Baania
Baania
จังหวัด
ประเภทประกาศ
ประเภทอสังหาริมทรัพย์
ราคา

เอพีปักธงคอนโดอโศก-พระราม9 ชี้ล้มซุปเปอร์ทาวเวอร์ไม่กระทบ

x
คลิกที่นี่ เพื่อฟังบทความ

เอพี ชี้อโศก-พระราม 9 ยังฮอต แม้โครงการซุปเปอร์ ทาวเวอร์จะล่มหลังเซ็นทรัล เทคฯจีแลนด์  แต่จะไม่กระทบศักยภาพทำเล เตรียมปักธงคอนโดใหม่  ไลฟ์ อโศก ไฮป์ เป็นโครงการที่ 7 ชูจุดแข็งราคาเฉลี่ยต่ำกว่าตลาด  

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กร และการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า บริษัทเตรียมจะเปิดขายโครงการ ไลฟ์ อโศก ไฮป์ ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมโครงการที่ 7 ของบริษัทที่อยู่ในทำเลอโศก-เพชรบุรี-พระราม 9 จากก่อนหน้านี้บริษัทได้เปิดขายไปแล้ว 6 โครงการ จำนวน 5,858 ยูนิต มูลค่ารวม 25,800  ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นโครงการร่วมทุนระหว่าง เอพี กับ มิตซูบิชิ จิโช เรสซิเดนซ์ บริษัทในเครือมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป - MECG มูลค่าโครงการ 5,700 ล้านบาท สูง 40 ชั้น จำนวน 1,253 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท หรือมีราคาเฉลี่ย 135,000 บาทต่อตารางเมตร(ตร.ม.)  ถือเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาเฉลี่ยปัจจุบัน และเป็นราคาที่ผู้บริโภคที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในเมืองเอื้อมถึง 


นายวิทการ จันทวิมล และ นายขยล ตันติชาติวัฒน์

สำหรับ โครงการ ไลฟ์ อโศก ไฮป์ จะประกอบด้วย ห้องชุดแบบ  สตูดิโอ ขนาด 25.50 ตารางเมตร  ห้องชุด 1 ห้องนอน ขนาด 30.50 – 32.00 ตารางเมตร ห้องชุด 1 ห้องนอน (แบบพิเศษ) ขนาด 35.00-40.00 ตารางเมตร และ ห้องชุด 2 ห้องนอน ขนาด 48.50 – 64.00 ตารางเมตร โดยโครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 5-0-10 ไร่ ทำเลศักยภาพย่านธุรกิจแห่งอนาคตอโศก-พระราม 9 โดยจะเปิดจองรอบแรกผ่านระบบ AP i-Booking ในวันอังคารที่ 2 ตุลาคมนี้ เวลา 19.00 - 21.00 น. และมีกำหนดเปิดพรีเซลอย่างเป็นทางการพร้อมกันทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศในวันที่ 6-7 ตุลาคมนี้
นายวิทการ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา ได้เข้าซื้อหุ้นในบริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ จี แลนด์ บริษัทพัฒนาที่ดินที่มีแผนจะพัฒนาพื้นที่บริเวณแยกพระราม 9 ตัดรัชดาภิเษก และมีแผนจะพัฒนาโครงการซุปเปอร์ ทาวเวอร์ อาคารที่สูงที่สุดในประเทศจำนวน 125 ชั้น แต่แผนล้มเลิกไปหลังจากการขายหุ้นให้กลุ่มเซ็นทรัล โดยระบุว่า กลุ่มเซ็นทรัล เป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการเข้ามาพัฒนาที่ดินของจีแลนด์ จึงเชื่อว่า แม้ว่าจะไม่มีการพัฒนาโครงการซุปเปอร์ ทาวเวอร์ ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อศัยภาพของทำเล และราคาที่ดินแต่อย่างใด     

ด้านนายขยล ตันติชาติวัฒน์ ผู้อำนวยการ บริษัท บางกอกซิตี้สมาร์ท จำกัด บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนในธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ใจกลางเมืองในเครือเอพี กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันคอนโดมิเนียมที่เปิดขายในทำเลตั้งแต่แยกอโศกถึงแยกอโศก เพชรบุรี มีราคาเฉลี่ยยู่ที่ 240,000 บาท/ตร.ม.และทำเลตั้งแต่แยกอโศกเพชรบุรี-สถานีศูนย์วัฒนธรรม มีราคาเฉลี่ยยู่ที่ 175,000 บาท/ตร.ม. ขณะที่ราคาคอนโดพรีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ 159,000 บาท/ตร.ม. โครงการไลฟ์ อโศก ไฮป์ จึงเป็นโครงการที่เหมาะสำหรับการซื้อเพื่ออยู่อาศัย และการซื้อเพื่อลงทุนในระยะยาว 

 “พื้นที่ย่านเชื่อมต่อ อโศก-เพชรบุรี-พระราม 9 ถือว่าเป็นย่านธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ เป็นทำเลแห่งโอกาส ทั้งอัตราการเข้ามาของลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยเฉพาะชาวต่างชาติจากแถบเอเชียทั้ง ไต้หวัน สิงค์โปร์ ฮ่องกง จีน และญี่ปุ่น โดยมีการคาดการณ์จำนวนพนักงานในบริษัทสัญชาติไทยและกลุ่มทุนต่างชาติ ที่กำลังจะย้ายเข้ามาอย่างเต็มรูปแบบในย่านศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่นี้กว่า 78,000 คนในปี 2563  จึงทำให้มีผู้ประกอบการอสังหาฯ สนใจลงทุนในย่านนี้จำนวนมากและทำให้การแข่งขันสูง" นายขยลกล่าว

สำหรับภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมทำเลเชื่อมต่อ อโศก-เพชรบุรี-พระราม 9 ย้อนหลัง 5 ปี พบโครงการใหม่ที่เปิดตัวในย่านทั้งสิ้น 19 โครงการ แบ่งเป็นโครงการที่เปิดตัวในแนวถนนเส้นหลักตั้งแต่แยกอโศก-อโศกเพชรบุรี จำนวน 9 โครงการ ในราคาขายเฉลี่ย 240,000 บาท/ตร.ม. มียอดขายรวม 82% และเป็นโครงการที่เปิดตัวตั้งแต่แยกอโศกเพชรบุรี-สถานีศูนย์วัฒนธรรม จำนวน 10 โครงการ ในราคาขายเฉลี่ย 175,000 บาท/ตร.ม. และมียอดขายรวมแล้วถึง 83% 

ขณะที่คอนโดมิเนียมในกลุ่มสินค้ารีเซลก็พบการปรับตัวขึ้นมาปีละประมาณ 9% เช่นกัน นอกจากนี้  ผู้ซื้อที่ต้องการลงทุนในการปล่อยเช่าและขายต่อให้ความสนใจในตลาดโซนนี้ไม่แพ้กัน เพราะผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าระยะยาว (Rental Yield) ของคอนโดฯ ในย่านนี้ พบอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 5 - 6% 

นายวิทการ  กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ทั้งนี้ในปี 2561 บริษัทเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 38 โครงการมูลค่า 59,580 ล้านบาท เป็นโครงการที่เปิดตัวในครึ่งปีหลังจำนวน 30 โครงการ มูลค่า 49,210 ล้านบาท แบ่งเป็นเปิดตัวในไตรมาส 3 จำนวน 12 โครงการ มูลค่า 17,980 ล้านบาท และไตรมาส 4 จำนวน 18 โครงการ มูลค่า 31,230 ล้านบาท ณ วันที่ 15 กันยายน บริษัทฯ สร้างยอดขายรวมได้แล้วถึง 29,710 ล้านบาท 

แบ่งเป็นยอดขายจากคอนโดมิเนียมมูลค่า 14,455 ล้านบาท และที่อยู่อาศัยแนวราบมูลค่า 15,255 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายได้แล้วราว 75% ของเป้ายอดขาย ปี 2561 ที่ตั้งไว้ 39,800 ล้านบาท มีสินค้ารอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ามากถึง 54,255 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบมูลค่าราว 9,675 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้ทั้งหมดภายในปีนี้ และคอนโดมิเนียมมูลค่า 44,580 ล้านบาท (รวมโครงการร่วมทุน) โดยจะทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 2566 

Baania มี Line แล้วนะ
ติดตามเรื่องราวอสังหาริมทรัพย์แบบอินเทรนด์ ได้ทุกวันผ่าน Line ID @baania

 

ประกาศยอดนิยม ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร

โครงการยอดนิยม ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร