ครม.เตรียมดำเนินการจัดสรรงบประมาณประจำปี 2562

ออกมาแล้วสำหรับแผนการจัดสรรงบประมาณเพื่อพัฒนาประเทศประจำปี 2562 โดยสำนักงบประมาณได้เตรียมเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่วม ก่อนจะเสนอให้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาในวันที่ 7 มิถุนายนนี้

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการระทรวงคมนาคมเปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับ สำนักงบประมาณ เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2561 ว่า สำนักงบประมาณจะเสนอ ครม. ให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณในวันที่ 28 พฤษภาคม 2561 ก่อนจะเสนอ ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) พิจารณาในวันที่ 7 มิถุนายนนี้

นอกจากนี้ยังหารือเกี่ยวกับกรอบวงเงินงบประมาณประจำปี 2562 ของ กระทรวงคมนาคม วงเงิน 209,323 ล้านบาท พบว่า ภาพรวมลดลงประมาณ 2% จากปี 2561 ที่ได้รับการจัดสรรจำนวน 213,389 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นส่วนราชการจำนวน 183,732 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 9% และรัฐวิสาหกิจจำนวน 25,590 ล้านบาท ลดลงประมาณ 42% ซึ่งในงบประมาณปี 2562 ส่วนใหญ่จะเน้นการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก(EEC), โครงการไทยแลนด์ริเวียร์ร่า รวมถึงโครงการที่ประชาชนนำเสนอจากการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.สัญจร และการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

สำหรับในส่วนของรัฐวิสาหกิจที่ได้รับการจัดสรรงบฯ ลดลง เนื่องจากวงเงินรวมลดลงจากงานจัดกรรมสิทธิ์ เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ที่จะมีการดึงงบของการจัดกรรมสิทธิ์ของปีที่แล้วมาใช้ก่อน และถ้าหากสามารถเร่งเบิกจ่ายงบในส่วนนี้ได้ สำนักงบประมาณก็จะจัดสรรงบให้เพิ่มเติมต่อไป แม้ว่าหลังจากนี้อาจจะมีการปรับปรุงวงเงินเล็กน้อยแต่อยู่ภายในกรอบวงเงินที่เสนอ

ทั้งนี้ในส่วนของการจัดสรรงบประมาณของปี 2562
- กรมทางหลวง (ทล.) ได้รับการจัดสรรงบประมาณ วงเงิน 119,091 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่วงเงินอยู่ที่ 105,746 ล้านบาท
- กรมทางหลวงชนบท(ทช.) ได้รับการจัดสรรงบประมาณ วงเงิน 48,089 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่วงเงินอยู่ที่ 46,335 ล้านบาท

นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับต่อเนื่องตลอด 3 - 4 ปี คาดว่าในปี 2561 จะขยายตัวได้ร้อยละ 4.2 ต่อปี ในขณะที่การบริโภคและการลงทุนโดยรวมยังสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจได้ดี

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลได้วางรากฐานระยะปานกลางและระยะยาวให้แก่เศรษฐกิจ เพื่อสร้างโอกาสและความเชื่อมั่น ให้แก่ภาคเอกชนในการสนับสนุน การเติบโตทางเศรษฐกิจและเพิ่มขีด ความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เช่น โครงการลงทุนใน EEC โดยการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก 3 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง เพื่อให้เป็นฐานที่ตั้งสำคัญของการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งใช้เงินลงทุนกว่า 1.5 ล้านล้านบาท ในระยะ 5 ปี ข้างหน้า

ที่มา : ryt9

Baania มี Line แล้วนะ
ติดตามเรื่องราวอสังหาริมทรัพย์แบบอินเทรนด์ ได้ทุกวันผ่าน Line ID @baania