เริ่มทยอยเปิดแผนลงทุนโครงการใหม่ๆ ในปีจอกันมาพอควรแล้ว โดยเฉพาะบริษัทรายใหญ่ระดับบิ๊กเนมในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งว่ากันว่าในปีนี้มวยรุ่นใหญ่ไซส์เฮฟวี่เวตจะเปิดหน้าแลกหมัดซัดกันนัว เอาแค่ 2 บริษัทระดับหัวกะทิ ทั้งพฤกษา โฮลดิ้ง และแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ปีนี้มูลค่าโครงการใหม่รวมกันไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ส่วน ศุภาลัย เปิดโครงการใหม่อีก 4 หมื่นล้านบาท ยังไม่นับรวม แสนสิริ เอพี (ไทยแลนด์) โกลเด้น แลนด์ ที่ยังไม่ถึงคิวประกาศแผนธุรกิจซึ่งคาดว่า ขาใหญ่เหล่านี้จะเติมโครงการใหม่ในพอร์ตปีนี้อีกกว่าแสนล้านบาท
แม้ว่าแผนของอีกหลายบริษัทจะยังไม่สะเด็ดน้ำและยังไม่ได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ แต่มาลองชะเง้อดูกันหน่อยว่าในปีนี้บริษัทอสังหาฯรายใหญ่ๆ วางแผนลงทุนโครงการใหม่ๆ กันไว้อย่างไรบ้าง และมีโครงการไหนเป็นไฮไลท์ที่น่าสนใจให้ติดตามกันต่อไป เพราะเท่าที่จับความเคลื่อนไหว แต่ละบริษัทก็เตรียมไม้เด็ดเอาไว้รองรับตลาดอสังหาที่กำลังเริ่มฟื้นตัวกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ถ้าใครพลาดงานนี้อาจจะวิ่งตามคนอื่นๆ ไม่ทัน
แลนด์ฯพร้อมรบทั้งคอนโด-บ้านแนวราบ
มาเริ่มกันที่เจ้าใหญ่ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ปีนี้ต้องเรียกว่าใส่เกียร์เดินหน้าแบบเต็มลูกสูบกับโครงการใหม่ 28 โครงการ 3.6 หมื่นล้านบาท จำนวนโครงการเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ขณะที่มูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าตัว เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่แลนด์ฯ เปิดโครงการใหม่แบบประคองตัวแค่ 10 โครงการ มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท ตามโพยที่แลนด์ฯ แจ้งไว้ในปีนี้น่าจะได้เห็นบ้านในราคา 2-4 ล้านบาทมากขึ้น บางโครงการ บางทำเล อาจจะมีบ้านที่มีราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาทปะปนอยู่บ้าง ไฮไลท์ของแลนด์ฯ คือ คอนโดมิเนียมที่จะเปิดใหม่ 4 โครงการในปีนี้ ประเดิมด้วย โครงการ The Ease โครงการต่อเนื่องบนถนนพระราม 2 เปิดตัวในไตรมาส 1 จำนวน 329 ราคาเฉลี่ย 2.3 ล้านบาท ส่วนในไตรมาส 2 มีคอนโดอีก 2 โครงการ ได้แก่ The Room สุขุมวิท 38 จำนวน 229 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 14 ล้านบาท โครงการนี้หลายคงอาจจะสงสัยใช่โครงการ The Bangkok สุขุมวิท 38 หรือเปล่า ที่จริงมันเป็นคนละโครงการกันแต่อยู่ในซอยเดียวกัน อันเนื่องจาก The Bangkok ยังอยู่ในกระบวนการทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ)ที่ยังไม่เสร็จสิ้น แลนด์ฯ เลยส่งโครงการ The Room ออกมาลุยก่อน
อีกโครงการในไตรมาส 2 คือ The Room พญาไท โครงการนี้ติดกับเจ้าพระยาอาบอบนวด บนนถนนศรีอยุธยา มีจำนวน 437 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 8.9 ล้านบาท และส่งท้ายปลายปีไตรมาส 4 แลนด์ฯจะส่งคอนโดอีก 1 โครงการ คือ The Key เพชรเกษม ลงตลาดด้วยจำนวน 621 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 3.5 ล้านบาท
พฤกษา ตั้งเป้าลุยครบทุกเซ็กเมนต์
มาถึงคิวบริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง ที่มีจำนวนโครงการใหม่และมูลค่าโครงการสูงสุดในทุกๆ ปี ในปีนี้จะเปิด 75 โครงการใหม่ มูลค่า 6.6 หมื่นล้านบาท เป็นสินค้าในกลุ่มแวลู่ ซึ่งก็คือกลุ่มบ้าน และคอนโด ระดับกลางลงล่าง เป็นทาวน์เฮ้าส์ 44 โครงการ บ้านเดี่ยว 18 โครงการ คอนโด 5 โครงการ และสินค้าในกลุ่มพรีเมี่ยม หรือกลุ่มกลางบนทั้งคอนโดมิเนียม และบ้านแนวราบ อีก 8 โครงการ
กลยุทธ์ของพฤกษาในปีนี้ คือ การรักษาฐานเดิมในเซ็กเมนต์ที่เป็นเบอร์ 1 อยู่แล้ว และเพิ่มเติมในเซ็กเมนต์ที่ยังมีโอกาสจะขยายตัว เพื่อเป้าหมายการเป็นเบอร์ 1 ในทุกเซ็กเมนต์ อย่างเช่น ในตลาดทาวน์เฮาส์ที่พฤกษาแข็งแกร่งในระดับราคา 2-3 ล้านบาท ปีนี้จะขยายตลาดเพิ่มในระดับราคา 3-5 ล้านบาท ส่วนตลาดบ้านเดี่ยว และบ้านแฝด พฤกษา เป็นเบอร์ 1 ในตลาด 3-5 ล้านบาท จะขยายเพิ่มในระดับราคา 5-7 ล้านบาท และ 7 ล้านบาทขึ้นไป ในตลาดคอนโดมิเนียม พฤกษาเป็นแชมป์ในระดับราคา 2-3 ล้านบาท ตั้งเป้าจะขยายตลาดเพิ่มในระดับราคา 3-5 ล้านบาท
โครงการเด่นในกลุ่มที่อยู่อาศัยแวลู่ของพฤกษา เช่น โครงการบ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารพาณิชย์บางส่วน ในย่านบางนา-วงแหวน มูลค่า 8,000 ล้านบาท โครงการบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮ้าส์ 2-3 ชั้น ย่านกรุงเทพกรีฑา-วงแหวน มูลค่า 3,500 ล้านบาท โครงการบ้านเดี่ยวที่แจ้งวัฒนะ-ชัยพฤกษ์ มูลค่า 1,200 ล้านบาท โครงการพลัม คอนโดมิเนียม แจ้งวัฒนะ เฟสที่ 4 มูลค่า 1,900 ล้านบาท โครงการเดอะ ทรี จรัล-บางพลัด มูลค่า 1,800 ล้านบาท และ เดอะ ทรี หัวหมากมูลค่า 1.500 ล้านบาท เป็นต้น
มาที่โครงการพรีเมี่ยม หรือโครงการระดับกลาง-บนของพฤกษา ปีนี้มี 8 โครงการ เป็น คอนโด 4 ได้แก่ เดอะ รีเซิร์ฟ พญาไท มูลค่า 1,151 ล้านบาท อีกโครงการอาจจะเป็น แชปเตอร์วัน ประชาราษฎร์ โครงการที่ 2 มูลค่า 1,500 ล้านบาท และมีแผนจะเปิดคอนโดในซอยสวนพลู เพิ่มอีก 1 โครงการ มูลค่า 3,200 ล้านบาท ส่วนโครงการทีเด็ดจะเป็นคอนโด ริมน้ำเจ้าพระยา ย่านเจริญนคร แถวๆ ไอคอน สยาม ซึ่งวางราคาขายไว้ในระดับ 1 แสนต้นๆต่อตารางเมตร
ส่วนในปีนี้โครงการพรีเมี่ยมจะมีบ้านแนวราบในแบรนด์ เดอะ ปาล์ม อีก 4 โครงการ ได้แก่ เดอะ ปาล์ม รามคำแหง-วงแหวน มูลค่า 1,185 ล้านบาท เดอะ ปาล์ม กาญจนาภิเษก-ปิ่นเกล้า มูลค่า 1,186 ล้านบาท เดอะ ปาล์ม บางนา-วงแหวน มูลค่า 1,426 ล้านบาท และ เดอะ ปาล์ม พหลฯ-วิภาวดี มูลค่า 1,011 ล้านบาท
ศุภาลัย ส่ง Essence ปรับลุคโมเดิร์น
ข้ามมาที่ บริษัท ศุภาลัย ปีนี้วางแผนเปิดโครงการใหม่ 35 โครงการ มูลค่ารวม 4 หมื่นล้านบาท เป็นโครงการบ้านแนวราบ 30 โครงการ และ คอนโดมิเนียม 5 โครงการ ในปีนี้จะได้เห็นดีไซน์บ้านในรูปแบบใหม่ ภายใต้แบรนด์ใหม่ มีการปรับแบบให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัล นำนวัตกรรม เทคโนโลยี่ เข้าใช้ในบ้าน รวมถึงการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุมากขึ้น ขยายพอร์ตในบ้านและคอนโด ราคา 8-10 ล้านบาทมากขึ้น เพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ
ขณะที่โครงการบ้านแนวราบจะขยับเข้ามาใกล้เมืองมากขึ้นแบรนด์ล่าสุดที่จะเปิดตัวคือ ศุภาลัย Essence ลาดพร้าว และ 107 และโครงการในย่านพุทธมณฑล สาย 1-3 ส่วนคอนโดจะมีโครงการที่อยู่ในแนวรถไฟฟ้า และสถานีสายสีเขียว และสายสีส้ม คอนโดมิเนียมที่อยู่ในชุมชนเก่าทำเลในเมืองที่มีศักยภาพสูง และโครงการไฮไลท์สำคัญของศุภาลัย คือ การพัฒนาที่ดินสถานทูตออสเตรเลียเก่าบนถนนสาทร ใช้ชื่อโครงการ ศุภาลัย ไอคอน ที่บริษัท ศุภาลัย ตั้งใจจะให้เป็นแลนด์มาร์คหนึ่งของกทม. มีทั้งที่คอนโดในราคาที่เบาว่าโครงการในละแวกเดียวกัน ออฟฟิศ และรีเทล มูลค่าโครงการ 1.8-2 หมื่นล้านบาท
แอล.พี.เอ็นเปิดแบรนด์ 365 ลุยบ้านหรู
ขณะที่ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเม้นท์ จะเปิดโครงการใหม่ 10 โครงการ มูลค่ารวม 1.5 หมื่นล้านบาท โดยยังคงพัฒนาคอนโดในเมืองระดับกลาง-บน เป็นส่วนใหญ่เพื่อรองรับตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ก็ไม่ทิ้งตลาดคอนโดกลาง-ล่าง ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ แอล.พี.เอ็น. และในปีนี้จะได้เห็นโครงการบ้านแนวราบราคาแพงทั้งทาวน์โฮมในราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป และบ้านเดี่ยวในเมืองราคา 30-40 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ 365 ประเดิมโครงการแรกบนทำเลริมน้ำย่านพระราม 3
เอพีผนึกมิตซูประเดิม LIFE สุขุมวิท 62
ส่วน บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) ได้ประกาศแผนลงทุนเบื้องต้นไปแล้วเมื่อช่วงต้นปี โดยจะเป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับกลาง-บนที่ร่วมทุนกับ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 จำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท ประเดิมด้วย LIFE สุขุมวิท 62 เป็นโครงการแรกที่จะเปิดในเดือนมีนาคม ผ่านระบบ AP i-Booking ส่วนโครงการอื่นๆ จะทยอยเปิดตัวตามแผนงานที่กำหนดไว้
ซีพีเอ็น บุกตลาดบ้าน-คอนโดเมืองกรุง
มาถึงบริษัทสุดท้ายที่จะกล่าวถึงในครั้งนี้อาจจะดูเซอร์ไพร์สหน่อย เพราะนั่นคือ บริษัท ซีพีเอ็น เรสซิเดนซ์ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาที่อยู่อาศัยของกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา หรือ ซีพีเอ็น ทีทออกไปลุยเปิดคอนโดแบรนด์เอสเซ็นท์ในต่างจังหวัดมาแล้ว 6 โครงการ ใน 5 จังหวัด ที่เชียงใหม่ 2 โครงการ ระยอง ขอนแก่น เชียงราย และนครราชสีมา ในปีนี้ ซีพีเอ็น เรสซิเดนซ์ มีแผนจะเปิดโครงการในเบื้องต้น 4 โครงการ เป็นโครงการในกทม. 2 โครงการ ได้แก่ คอนโดมิเนียม ย่านเสนาฯ ถนนพหลโยธิน ประมาณ 300-400 ยูนิต ตั้งราคาขายไว้ราวๆ 1.5 แสนบาทต่อตารางเมตร หรือราคา 3-4 ล้านบาทต่อยูนิต ส่วนอีกโครงการจะเป็นบ้านเดี่ยวราคาแพงแถวๆ ปิ่นเกล้าตัดวงแหวนกาญจนาภิเษก และอีก 2 โครงการจะเป็นโครงการในต่างจังหวัด ซึ่งกำลังพิจารณาที่ดินที่เหมาะสม เช่น ที่หาดใหญ่ อุบลราชธานี หรือที่พิษณุโลกที่เคยมีแผนจะพัฒนาโครงการทาวน์เฮาส์ก็อาจจะกลับมาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้ง
แค่ไม่ถึงเดือนและมีอีกหลายบริษัทรายใหญ่ที่ยังไม่ได้เปิดแผนลงทุน ก็รู้สึกว่าอสังหาฯปีจอคงจะดุเดือดร้อนแรงยิ่งกว่าปีไหนๆ ส่วนใครเป็นแฟนพันธุ์แท้โครงการบริษัทไหนคงต้องคอยติดตามอย่างใกล้ชิด อสังหาฯช่วงขาขึ้น ราคาก็เริ่มวิ่งเร็วเป็นธรรมดา ยิ่งเข้ายุคค่าแรงเพิ่ม ดอกเบี้ยขึ้น ต้นทุนพุ่งด้วยแล้ว ถ้าชักช้าอาจจะพลาดราคาที่ดีที่สุดไปก็เป็นได้