Baania
Baania
จังหวัด
ประเภทประกาศ
ประเภทอสังหาริมทรัพย์
ราคา

แอล.พี.เอ็น. Year of Change ลุยหนักคอนโด-บ้านในเมือง

x
คลิกที่นี่ เพื่อฟังบทความ

แม้ในปี 2561 จะคาดการณ์กันว่า เศรษฐกิจไทย จะฟื้นตัวดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่เชื้อไข้ของภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในช่วงผ่านมายังไม่หมดไปซะทีเดียว ปัญหาเรื้อรังที่ยังคงอยู่คือภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ส่งผลกระทบต่อตลาดที่อยู่อาศัยระดับกลาง-ล่างในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เจ้าตลาดคอนโดมิเนียมระดับกลาง-ล่าง ต้องปรับตัวครั้งใหญ่ สู่ตลาดกลางบน เมื่ออู่ข้าวอู่น้ำที่มีอยู่มีปัญหาส่งผลกระทบต่อรายได้ที่ลดลง

ในปีนี้เป็นอีกปีที่ แอล.พี.เอ็น.จะยังปักหมุดโครงการในตลาดกลาง-บนต่อเนื่อง เพื่อสร้างรายได้ทดแทนตลาดกลาง-ล่าง และยิ่งไปกว่านั้นยังขยับขยายไปสู่ตลาดบ้านไฮเอนด์ ด้วยแบรนด์ใหม่ ในช่วงเริ่มต้นปี เราได้พูดคุยกับ โอภาส ศรีพยัคฆ์ ซึ่งปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเม้นท์ ถึงทิศทางและการเปลี่ยนแปลงของบริษัทเนื่องด้วย ซีอีโอคนใหม่ จะเป็นหัวขบวนในการ “Shift to Change” องค์กร เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาที่พักอาศัยในเมือง (Affordable House) แบบบูรณาการ และการก้าวสู่องค์กรแห่งความยั่งยืน 

ก่อนอื่น โอภาส ได้ประเมินภาวะเศรษฐกิจ และทิศทางของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในปีนี้ว่า เศรษฐกิจไทยจะยังขยายตัวได้ดี ซึ่งที่จริงใน 2-3 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจก็มีการเติบโตดี แต่เป็นการเติบโตในแบบกระจุกตัวลงมาไม่ถึงคนชั้นกลาง ชั้นล่าง ทำให้มีความรู้สึกว่าเศรษฐกิจไม่ดีและระมัดระวังการใช้จ่าย แต่ในปี 2561 การกระจายตัวน่าจะดีขึ้นจากการขยายการลงทุนในด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของภาครัฐ 

อย่างไรก็ตาม ธนาคารพาณิชย์จะยังไม่ปล่อยสินเชื่อให้กับผู้บริโภคในระดับกลาง-ล่าง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ธนาคารยังมองตลาดระดับล่างยังไม่ดี ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจ ว่าจะขยายตัวและกระจายตัวได้แค่ไหน โดยเชื่อว่า การลงทุนโครงการเมกะโปรเจ็กต์ ที่รัฐบาลผลักดัน และการผลักดันโครงการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี จะทำให้เศรษฐกิจไทยกระจายตัวออกไปได้มากขึ้น

โอภาส ประเมินว่า ตลาดระดับกลาง-ล่าง น่าจะใช้เวลาอีก 2 ปี คือปีนี้และปีหน้าถึงจะกลับมาฟื้นตัว ซึ่งที่จริงแล้วความต้องการซื้อไม่ได้หายไปไหน ยังคงมีอยู่ตลอดเวลา แต่ที่ผ่านมายังไม่กล้าตัดสินใจซื้อ หรือซื้อแล้วก็กู้ไม่ได้ โดยใน 2 ปีที่ผ่านมาตลาดผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และในปีหน้าน่าจะคลายตัว ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้หันไปทำตลาดไฮเอนด์ ซึ่งมีความต้องการจำกัด ทุกโครงการนำไปขายต่างชาติกันหมด สัดส่วน 30-40% โดยเฉพาะคนจีน  หากมีการเปลี่ยนแปลงจะเกิดอะไรขึ้น 

สำหรับ แอล.พี.เอ็น.ในปีนี้จะมีโครงการใหม่ประมาณ 10 โครงการ มูลค่ารวม 1.5 บาหมื่นล้านบาท โดยโครงการส่วนใหญ่จะยังคงเน้นในตลาดกลาง-บนทำเลในเมืองเป็นหลัก เพราะต้องการเร่งสร้างรายได้ให้กลับมาอยู่ในจุดเดิม ประกอบกับ ตลาดกลาง-ล่างยังไม่ฟื้นตัว โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 2 หมื่นล้านบาท  

ทั้งนี้ซีอีโอ แอล.พี.เอ็น. ตั้งเป้าไว้ว่าในปี 2562 จะนำพาบริษัทกลับไปยืนอยู่ในจุดเดิมที่เคยทำรายได้จากการขายสูงสุด 1.5 หมื่นล้านบาทไว้ในปี 2558  หลังจากนั้นตลาดระดับกลาง-ล่างได้ชะลอตัวลงทำให้รายได้ในปี 2559 เหลือ 1.3 หมื่นล้านบาท และในปี 2560 แอล.พี.เอ็น.เปิดโครงการไป10 โครงการ มูลค่ารวม 1.4 หมื่นล้านบาท มียอดขายอยู่ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท ส่วนรายได้คาดว่าจะต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 1 หมื่นล้านบาท โดย 9 เดือน มีรายได้จากการขายคอนโดประมาณ 5,500 ล้านบาทเท่านั้น


โครงการลุมพินี พาร์ค พหลโยธิน 32

อย่างไรก็ตาม ในปี 2560 แอล.พี.เอ็น. ได้ปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ หันมาพัฒนาคอนโดมิเนียมในตลาดกลาง-บน มากขึ้น ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดี และเป็นฐานให้แอล.พี.เอ็น.กลับมาลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง เช่น โครงการเดอะ ซีเล็คเต็ด เกษตร-งามวงศ์วาน บายแอล.พี.เอ็น. โครงการลุมพินี สวีท ดินแดง-ราชปรารภ โครงการลุมพินี พาร์ค พหลโยธิน 32 โครงการลุมพินี เพลส พระราม 3-ริเวอร์ไรน์ เป็นต้น 

สำหรับในปีนี้แอล.พี.เอ็น.จะยังคงขยายตลาดคอนโดในเมืองระดับกลางบนเป็นหลัก เช่น จะมีการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมย่านสุทธิสาร หรือบนถนนวิภาวดี รวมถึงโครงการมิกซ์ยูส ที่มีทั้งอาคารสำนักงาน และคอนโด บริเวณถนนวิภาวดี-พหลโยธิน 18 มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท แต่ที่พิเศษกว่านั้นคือ แอล.พี.เอ็น.จะการขยายตลาดบ้านแนวราบระดับพรีเมี่ยมทั้งบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮม โดยจะเปิดตัว แบรนด์ บ้าน 365 บ้านที่อยู่อย่างมีความสุขได้ทุกวัน โดยมีการตั้งบิซิเนส ยูนิต ขึ้นใหม่ในบริษัท แอล.พี.เอ็น. เพื่อพัฒนาโครงการในระดับไฮเอนด์ ขณะที่บริษัท พรสันติ จะยังคงพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบระดับกลาง และกลาง-ล่างต่อไป สำหรับบ้าน 365 จะมีทั้งทาวน์โฮมราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป และบ้านเดี่ยวในเมืองราคา 30-40 ล้านบาท เปิดโครงการแรกในทำเลพระราม 3 ช่วงกลางปี และปลายปีอาจจะมีเพิ่มอีก 1-2 โครงการ 


ทั้งหมดคือ แผนการลุยตลาดกลาง-บนในปี 2561 ที่จะเป็นสปริงบอร์ดให้แอล.พี.เอ็น.กลับไปมียอดขาย และรายได้อยู่ในจุดที่เคยเป็นอีกครั้ง และโอภาส ยังยืนยันว่า จะไม่ทิ้งตลาดกลาง-ล่าง ที่เป็นฐานหลักของบริษัท ซึ่งในแต่ละปีก็จะยังมีโครงการในเซ็กเมนต์กลาง-ล่าง แต่สัดส่วนในช่วงนี้จะน้อยกว่าโครงการในระดับบากลางบน เพื่อปั๊มยอดขาย รายได้ และเมื่อกลับไปอยู่จุดเดิมได้ แผนการต่างๆ จะกลับมาทบทวนใหม่อีกครั้ง โปรดคอยติดตาม

บทความแนะนำ

ประกาศยอดนิยม ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร

โครงการยอดนิยม ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร