Baania
Baania
จังหวัด
ประเภทประกาศ
ประเภทอสังหาริมทรัพย์
ราคา

ผุดคฤหาสน์กลางเมือง ฮาบิแททลุยขายเศรษฐีหลังละกว่า 100 ล้าน

x
คลิกที่นี่ เพื่อฟังบทความ

บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากบริษัทอื่นๆ ในตลาด เพราะโมเดลธุรกิจของฮาบิแททคือ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเจาะกลุ่มนักลงทุนโดยเฉพาะ พัฒนาโครงการมาแล้ว 6 โครงการ มูลค่ารวม 2,778 ล้านบาท ทุกโครงการอยู่ที่พัทยาล้วนๆ และในปีนี้ ฮาบิแทท กำลังรุกคืบขยายธุรกิจเข้ามาในเมืองหลวงหนึ่งในโครงการไฮไลท์ คือ บ้านหรูในซอยร่วมฤดีหลังละกว่า 100 ล้านบาท


ชนินทร์ วานิชวงศ์

ชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป กล่าวว่า ในปี 2561 บริษัทจะขยายธุรกิจมาลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพมน์ระดับไฮเอนด์ ในย่านใจกลางเมืองกรุงเทพฯ โซนซีบีดี (Central Business District - CBC) รวม 4 โครงการ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือการพัฒนาโครงการบ้านระดับลักซ์ชัวรี่ในซอยร่วมฤดี 2 ชื่อว่า Leroy เป็นบ้านสูง 7 ชั้น รวมชั้นใต้ดิน 2 หลัง ขนาด 60 ตารางวา ราคาขายหลังละ 108 ล้านบาท และ ไม่เกิน 120 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ใช้สอยกว่า 2,160 ตารางเมตร มูลค่าโครงการรวม 250 ล้านบาท ซึ่งพร้อมเปิดตัวโครงการภายในไตรมาสแรกของปีนี้


LEROY Ruamrudee

“โครงการ “เลอรอย” (LEROY Ruamrudee) ถือเป็นโครงการที่อยู่อาศัยระดับอัลตรา ลักซ์ชัวรี่ ในซอยร่วมฤดี ซึ่งเป็นทำเลทองที่มีราคาที่ดินที่แพงหรือประมาณตารางวาละกว่า 1.9 ล้านบาท รวมถึงยังเป็นทำเลที่มีราคาที่ดินปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุด และหาทำเลที่ดีเช่นนี้ได้ยากที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา โดยราคาขายเฉลี่ยต่อตาราเมตรจะอยู่ที่ประมาณ 1 แสนบาท ซึ่งถือว่ามีราคาถูกกว่า ราคาขายคอนโดมิเนียมกลางเมืองปัจจุบันที่มีราคาเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า2 แสนบาทต่อตารางวา” 
ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนจะพัฒนาคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ ระดับลักซ์ชัวรี่ อีก 3 โครงการมูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท บนถนนสุขุทวิทพิกัดไม่เกินซอยทองหล่อภายใต้ชื่อโครงการ “วาลเด้น” (Walden) โครงการได้แก่ วาลเด้น อโศก อยู่ในซอยสุขุมวิท 23 หรือซอยประสานมิตร จำนวน 83 ยูนิต ราคาขาย 1.7-2.1 แสนบาทต่อตารางเมตร หรือราคา 5.9-11 ล้านบาท มูลค่า 700 ล้านบาท จะเปิดขายในเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนอีก 2 โครงการ จะอยู่ในซอยสุขุทวิท 39 จะเปิดขายในไตรมาสที่ 2 และอีกโครงการจะอยู่ในซอยสุขุมวิท 31 มูลค่าแต่ละโครงการอยู่ที่ 800-900 ล้านบาท 


Walden

“โครงการอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ จะมีโมเดลธุรกิจที่แตกต่างจากพัทยาเล็กน้อย โดยมีทั้งรูปแบบซื้อเพื่อลงทุนและซื้อเพื่อพักอาศัย แต่จะเน้นที่รูปแบบของการลงทุนเป็นหลัก โดยบริษัทฯ จะมีการบริหารจัดการการเช่าและอำนวยความสะดวกเรื่องการบำรุงรักษาห้องให้ผ่านบริษัท ฮาบิแทท ฮอสพิทอลลิตี้ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือที่มีทีมงานมืออาชีพและมีประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการการเช่าเป็นผู้ดูแล และอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุน โดยประเมินผลตอบแทนจากการลงทุนจากการปล่อยเช่าของบริษัทซึ่งเป็นคอนโดโลว์ไรส์ในสุขุมวิทจะได้กว่า 5% ขณะที่คอนโดที่เป็นไฮไรส์จะได้ประมาณ 3-4% เพราะมีราคาขายที่แตกต่างกัน“ 

ชนินทร์ ยังให้ข้อแนะนำสำหรับการซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุนในย่านกล่างเมืองว่า ควรที่จะซื้อคอนมิเนียมในราคา 1.5-2 แสนบาทต่อตารางเมตร เพราะยังมีช่องว่างให้ได้รับผลตอบแทนจากการขายที่ดีได้ ส่วนโครงการที่ราคาเกินกว่า 2.5 ล้านบาท อาจจะได้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่า และไม่เชื่อว่าราคาคอนโดมิเนียมโดยรวม จะวิ่งไปที่ 4-5 แสนบาทต่อตารางเมตรได้ หรือถ้าราคาไปได้ขนาดนั้น ตลาดก็จะเป็นของคนไม่กี่คนเท่านั้น  

นอกจากนี้ บริษัทจะยังคงมีการลงทุนที่พัทยาอย่างต่อเนื่อง โดยวางแผนขยายการลงทุนเพิ่มเติมในทำเลพัทยาเหนือ ในช่วงปลายปี 2561 โดยยังยึดโมเดลการลงทุนแบบการันตีการเช่า โดยมีเชนโรงแรมที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับระดับโลกเป็นผู้บริหารและจัดการการเช่า โดยตั้งงบลงทุนโครงการในพัทยารวม 1,250 ล้านบาท โดยการลงทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อการเช่าที่พัทยา ยังถือว่าได้ผลตอบแทนการลงทุนจากการเช่าที่ดีเนี่องจากมีอัตราการเข้าพักที่สูงประมาณ 78% โดยบริษัทการันตีผลตอบแทนที่ 6-7% ต่อปี  

สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมของบริษัทในพัทยา จำนวน 6 โครงการ ได้แก่ โครงการเดอะวิลล์ จอมเทียน, โครงการครอสทู ไวบ์ พัทยา ซีเฟียร์, โครงการครอสทู พัทยา โอเชียนเฟียร์, โครงการเบสท์ เวสเทิร์น พรีเมียร์ เบย์เฟียร์ พัทยา, โครงการบลูเฟียร์ พัทยา แมเนจบาย เบสท์ เวสเทิร์น พรีเมียร์ คอลเล็คชั่น และล่าสุดคือ โครงการวินด์แฮม แอทลาส วงศ์อมาตย์ พัทยา โดยมีมูลค่ารวมแล้วกว่า 3,700 ล้านบาท มียอดขายในปี 2560 รวมกว่า 1,300 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้รวมทั้งสิ้นแล้วกว่า 700 ล้านบาท

บทความแนะนำ

ประกาศยอดนิยม ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร

โครงการยอดนิยม ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร