Baania
Baania
จังหวัด
ประเภทประกาศ
ประเภทอสังหาริมทรัพย์
ราคา

อสังหาฯ วัยเกษียณคึก ‘ธนบุรี เฮลท์ วิลเลจ’ ขยายลูกค้าระดับกลาง

x
คลิกที่นี่ เพื่อฟังบทความ

อสังหาริมทรัพย์สำหรับผู้สูงวัย แม้จะเป็นตลาดที่ดูดีมีอนาคตสดใส เพราะกลุ่มผู้สูงวัยกำลังเพิ่มปริมาณมากขึ้นทุกวัน โดยมีตัวเลขคาดการณ์จากหน่วยงานภาครัฐที่ระบุว่า อีก 3 ปีข้างหน้า (ปี 2564) เมืองไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์  โดยมีผู้สูงวันอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปในสัดส่วน 20% ของประชากรทั้งหมด หรือประมาณ 12 ล้านคนหากนับจากจำนวนประชากรในวันนี้ และในปี 2574  ไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยระดับสุดยอด โดยมีสัดส่วนผู้สูงวัย 28% ของประชากรทั้งหมด 

แต่ถึงกระนั้น ตลาดผู้สูงวัยก็ยังเป็นตลาดที่ผู้ประกอบการอสังหาฯยัง กล้าๆ กลัวๆ และไม่มีใครเข้าไปทำตลาดอย่างเต็มตัว ที่เคยมีบ้างก็ยังจับทางกันไม่ถูก พอทำแล้วกลายเป็นว่า กลุ่มเป้าหมายมีอยู่จริง แต่จับต้องไม่ได้ เพราะไม่มีใครยอมรับว่าตัวเองเป็นผู้สูงวัย ประกอบกับ สังคมไทยยังมีคติและค่านิยม ในเรื่องของความกตัญญู การดูแลพ่อแม่ยามแก่เฒ่า และการอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ ทำให้การทำตลาดสำหรับผู้สูงวัยจึงยังเป็นอะไรที่ ต้องรอเวลา  

มาถึงวันนี้ เมื่ออะไรต่างๆ เริ่มเป็นใจ จากจำนวนผู้สูงวัยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งก็เหมือนการมีเพื่อมร่วมแก๊งที่มากขึ้น การยอมรับกับวัยและสภาพร่างกายที่เปลี่ยนไป การเปิดรับและเรียนรู้กับสิ่งใหม่ๆ รวมถึงวิถีการอยู่อาศัยแบบใหม่ๆ อย่างเช่น การอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม การได้ปฏิสัมพันธ์กับคนวัยเดียวกัน สิ่งเหล่านี้ได้เปลี่ยนทัศนคติของตัวผู้สูงวัยรวมถึงลูกหลาน และทำให้ตลาดผู้สูงวัยเปิดกว้างและได้รับการยอมรับมากขึ้น พร้อมทั้งการพัฒนาสินค้าที่สอดคล้องกับความต้องการมากยิ่งขึ้น

หนึ่งในบริษทที่เปิดเกมรุกชัดเจนเมื่อตลาดผู้สูงวัยเริ่มเปิดกว้าง อาจจะไม่ใช่บริษัทอสังหาฯเต็มตัว แต่ก็มีธุรกิจแบ็คอัพที่เป็นจุดแข็งมากๆ ในการเข้าสู่ตลาดผู้สูงวัย นั่นคือบริษัท พรีเมียร์ โฮม เฮลท์ แคร์ จำกัด ในเครือธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) ซึ่งเป็นธุรกิจโรงพยาบาลของนายแพทย์บุญ วนาสิน นั่นเอง  บริษัท พรีเมียร์ โฮม เฮลท์ แคร์  รุกตลาดอสังหาฯสำหรับผู้สูงวัยอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นการต่อยอดมาจากธุรกิจโรงพยาบาล โดยการเปิดโครงการ จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ เมื่อประมาณกลางปี 2560 

โครงการดังกล่าว เป็นการนำเอาการดูแลสุขภาพแบบบูรณาการ หรือ Integrative Healthcare มาผนวกกับที่พักอาศัย ภายใต้แนวคิด “เมืองแนวคิดใหม่เพื่อวัยเกษียณ” บนเนื้อที่ 140 ไร่ ริมถนนพหลโยธินบริเวณคลองหลวง มูลค่าโครงการประมาณ 10,000 ล้านบาท แบ่งการพัฒนาเป็น 3 เฟส เริ่มเฟสแรก เป็นโลว์ไรส์คอนโด กว่า 1,000 หน่วย ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 50% ในคลัสเตอร์ที่เปิดขายอยู่

 นายจอห์น ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีเมียร์ โฮม เฮลท์ แคร์ ในเครือธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป กล่าวว่า จากยอดขายโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ ทำให้บริษัทมั่นใจในการเปิดโครงการต่อๆ ไป เนื่องจากตลาดนี้เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ เพราะกลุ่มเป้าหมายมีถึง 1 ใน 5 ของประชากรทั้งหมด หรือมีกว่า 10 ล้านคน แต่สินค้าที่ผลิตมายังมีไม่พอ อย่างไรก็ตาม จากการเปิดตัวโครงการจิณณ์ ทำให้เรามองเห็นความต้องการอีกกลุ่มหนึ่ง และเป็นแนวคิดในการพัฒนาโครงการที่ 2 ตามมา และคาดว่าจะยังมีการพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้จากการสอบถามลูกค้าที่ไม่ได้ซื้อโครงการจิณณ์ ซึ่งมีทั้งกลุ่มผู้สูงวัย พบว่า 60-70% ต้องการราคาที่เบากว่านี้ เนื่องจากคนกลุ่มนี้ แม้จะมีเงินพอที่จะซื้อ แต่ก็เป็นคนที่รู้จักใช้จ่าย ขณะเดียวกัน ก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นคนวัยทำงานระดับกลางที่ต้องการซื้อให้พ่อแม่ ซึ่งเป็นโจทย์สำคัญในการพัฒนาโครงการใหม่ ภายใต้แบรนด์ “ธนบุรี เฮลท์ วิลเลจ” 

“จากโครงสร้างของจำนวนประชากรที่เปลี่ยนแปลงไปในส่วนของกลุ่มคนวัยทำงานและวัยเกษียณที่เพิ่มมากขึ้น จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าการเตรียมพร้อมในการใช้ชีวิตเพื่อความมั่นคงในการมีชีวิตเกษียณที่ดีในอนาคต จะไม่ได้เป็นแค่เรื่องของคนสูงวัยเพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องของคนกลุ่มวัยทำงานกลุ่มอายุ 40 ปีขึ้นไป ที่เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มประชากรแซนด์วิช (Sandwich Generation) ซึ่งก็คือกลุ่มอายุที่มีภาระในการรับผิดชอบทั้งพ่อแม่และครอบครัวของตัวเอง 

ขณะที่เครือธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป มีความตั้งใจที่จะให้บริการที่เข้าถึงได้ในด้านราคาและด้านความต้องการที่แตกต่าง จึงได้เกิดโครงการธนบุรี เฮลท์ วิลเลจ ขึ้น เป็นการช่วยลดต้นทุนในการใช้ชีวิตและดูแลรักษาสุขภาพในระยะยาวรองรับกลุ่มคนตั้งแต่วัยทำงานให้สามารถอยู่อาศัยได้ตั้งแต่ตอนนี้ไปจนถึงวัยเกษียณ” นายแพทย์บุญ วนาสิน ประธานกรรมการบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าว

ด้านนางฐิตารี อยู่วิทยา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท พรีเมียร์โฮม เฮลท์ แคร์ กล่าวว่า ข้อแตกต่างระหว่างแบรนด์จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้  กับ ธนบุรี เฮลท์ วิลเลจ ประชาอุทิศ เป็นกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน โครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ จะจับกลุ่มคนอายุ 55 ปีขึ้นไป เป็นกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน ถึงระดับบนมีบริการด้านการแพทย์ในระดับแอดวานซ์ ราคาขายจะอยู่ที่ 4-6 ล้านบาท หรือราคา 85,000 - 120,000 บาท/ตารางเมตร(ตร.ม.)  

ขณะที่  ธนบุรี เฮลท์ วิลเลจ ประชาอุทิศ จะจับกลุ่มคนอายุ 45 ปี ขึ้นไป เป็นลูกค้าระดับกลาง มีบริการด้านการแพทย์ในระดับมาตรฐาน ราคาขาย 2-4 ล้านบาท หรือประมาณ 64,000 บาท/ตร.ม. โดยเป็นการต่อยอดจากโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้  มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ฝั่งธนบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นกลุ่มคนวัยเกษียณที่มีความคุ้นชินกับสภาพแวดล้อมในย่านฝั่งธนบุรี คนวัยทำงาน ทั้งคนโสดและคู่สมรสที่ไม่มีบุตรที่เริ่มตระหนักกับการวางแผนชีวิตในระยะยาว 
โครงการ ธนบุรี เฮลท์ วิลเลจประชาอุทิศ ตั้งอยู่บนถนนประชาอุทิศ 60/1ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้(เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) สถานีประชาอุทิศ และ สถานีรถไฟฟ้าบางประกอก สามารถเดินทางเข้าออกได้ทั้งถนนสุขสวัสดิ์ ถนนพระราม 2 และถนนพุทธบูชา ภายในโครงการประกอบไปด้วย ส่วนที่พักอาศัยคอนโดมิเนียม 11 ชั้น จำนวน 2 อาคาร อาคารละ 206 ยูนิต รวม 412 ยูนิต โดยมี 2 ขนาดห้อง ได้แก่  32 ตร.ม. และ 64 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2 ล้านบาท จะแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ต้นปี 2562 

โครงการถูกออกแบบด้วยแนวคิด Universal Design อันเป็นแนวคิดหลักในการออกแบบที่พักอาศัยที่ส่งเสริมการอยู่อาศัยให้แก่คนทุกช่วงวัยในทั่วโลก ภายในห้องและพื้นที่โดยรอบของโครงการรองรับการใช้ชีวิตของผู้สูงวัย อาทิ  วีลแชร์ ราวจับกันล้ม วัสดุกันลื่น ระบบฉุกเฉินถึงศูนย์กลางความปลอดภัยที่มีเจ้าหน้าที่พร้อมคอยดูแล ระบบและปุ่มกดขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน การปฐมพยาบาลเบื้องต้น 

นอกจากนี้ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่นห้องสมุด Co-sharing space สำหรับพบปะสังสรรค์และทำกิจกรรมอเนกประสงค์  ภายในโครงการยังมีศูนย์สุขภาพ (Wellness Center) ไว้บริการการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของแต่ละบุคคล แก่ทั้งลูกบ้านโครงการธนบุรี เฮลท์ วิลเลจ และ บุคคลภายนอกที่ต้องการเข้าถึงบริการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมในราคาที่เข้าถึงได้ และในอนาคตจะมีก่อสร้างโรงพยาบาลธนบุรีบูรณาให้บริการในพื้นที่ด้วย 

นอกจาก ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป ที่ยังเดินหน้าขยายตลาดอสังหาฯสำหรับผู้สูงวัยแล้ว ยังมีผู้ประกอบการอีกหลายกลุ่มที่จะเปิดเกมรุกในตลาดผู้สูงวัยหนักขึ้น ทั้งรายใหม่ และรายเก่า และผู้ประกอบการจากต่างประเทศ สำหรับผู้ประกอบการอสังหาฯ ที่ประกาศตัวจะรุกตลาดผู้สูงวัยอย่างชัดเจน ได้แก่ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) เตรียมขยายพอร์ตคอนโดมิเนียมในเมืองเจาะกลุ่มคนสูงวัยรุ่นใหม่ (The Young Old) ที่ทรานสฟอร์มมาจากเจนเนอเรชั่น เอ็กซ์ 

ขณะที่บริษัท นายณ์ เอสเตท ได้ร่วมมือกับบริษัท แอล.พี.เอ็น. บริษัท ชีวาทัย และบริษัท ช.การช่าง พัฒนาโครงการกมลา ซีเนียร์ ลิฟวิ่ง จ.ภูเก็ต เป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ก่อนที่ตัดสินใจรุกตลาดอย่างจริงจังอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังมี บริษัท  แสนสิริ เตรียมจะเข้าสู่ตลาดผู้สูงวัยเช่นเดียวกัน  รวมไปถึงธุรกิจดูแลผู้สูงวัยรายเล็กๆ ก็ขยายตัวเพิ่มเป็นดอกเห็ด การแข่งขันของธุรกิจอสังหาฯ เพื่อผู้สูงวัย จึงเป็นอีกตลาดที่น่าจับตามอง 

Baania มี Line แล้วนะ
ติดตามเรื่องราวอสังหาริมทรัพย์แบบอินเทรนด์ ได้ทุกวันผ่าน Line ID @baania

ประกาศยอดนิยม ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร

โครงการยอดนิยม ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร