Baania
Baania
จังหวัด
ประเภทประกาศ
ประเภทอสังหาริมทรัพย์
ราคา

ผู้ประกอบการชี้อสังหาฯ ดีวันดีคืนลุยจัดงานปั๊มยอดขาย

x
คลิกที่นี่ เพื่อฟังบทความ

ใกล้ปิดไตรมาส 3 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก็ยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จาก 3 สมาคม ประกอบด้วย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และสมาคมอาคารชุดไทย เห็นพ้องต้องกันว่า ตลาดที่อยู่อาศัยที่มีสัญญาบวกสนับสนุนจะคึกคักไปจนถึงปีหน้าเลยทีเดียว

อาภา  อรรถบูรณ์วงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ตลาดที่อยู่อาศัยในครึ่งปีหลังมีปัจจัยบวกหลายตัวที่จะทำให้ตลาดยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องของการส่งออก การท่องเที่ยว การลงทุนทั้งภาครัฐ และเอกชน การบริโภคภายในที่เริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะการเมืองที่วันนี้มีความชัดเจนว่าจะมีการเลือกตั้งในต้นปีหน้า ทำให้นักลงทุน และผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ทั้งในแง่การลงทุนและการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย

"ในครึ่งปีแรกตลาดโตมากแล้ว และจะเติบโตต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง โดยในส่วนของคอนโดมิเนียมซึ่งมีสัดส่วนมากกว่า 50% ในกทม. จะยังมีการเติบโตที่ดี ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการลงทุนภาครัฐที่ได้ดำเนินการไปแล้ว อย่างเช่น รถไฟฟ้าที่บางโครงการใกล้เสร็จเปิดให้บริการ และมีอีกหลายโครงการเริ่มก่อสร้าง ซึ่งจะเปิดพื้นที่ใหม่ๆ ทั้งในเมือง รอยต่อของเมือง และชานเมืองให้เกิดการการพัฒนา และทำให้ตลาดคอนโดมิเนียมยังมีโอกาสเติบโตได้ต่อเนื่อง"

ขณะที่ วสันต์ เคียงศิริ อุปนายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ในส่วนของตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ ยังมีการเติบโตที่ดีเช่นกัน และอาจจะดีเกินกว่าที่คาดจนสินค้าในบางทำเลเกิดปัญหาไม่พอขาย เพราะเหลือซัพพลายอยู่น้อย และหาที่ดินที่สร้างใหม่ไม่ได้ และมีราคาที่สูงขึ้นทำให้ในไม่ช้าบ้านเดี่ยวจะไปเริ่มต้นที่ราคา 10 ล้านบาท     และทาวน์เฮาส์จะเริ่มที่ 5 ล้านบาท 

"ถ้าดูจากตัวเลขการโอนที่อยู่อาศัยในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมา  บ้านเดี่ยวมีการโอนไปประมาณ 15,000 หน่วย แต่มีโครงการเปิดใหม่เพิ่มแค่ 5,000 หน่วย และส่วนทาวน์เฮาส์ มีการโอน 30,000 หน่วย ขณะที่โครงการเปิดใหม่มีแค่ 10,000 หน่วย หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ซัพพลายของที่อยู่อาศัยแนวราบจะไม่พอขาย เนื่องจากหาที่ดินมาพัฒนาโครงการไม่ได้" 

ด้าน พรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น บริษัทใหญ่หลายรายเริ่มกลับไปลงทุนอย่างเงียบๆ ขณะที่ผู้ประกอบการที่อยู่ในท้องถิ่นเองก็ยังทำยอดขายได้เรื่อยๆ ขณะที่ตลาดโดยรวมตัวเลขการเติบโตถือว่าดีมาก แต่ปัญหาเดียวที่เกิดขึ้นในขณะนี้คือ ตัวเลขการปฏิเสธสินเชื่อบ้านราคา 1-3 ล้านบาท ไม่ลดลง ธนาคารพาณิชย์ยังคงเข้มงวดอยู่มาก

"ปัจจุบันธนาคารก็เศรษฐกิจมีความเข้มงวดอยู่แล้ว หากธนาคารแห่งประเทศไทยจะมีมาตรการมาควบคุมการปล่อยสินเชื่อของธนาคาร เพราะเห็นว่า มีการแข่งขันกันปล่อยสินเชื่อที่สูงเกินกว่ามูลค่าหลักประกันที่กำหนดไว้ เท่ากับเป็นการกดปุ่มหยุดการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และการขยายตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งก็ต้องเลือกว่าจะเอาแบบไหน"

สำหรับปีนี้น่าจะเป็นปีทองของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกปีหนึ่ง การลงทุนจะขยายตัวเพิ่มจากทุนต่างประเทศที่จะเข้ามาในประเทศไทยอีกมาก  และจะพัฒนาโครงการที่ใหญ่ขึ้น เป็นมิกซ์ยูส หรือการพัฒนาเมือง ขณะที่ตลาดหุ้นถ้าสามารถยืนระยะอยู่ได้ในแดนบวก ก็จะส่งผลดีต่อตลาดทุนให้มีความคึกคักยิ่งขึ้น  สำหรับปัจจุยที่น่ากังวลคือ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบในทางอ้อม แต่ที่เห็นแล้วในเวลานี้คือ มีประเทศที่มีปัญหาเศรษฐกิจถึงขั้นจะล้มละลายเป็น 10 ประเทศ แต่เศรษฐกิจไทยยังมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง แต่ก็ประมาทไม่ได้เช่นกัน

ปิติพัฒน์ ปรีดานนท์ ประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 39 เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดอสังหาฯ ในครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน เห็นได้จากการที่ผู้ประกอบการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งมองว่าเป็นการขานรับตัวเลขจีดีพีทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น และการเดินหน้าของรัฐบาลในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ  และเดินหน้าลงทุนในโครงการอื่นๆ เช่น  รถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟทางคู่ มอเตอร์เวย์  การพัฒนาพื้นที่พิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งโครงการเหล่านี้จะช่วยเปิดหน้าดิน สร้างทำเลที่อยู่อาศัยกว้างออกไป 

สำหรับ งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 39 ที่จะจัดขึ้นในวันที่  4 - 7 ตุลาคม 2561 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีบูธผู้ประกอบการกว่า 500 บูธ จากผู้ประกอบการจำนวน 200 ราย นำสินค้าอสังหาฯ กว่า 1,000 โครงการ ทั้งโครงการใหม่และสินค้าในสต็อกเดิม รวมถึงสถาบันการเงินที่มีชื่อเสียงนำบริการสินเชื่อมาเสนอแก่ผู้บริโภค โดยแบ่งประเภทโครงการ เป็นคอนโดมิเนียมราว 35% บ้านเดี่ยว 20% ทาวน์เฮ้าส์ 15% และอื่นๆ เช่น บ้านแฝด บ้านมือสอง ที่ดินเปล่า คิดเป็น 30% และคาดว่าสินค้าที่จะได้รับความ นิยมจองซื้อมากที่สุดจะเป็นบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม ทาวเฮาส์ ตามมาด้วยบ้านแฝด และอื่นๆ ที่อยู่ในช่วงราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท ตามด้วยระดับ 2-3 ล้านบาท

คาดว่าจะมีผู้มาเดินงานตลอด 4 วันทะลุ 1 แสนคน มียอดจองและขายในงานกว่า 4 พันล้านบาท และยอดขายต่อเนื่องหลังงานอีกกว่า 8 พันล้านบาท รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท

Baania มี Line แล้วนะ
ติดตามเรื่องราวอสังหาริมทรัพย์แบบอินเทรนด์ ได้ทุกวันผ่าน Line ID @baania

 

ประกาศยอดนิยม ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร

โครงการยอดนิยม ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร