Baania
Baania
จังหวัด
ประเภทประกาศ
ประเภทอสังหาริมทรัพย์
ราคา

ลลิล รับ ศก. ฟื้น ผุด 8-10 โครงการบ้านแนวราบ ร่นเวลาขาย-โอนเหลือ 2 เดือน

x
คลิกที่นี่ เพื่อฟังบทความ

นักพัฒนาที่ดินรุ่นลายคราม ไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และอดีตนายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรหลายสมัย ฉายภาพเศรษฐกิจไทยและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงขึ้นปี 2561 ด้วยความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจปีนี้อยู่ในช่วงของการฟื้นตัวต่อเนื่องทั้งภายในและภายนอก

สถานการณ์โลกส่งสัญญาณเป็นบวก

สิ่งแรกที่เป็นข่าวดีตั้งแต่ต้นปี คือสถานการณ์ที่ผ่อนคลายลงในคาบสมุทรเกาหลี เมื่อผู้นำของเกาหลีเหนือ คิมจองอึน ยกหูพูดคุยกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เพื่อฟื้นสัมพันธ์หลังจากที่บาดหมางกันมายาวนาน  ถือเป็นข่าวดีของคนทั้งโลกเลยทีเดียว

ขณะที่เศรษฐกิจโลกก็เริ่มดีขึ้น สหรัฐอเมริกานั้นเริ่มฟื้นตัวมาได้ 3-4 ปีแล้ว ปีก่อนสหภาพยุโรปก็เริ่มฟื้นตัว ต่อเนื่องมาจนถึงปีนี้ เช่นเดียวกับมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในฝั่งเอเชียอย่างญี่ปุ่นก็ฟื้นตัวดีขึ้นด้วยการกระตุ้นการท่องเที่ยว และนโยบายธนู 3 ดอก (การใช้นโยบายการเงิน การคลัง และการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจควบคู่กันไป)

ด้านประเทศในเอเชียที่เป็นหัวหอกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกอย่างจีน อินเดีย และกลุ่มประเทศในอาเซียน ก็ยังเติบโตได้ดีในปีนี้ โดยจีนได้พยายามคุมการเติบโตได้ดี และยอมรับกับการเติบโตของเศรษฐกิจที่ 6.5-6.6% ทำให้คลายกังวลเรื่องฟองสบู่ในจีนไปได้

เศรษฐกิจไทยได้เวลาฟื้นตัวชัดเจน

สำหรับไทยก็มีสัญญาณที่ดีในหลายเรื่อง เมื่อเศรษฐกิจเริ่มผงกหัวขึ้นในช่วงปลายปีที่แล้ว หลังจากการเมืองมีความชัดเจนในเรื่องของการเลือกตั้ง และภาคการท่องเที่ยวยังเติบโตได้อย่างน่าพอใจ และมีโอกาสที่จะแซงหน้าฝรั่งเศส และอิตาลี  

เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ประกอบด้วยการส่งออกจะฟื้นตัวดีขึ้นจากเศรษฐกิจโลกที่กลับมาดีขึ้น สินค้าเกษตรที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกจะมีราคาที่ดีขึ้น

การลงทุนภาครัฐในปีนี้จะมีการประมูลโครงการก่อสร้างอีกหลายโครงการมูลค่ารวมกว่า 6 แสนล้านบาท โดยคาดว่าจะมีเงิน 2-3 แสนล้านเข้าสู่อุตสาหกรรมก่อสร้าง และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง ทำให้เกิดการจ้างงาน  

ยิ่งเมื่อมีการเลือกตั้ง กองทุนต่างประเทศที่มีนโยบายไม่ลงทุนในประเทศที่ไม่เป็นประชาธิปไตยก็จะกลับเข้ามาอีกมาก เพราะไทยยังถือเป็นประเทศที่กองทุนให้ความสนใจ แต่ที่ผ่านมาติดเงื่อนไขเรื่องของการเมือง ขณะที่การลงทุนของเอกชน ก็จะเริ่มเข้ามาลงทุนตามทำเลใหม่ๆ ที่เกิดจากการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานครั้งมโหฬารนี้ โดยมีโครงการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการลงทุนของเอกชนในอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่รัฐกำหนดขึ้น

เครื่องยนต์ตัวสุดท้ายคือการจับจ่ายของภาคประชาชน ซึ่งจะเริ่มมีความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นสัญญาณเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว หนี้ครัวเรือนและหนี้จากธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจะเริ่มลดลงในปีนี้อยู่ที่ระดับ 77-78% และคาดว่าจะใช้เวลาอีก 2 ปี สถานการณ์ของหนี้ครัวเรือนจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

นอกจากนี้ ยังมีเครื่องยนต์ตัวที่ 4.5 ซึ่งได้แก่ภาคการท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวได้ดีมาก ขณะเดียวกันรัฐบาลยังมีนโยบายที่จะกระตุ้นการท่องเที่ยวในเมืองรอง เป็นการขยายฐานการท่องเที่ยวให้กว้างยิ่งขึ้น เมื่อเครื่องยนต์ทั้ง 4 ตัว และการท่องเที่ยวดีขึ้น ก็จะทำให้เศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวได้อย่างถาวรและมั่นคงยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยลบที่ยังน่ากังวลคือความไม่แน่นอนของการเมืองโลก รวมถึงเสถียรภาพการเมืองในประเทศที่อาจจะทำให้มีปัญหาขึ้นมาได้เช่นกัน

อสังหาฯ ขยับตัวตามคาด โตได้ 5-7%

มาถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ไชยยันต์ มองว่าจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้น ดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำ แม้ว่าจะมีการปรับดอกเบี้ยขึ้นบ้าง หรือประมาณ .75% ตลอดทั้งปีก็ยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำ และพอรับได้ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเริ่มกลับมา ขณะที่ปัญหาหนี้ครัวเรือนลดลงจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดน่าจะเติบโตได้ 5-7%

ที่อยู่อาศัยแนวราบจะกลับมาเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคอีกครั้ง หลังจากราคาที่ดินในการพัฒนาคอนโดมิเนียมตามแนวสถานีรถไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาคอนโดมิเนียมในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาขยับขึ้น 30-45% หรือเฉลี่ยปีละ 10-15% ทำให้ไม่สอดคล้องกับกำลังซื้อของคนในระดับกลางที่มีกำลังซื้อบ้านในราคา 2-5 ล้านบาท  บ้านเดียว และทาวน์โฮมจึงเป็นตัวเลือกทดแทนการซื้อคอนโดมิเนียม

ขณะที่ตลาดคอนโดมิเนียมในบางทำเล บางเซ็กเมนต์ เช่น แนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงบางใหญ่ - บางซื่อ หรือสายสีเขียวส่วนต่อขยายสมุทรปราการ ที่เริ่มเห็นภาวะโอเวอร์ซัพพลายอยู่บ้าง  

ลลิล 4.0 เพิ่มสปีด รับกำลังซื้อฟื้นตัว

สำหรับการแข่งขันในตลาดอสังหาฯ ปีนี้ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ มองว่าปีนี้เป็นปีของพรีเมียร์ลีค หรือการแข่งขันกันเองของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีอยู่กว่า 30 บริษัท และเป็นยุคที่ต้องแข่งขันกันด้วยความว่องไว ใครพร้อมกว่า เร็วกว่า มองตลาดได้แม่นกว่า ชิงลงมือได้เร็วกว่าก็ย่อมได้เปรียบ

เช่นเดียวกับลลิลฯ ที่ต้องปรับตัวเป็นลลิล 4.0 ดึงเทคโนโลยีในด้านต่างๆ และระบบก่อสร้างสำเร็จรูป เข้ามาช่วยเพิ่มสปีดในการทำงาน ร่นระยะเวลาตั้งแต่การซื้อขายจนถึงการโอนบ้านให้ถึงมือลูกค้าจาก 5 เดือน เหลือเพียง 2 เดือน พร้อมการเดินหน้าดิจิทัล มาร์เก็ตติง อย่างเต็มกำลัง โฟกัสชัดเจนที่กลุ่มเรียลดีมานด์ หรือกลุ่มซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง

ในปีนี้ ลลิลฯ วางแผนเปิดตัวโครงการบ้านแนวราบรวม 8-10 โครงการ มูลค่ารวม 4,500-5,000 ล้านบาท เฉลี่ยไตรมาสละ 2 โครงการ เริ่มเดินเครื่องเปิดโครงการใหม่ตั้งแต่ปลายเดือนม.ค.นี้ 2 โครงการ ทางฝั่งกทม.ตอนเหนือ และสุวรรณภูมิ โดยตั้งเป้ายอดขายทั้งปีอยู่ที่ 4,400 ล้านบาท มียอดรับรู้รายได้ 4,000 ล้านบาท เติบโต 15%

ในปีนี้ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ออกตัวได้อย่างกระฉับกระเฉง รับกับสภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ใครชิงลงมือก่อนย่อมได้เปรียบ

บทความแนะนำ

ประกาศยอดนิยม ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร

โครงการยอดนิยม ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร