเช็คก่อนซื้อบ้าน
จะซื้อจะโอนบ้านทั้งที เรื่องเล็กๆ ต้องห้ามลืมเช็คก่อนซื้อบ้านนะครับ หลายคนอาจตรวจสอบผนัง เพดาน แปลนห้อง ความแข็งแรงของวัสดุอุปกรณ์ หรือฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ ภายในบ้านอย่างละเอียดถี่ถ้วน แต่มักลืมเช็กงานระบบต่างๆ ทั้งระบบไฟ ระบบน้ำ ระบบแรงดันอากาศ หรือปลวกก่อนที่จะซื้อหรือโอนบ้าน ซึ่งสิ่งเหล่านี้หากเราเซ็นรับโอนหรือซื้อแล้วอาจจะยุ่งยากในการซ่อมแซมหรือแก้ไขได้ เรามาดูกันครับว่ามีจุดไหนบ้าง และต้องตรวจอย่างไรบ้าง
1. ระบบไฟฟ้าภายในบ้าน
ระบบไฟฟ้า จุดสำคัญที่คนจะซื้อบ้านต้องดูให้เรียบร้อยก่อนตัดสินใจ เพราะหากไม่ตรวจสอบแล้ว อันตรายอาจมาเยือนคนอยุ่อาศัยอย่างไม่คาดคิด เรามาดูกันครับว่าถ้าจะตรวจสอบระบบไฟก่อนซื้อบ้านจะต้องดูอะไรบ้าง
- ตรวจมิเตอร์ไฟฟ้า โดยให้ลองสับคัตเอาท์ตัดไฟทั้งหลัง แล้วสังเกตว่ามิเตอร์ยังหมุนหรือไม่ ถ้าหมุนแสดงว่ามีไฟรั่ว ซึ่งหากมิเตอร์รั่วนั้นจะทำให้ค่าไฟแพง และเป็นอันตรายต่อคนอยู่อาศัยได้
- ตรวจตู้ควบคุมไฟฟ้า จะเป็นตัวตัดไฟอัตโนมัติ ซึ่งจะต้องดูว่าเบรกเกอร์ตัวไหนใช้กับระบบไฟฟ้าส่วนใด รวมถึงต้องมีเบรกเกอร์หลักที่จะควบคุมเบรกเกอร์ทุกตัวด้วย
- ตรวจปลั๊ก สวิตช์ และหลอดไฟ ลองเปิดสวิตช์ เพื่อเช็กหลอดไฟทีละดวงว่าเปิด-ปิดเป็นปกติหรือไม่ แล้วให้เปิดไฟทุกดวงพร้อมกันดูว่าเมื่อใช้ไฟสูงสุดแล้วจะเป็นอย่างไร รวมถึงปลั๊กไฟทุกช่องจะต้องจ่ายไฟได้เป็นปกติด้วย
- ดูระบบสายดิน ระบบสายดินคือ ตัวป้องกันอุปกรณ์และความปลอดภัยให้พ้นอันตรายจากฟ้าผ่าได้ โดยให้สังเกตที่ปลั๊กไฟว่าทุกช่องต้องมีขาที่ 3 สำหรับต่อสายดินกับเครื่องใช้ไฟฟ้า หากจะเช็คให้ละเอียดยิ่งขึ้นให้เปิดดูหลังปลั๊กจะต้องมีสายไฟสีเขียวเส้นที่ 3 เพื่อยืนยันว่ามีสายดินต่อไปยังตู้ควบคุมไฟฟ้าหรือไม่ หรืออีกวิธีอาจให้คนขายบ้านพาไปดูจุดที่ฝังหลักสายดินก็ได้ครับ
- ดูช่องสำหรับการซ่อมบำรุง หากมีช่องนี้เมื่อไรที่ระบบไฟมีปัญหาจะได้สามารถซ่อมแซมได้ง่าย
2. ระบบน้ำ
ระบบน้ำ เป็นอีกระบบหนึ่งที่ควรตรวจสอบให้ดีก่อนที่จะซื้อบ้าน เพราะหากซื้อไปแล้วน้ำไหลไม่ถึง หรือน้ำขังระบายได้ไม่ดีจะเกิดปัญหาขึ้นในภายหลังได้ โดยสามารถตรวจสอบด้วยตัวเอง ดังนี้ครับ
- ตรวจสอบการไหลของน้ำในจุดที่มีการติดตั้งก๊อกน้ำว่าน้ำไหลถึงจุดนั้นหรือไม่ สภาพอุปกรณ์สมบูรณ์ มั่นคงดีหรือไม่
- ดูรอยรั่วตามบริเวณข้อต่อของท่อหรือแม้กระทั่งหัวก๊อกน้ำว่ามีชำรุดหรือไม่
- ตรวจสอบท่อน้ำทิ้งว่าตัน รั่ว หรือใช้งานได้อย่างปกติหรือไม่
- ดูระบบระบายน้ำว่าปกติดีไหม มีน้ำขังอยู่ส่วนในหรือเปล่า
- ดูจุดล้างจาน จุดระบายน้ำจากเครื่องซักผ้าว่าอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมแล้วใช่หรือไม่
- ดูจุดดักไขมันซึ่งจะอยู่ในท่อน้ำทิ้ง หากไม่มีจะทำให้น้ำเน่าเสีย
3. ปลวก
ปลวก คือสัตว์ร้ายที่ทำลายบ้านมาหลายหลัง และยากจะกำจัดหากเกิดขึ้นแล้ว ฉะนั้นทางที่ดีต้องตรวจสอบจุดต่างๆ ในบ้านว่ามีโอกาสที่จะมีปลวกก่อนซื้อบ้านนะครับ โดยตรวจได้ดังนี้
- ลองสังเกตตามกำแพง พื้น หรือผนัง รวมถึงต้นไม้ว่ามีดินที่เป็นเส้นสีดำๆ เป็นทางยาวหรือไม่ หากพบแสดงว่าปลวกมาแน่ครับ เพราะปลวกมีผิวหนังที่บอบบาง จึงต้องสร้างทางเดินคลุมตัวเวลาออกหาอาหาร
- หากบ้านมีรอยแยก รอยแตกให้เอาไม้มาเขี่ยๆ หรือใช้ไฟส่องดูด้วยว่ามีรังปลวกหรือปลวกอาศัยอยู่หรือไม่
- ใช้ไขควงเคาะตามวงกบประตูและหน้าต่าง หากได้ยินเสียงก้อง แสดงว่าอาจมีปลวกกินไม้ข้างใน
- เงยหน้ามองบริเวณฝ้าเพดาน ถ้าแผ่นเรียบมีสีขาวตลอดทั้งแผ่นแสดงว่าไม่มีปลวก แต่ถ้าเห็นจุดสีน้ำตาล คล้ายดิน มีผงออกมาเป็นรูๆ หรือเป็นคราบคล้ายรอยน้ำรั่วแต่ไม่มีคราบน้ำ แสดงว่าอาจมีปลวกได้
- เดินสำรวจบ้านว่ามีปีกแมลงเม่าที่มักจะตกอยู่หรือไม่ เพราะแมลงเม่าคือปลวกก่อนที่จะสลัดปีกนั่นเอง
- เดินดูรอบบ้านว่ามีก้อนดินเล็กๆ คล้ายขี้เลื้อยหรือไม่ เพราะนั้นคือมูลของปลวกนั่นเอง
- ถามคนขายว่ามีระบบท่อฉีดปลวกให้ไว้หรือเปล่า ถ้ามีเมื่อเกิดปัญหาเราจะสามารถป้องกันและแก้ไขได้ง่าย
- ควรเลือกประตู วงกบ หรือหน้าต่าง รวมถึงตู้ครัวต่างๆ ที่เป็นไฟเบอร์ ไม่ควรเป็นไม้ เพราะปลวกจะกินได้ง่าย
4. ระบบระบายความชื้น
หากบ้านมีความชื้นสูง จะทำให้บ้านเกิด “เชื้อรา” เกาะตามผนัง เพดาน รวมถึงอาจขึ้นถึงเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ในบ้านได้ ฉะนั้นก่อนตัดสินใจซื้อบ้านควรตรวจระบบระบายอากาศภายในบ้านให้ดีด้วยครับ ได้แก่
- สังเกตสีทาผนัง ปูน หรือวอลล์เปเปอร์ ว่ามีการลอกล่อน มีรอยน้ำ ความอับชื้น หรือเชื้อราดำๆ หรือไม่
- กลิ่นอับชื้นในบ้าน
- บ้านมีช่องลมในขนาดและจำนวนที่เหมาะสม
- มีช่องแสงและช่องลมขนาดใหญ่
- เพดานหรือหลังคาเป็นวัสดุประเภท Vapor barrier หรือแผ่นวัสดุกันความชื้น
- หลังคาควรทำให้ลาดเอียงเพื่อระบายน้ำออกจากหลังคาให้เร็วที่สุด
- มีช่องระบายอากาศบริเวณหลังคา มีฉนวนป้องกัน และทำระบบรางน้ำ
บ้านของเราจะต้องอยู่ไปอีกนาน เฉพาะนั้นต้องเช็คให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจซื้อบ้านสักหลังมาอยู่อาศัยนะครับ