เทรนด์คนรุ่นใหม่นิยมซื้อ "คอนโดมิเนียม" ในเมืองท่องเที่ยวไว้ พักผ่อนและปล่อยเช่าช่วงไฮซีซันเป็นปัจจัยกระตุ้นตลาดเติบโต
อนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวว่า พลัส ฯ สำรวจที่อยู่อาศัยในทำเลเมืองท่องเที่ยวหลัก 5 พื้นที่ ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา หัวหิน-ชะอำ และเขาใหญ่ พบว่าที่อยู่อาศัยรูปแบบ "คอนโดมิเนียม" มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด 76% (9.81 หมื่น ยูนิต) ตามด้วย บ้านเดี่ยว 19% (2.49 หมื่นยูนิต) และทาวน์เฮ้าส์ 5% (5,998 ยูนิต)
ปี 2558-2560 คอนโดมิเนียมเมืองท่องเที่ยวเติบโตได้ดี มียอดขายเฉลี่ยทั้ง 5 พื้นที่ 80% จากอุปทานเกือบ 1 แสนยูนิต อยู่ในเกณฑ์ดีจากการท่องเที่ยวที่เติบโตโดดเด่นและนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนระยะยาวนิยมเช่าคอนโดมิเนียมเป็นที่พักอาศัย ส่งผลให้การปล่อยเช่าได้รับอัตราผลตอบแทนสูง แม้บางพื้นที่ปล่อยเช่าได้เฉพาะฤดูกาลท่องเที่ยว ด้วยราคาปล่อยเช่าที่สูงกว่าทำเลทั่วไปทำให้มีคนสนใจซื้อ รองรับความต้องการพักผ่อนเองและปล่อยเช่าในบางช่วง อีกทั้งคนในพื้นที่นิยมซื้อไว้เป็นบ้านพักตากอากาศ และเก็บไว้เก็งกำไร เพราะเห็นแนวโน้มเติบโตที่ดี
"พฤติกรรมการซื้อคอนโดมิเนียมในเมืองท่องเที่ยวเป็นลักษณะ time sharing ที่ไปพักเองเมื่อไหร่ก็ได้ และสร้างรายได้จากการปล่อยเช่า มาช่วยค่าผ่อนหรือค่าใช้จ่ายต่างๆ เขาใหญ่ และ หัวหิน-ชะอำ ปล่อยเช่ากลุ่มนักท่องเที่ยวเกือบ 100% เข้าพักสูง ต.ค.-ก.พ. เฉลี่ยเดือนครึ่ง"
สำหรับตลาดปล่อยเช่าและนำกลับมาขายใหม่ (รีเซล) "เชียงใหม่" คอนโดมิเนียมที่นำมาปล่อยเช่าขนาด 30-60 ตร.ม. ค่าเช่า 1-2.5 หมื่นบาทต่อเดือน ราคารีเซลบางคอนโดมิเนียมขนาด 1 ห้องนอน 30 ตร.ม. ขาย 7.5-8 หมื่นบาท ต่อตร.ม. หรือยูนิตละ 2-2.5 ล้านบาท ราคารีเซล เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 4-5% อนาคตคาดราคามีโอกาสปรับขึ้นอีก เนื่องจากมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่สนับสนุนการเติบโตของเชียงใหม่ อาทิ รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ มอเตอร์เวย์เชื่อมเชียงใหม่-เชียงราย
ส่วน "ภูเก็ต" คอนโดมิเนียมนิยมปล่อยเช่าห้องพักในแบบสตูดิโอ และ 1 ห้องนอน 30-32 ตร.ม. ค่าเช่าซิตี้คอนโด 1-1.8 หมื่นบาทต่อเดือน ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี 6-8% สำหรับค่าเช่ารีสอร์ทคอนโดติดหาด จะได้รับความนิยมโดยเฉพาะช่วงไฮซีซัน ค่าเช่า 5-7 หมื่นบาทต่อเดือน ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี 4-5% ราคาคอนโดมิเนียมเฉลี่ยทั้งตลาดอยู่ที่ 9.97 หมื่นบาทต่อตร.ม. ขยับขึ้น 7% ปัจจุบันคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ ราคาเปิดขายเฉลี่ย 1.3 แสนบาทต่อตร.ม. ส่วนใหญ่ เป็น Resort Property ที่อยู่ริมหาด
พื้นที่ "หัวหิน-ชะอำ" คอนโดมิเนียมรีเซล ติดชายทะเล เฉลี่ย 1.35 แสนบาทต่อตร.ม. เพิ่มขึ้นจากตอนเปิดโครงการ 10% ส่วนโครงการ ไม่ติดชายทะเลราคารีเซล 7.9 หมื่นบาทต่อตร.ม. เพิ่มขึ้นจากตอนเปิดโครงการ 19% การปล่อยเช่าโครงการใจกลางเมืองติดชายทะเล 1 ห้องนอน 3.5-4.5 หมื่นบาทต่อเดือน 2 ห้องนอน 5.5-7 หมื่นบาทต่อเดือน โครงการไม่ติดทะเล 1 ห้องนอน 1.5-2 หมื่นบาทต่อเดือน 2 ห้องนอน 3-5 หมื่นบาทต่อเดือน
คอนโดใน "พัทยา" ราคา รีเซลบางโครงการในพัทยากลาง 1.1 แสนบาท ต่อตร.ม. ปล่อยเช่า 1 ห้องนอน 30-35 ตร.ม. 1.8-2 หมื่นบาทต่อเดือน ผลตอบแทน 6-7%ต่อปี ราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นปีละ 5%
พื้นที่ "เขาใหญ่" ราคาขายรีเซล 1 ห้องนอน 50-55 ตร.ม. 9.2 หมื่นบาทต่อตร.ม. หรือยูนิตละ 4.6-5.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 5-6% อย่างไรก็ตาม คอนโดมิเนียมในพื้นที่เขาใหญ่นิยมปล่อยเช่าห้องพักแบบระยะสั้น หรือไฮซีซัน เดือน พ.ย.-ม.ค.
ช่วงปี 2559-2560 คอนโดมิเนียมในเชียงใหม่ หัวหิน-ชะอำและภูเก็ต ตลาดเติบโตต่อเนื่องจากอุปสงค์ที่นิยมซื้อเป็นบ้านพักตากอากาศ พัทยา และเขาใหญ่ ตลาดทรงตัว จากการระบายอุปทานที่คงค้าง ในทางกลับกันยังมีการขยายตัวในบางทำเล
พฤติกรรมการซื้อคอนโดมิเนียมในเมืองท่องเที่ยวเป็นลักษณะ time sharing ที่ไปพักเองเมื่อไหร่ก็ได้ และสร้างรายได้จากการปล่อยเช่า