แอล.พี.เอ็น. ปรับทัพธุรกิจผุดมิกซ์ยูส ออฟฟิศ-คอนโด 5 พันล้าน

บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) อยู่ระหว่างจัดทัพถ่ายเลือดใหม่ หลังจากผู้บริหารในยุคบุกเบิก ทั้ง ทิฆัมพร เปล่งศรีสุข พิเชษฐ ศุภกิจจานุสันติ์ ยุพา เตชะไกรศร คัมภีร์ จองธุระกิจ ได้เปิดทางผู้บริหารรุ่นใหม่เข้ามาขับเคลื่อนองค์กรต่อ โดยให้ โอภาส ศรีพยัคฆ์ เข้ามารับช่วงทั้งในตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ พร้อมกับเซ็ตทีมงานใหม่ทั้งคนในและคนนอก เพื่อปรับองค์กรสู่การบริหารงานแบบมืออาชีพ

คนนอกที่ถูกดึงเข้ามาเสริมทัพในตำแหน่งบริหารระดับสูงครั้งนี้ ได้แก่ สุรวุฒิ สุขเจริญสิน ซึ่งเคยดำรงตำแหน่ง Head of Business Planning and Operations Development, บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด เข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงด้านกลยุทธ์ ซึ่งจะทำหน้าที่ในการวางกลยุทธ์สำคัญๆ ที่จะนำพา แอล.พี.เอ็น. มุ่งสู่อนาคตใหม่ และ อภิชาติ เกษมกุลศิริ จาก ธนาคารไอซีบีซี เป็นเจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงด้านการเงิน เป็น CFO ดูแลด้านการเงินทั้งหมด 

นอกจากนี้ยังมี ประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ เข้ามาดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด บริษัทในเครือที่ดูแลธุรกิจให้บริการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการต่างๆ ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

หากจะกล่าวถึงเจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงด้านกลยุทธ์คนใหม่ สุรวุฒิ สุขเจริญสิน ก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล เพราะเป็นลูกเขยของ พิเชษฐ ศุภกิจจานุสันติ์ ผู้บริหารรุ่นบุกเบิกของ แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ นั่นเอง ล่าสุด สุรวุฒิ เปิดตัวครั้งแรกกับงานเซ็นสัญญาแต่งตั้งให้บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์(ประเทศไทย) หรือเจแอลแอล เป็นตัวแทนจัดหาผู้เช่าสำหรับอาคารเอในส่วนโครงการลุมพินี ทาวเวอร์ วิภาวดี จตุจักร โครงการใหม่ล่าสุดของ แอล.พี.เอ็น.

"ปัจจุบันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการแข่งขันที่รุนแรงทำให้บริษัทต้องปรับตัว โดยได้นำรูปแบบการพัฒนาแบบมิกซ์ยูสมาใช้โครงการล่าสุด ได้แก่ โครงการลุมพินี ทาวเวอร์ วิภาวดี จตุจักร ซึ่งเป็นการต่อยอดการลงทฺนด้วยกลยุทธ์ขยายธุรกิจ โดยที่บริษัทตั้งใจกลับมาพัฒนาอาคารสำนักงานอีกครั้ง หลังจากเมื่อปี 2532 พัฒนาโครงการลุมพินี ทาวเวอร์ (ถนนพระราม 4) และแอล.พี.เอ็น.ทาวเวอร์ สำหรับการพัฒนาโครงการลุมพินี ทาวเวอร์ วิภาวดี จตุจักร นั้นเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการอาคารสำนักงานที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบันบนถนนวิภาวดีรังสิตหนึ่งในทำเลที่มีศักยภาพสูง" สุรวุฒิ กล่าว 
สำหรับโครงการลุมพินี ทาวเวอร์ วิภาวดี จตุจักร  จะพัฒนาเป็นมิกซ์ยูสบนเนื้อที่ 8 ไร่ ปากซอยวิภาวดี 3  มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็น อาคารสำนักงานลุมพินี ทาวเวอร์ วิภาวดี จตุจักร อาคาร A สูง 21 ชั้น พื้นที่เช่า 15,000 ตารางเมตร  มูลค่า 1,000 ล้านบาท ปล่อยเช่าในอัตราค่าเช่าเฉลี่ย 800-850 บาท/ตารางเมตร ส่วนอาคาร B สูง 17 ชั้น มูลค่า 1,000 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียมออฟฟิศเพื่อขาย เกรด B ราคาเฉลี่ย 100,000 บาท/ตารางเมตร พื้นที่ 50-60 ตารางเมตร เจาะกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี วางแผนการเปิดขายในไตรมาส 3

นอกจากนี้ ยังมีโครงการคอนโดมิเนียม ลุมพินี พาร์ค มูลค่า 2,000 ล้านบาท จำนวน 736 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 100,000 บาท/ตารางเมตร ขนาดเริ่มต้น 24 ตารางเมตร จะเปิดขายวันที่ 9 มิ.ย.2561
ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างการหาที่ดินเพื่อนำมาพัฒนาโครงการเพื่อสร้างรายได้ประจำเข้ามาเสริมธุรกิจ ตามแผน 3 ปี (ปี 61-63) จะมีการกระจายรายได้ไปในธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำมากขึ้น แต่ในช่วง 3 ปีนี้ รายได้หลักของบริษัทยังคงเป็นรายได้จากการขายโครงการคอนโดมิเนียมเป็นหลัก ซึ่งในปี 2563 สัดส่วนของรายได้ประจำที่มาจากค่าเช่าอาคารสำนักงานจะยังไม่ถึง 10% โดยบริษัทจะต้องมีการพัฒนาโครงการอาคารสำนักงานเพิ่มเติม รวมไปถึงการศึกษาการพัฒนา Co-working space ซึ่งเป็นแนวทางที่บริษัทสนใจ โดยคาดว่าจะมีข้อสรุปการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าเพิ่มอีกอย่างน้อย 1 โครงการภายในปีนี้

นับจากนี้ แอล.พี.เอ็น. น่าจะมีแนวทางพัฒนาที่แปลกใหม่ขึ้น นอกเหนือจากการพัฒนาที่อยู่อาศัยทั้งคอนโดมิเนียม และบ้านแนวราบ แต่จะโดนใจผู้บริโภคมากน้อยแค่ไหนคงต้องติดตามกันยาวๆ

Baania มี Line แล้วนะ
ติดตามเรื่องราวอสังหาริมทรัพย์แบบอินเทรนด์ ได้ทุกวันผ่าน Line ID @baania