เงินเฟ้อปี’60 พุ่ง 0.66% สูงสุดในรอบ 2 ปี

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ (เงินเฟ้อ) เดือนธันวาคม 2560 เท่ากับ 101.37 ลดลง 0.08% เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2560 และเพิ่มขึ้น 0.78% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 ทำให้เงินเฟ้อรวมทั้งปีเพิ่มขึ้น 0.66% สูงสุดในรอบ 2 ปี นับจากปี 2558 และเป็นไปตามเป้าหมายที่ประเมินไว้ว่าจะขยายตัวในกรอบ 0.4-1.0%

สาเหตุที่เงินเฟ้อทั้งปี 2560 เพิ่มขึ้น 0.66% มาจากการเพิ่มขึ้นของสินค้าหมวดอื่น ๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม 1.04% โดยน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นตัวหลักทำให้เงินเฟ้อทั้งปีเพิ่มถึง 9.55% รองลงมาเป็นหมวดยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ เพิ่ม 2.73% จากการเพิ่มขึ้นของภาษีสรรพสามิต หมวดบันเทิง การอ่าน การศึกษาเพิ่ม 0.56% การตรวจรักษาเพิ่ม 0.29% เคหสถานเพิ่ม 0.08% ส่วนการสื่อสารลด 0.03% เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า ลด 0.01% ส่วนสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ลดลง 0.02% โดยผักสดลด 5.55% ผลไม้ลด 2.19% ข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้งลด 1.98% ไข่และผลิตภัณฑ์นมลด 2.15% เนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ และสัตว์น้ำลด 0.11% แต่เครื่องประกอบอาหาร เพิ่ม 1.23% เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์เพิ่ม 0.88% อาหารบริโภคในบ้านเพิ่ม 1.13%นอกบ้านเพิ่ม 1.17%

สำหรับแนวโน้มเงินเฟ้อปี 2561 ประเมินว่าจะอยู่ในกรอบ 0.6-1.6% ภายใต้สมมติฐาน การขยายตัวของเศรษฐกิจไทย 3.5-4.0% ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย 50-60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 33-35 บาทต่อเหรียญสหรัฐ

ปัจจัยสำคัญมาจากการฟื้นตัวของรายได้เกษตรกร จากการที่รัฐบาลเข้าไปดูแลราคาสินค้าเกษตร มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การส่งออกขยายตัว รายได้จากท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น การใช้จ่ายภาครัฐเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่มีปัจจัยเสี่ยงนโยบายการค้าของคู่ค้าจะส่งผลต่อการส่งออก ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน

ที่มา : prachachat