วิกฤตโควิด-19 ทำให้คนอยู่ติดบ้านมากขึ้น ใช้ชีวิตอยู่กับบ้านเป็นเวลานาน แม้จะมีการปลดแมส เปิดเมืองแล้วก็ตาม แนวโน้มการใช้ชีวิตอยู่กับบ้านยังคงอยู่ ไม่เพียงการเสพติดการ Work from Home ด้วยพฤติกรรมของคนเจนวาย เจนซีที่รักอิสระ ต้องการเป็นผู้ประกอบการเอง ทำให้เกิดสตาร์ทอัพมากมาย ทำงานเป็นฟรีแลนซ์รับงานโดยมีฐานที่มั่นอยู่ที่บ้าน
บ้านจึงไม่ได้มีความหมายเพียงแค่สถานที่พักผ่อนนอนหลับ หรือเป็นเซฟตี้โซนเท่านั้น แต่มีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากขึ้น เป็นทั้งออฟฟิศ ห้องประชุมทางไกล เวทีแสดงวิสัยทัศน์ ฯลฯ รวมถึงสตูดิโอเพื่อการพรีเซ็นต์สินค้าออนไลน์
<img src="https://cdn.baania.com/b21/article/20220819/content/9tp8cbg5-20220819065554.jpg" style="width: 100%;" alt="ฮวงจุ้ยไฟ" width="" height="" title="ฮวงจุ้ยไฟ" class="" role=""> กระนั้นเมื่อ Work from Home นานเข้า อารมณ์เซื่องๆ ซึมๆ ตื้อๆ ย่อมมี บ่อยครั้งเหมือนเกิดอาการตีบตันทางความคิด การขยับปรับเปลี่ยนฮวงจุ้ยมุมทำงานช่วยได้ เพื่อเติมเอนเนอจี้ รับพลังจากสิ่งใหม่ๆ 
“ฮวงจุ้ย” เป็นศาสตร์แห่งทำเลที่ตั้งของที่อยู่อาศัยให้สอดคล้องกับสภาวะแวดล้อม โดยอ้างอิงการเคลื่อนไหวของอากาศคือ ลม (ฮวง) และการเคลื่อนไหวของน้ำ (จุ้ย) รวมทั้งแสงสว่าง สร้างสภาวะสมดุล เพื่อผู้ที่อยู่อาศัยเป็นสุข การปรับทิศเปลี่ยนตำแหน่งของมุมทำงาน ช่วยให้เกิดมุมมอง เห็นหนทางใหม่ๆ เมื่อจิตใจฮึกเหิมขึ้น พลังกลับคืนมาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ๆ ที่จะเข้ามาในชีวิต มีความสุขกับการทำงานมากขึ้น 
การกำหนดตำแหน่งที่ตั้งที่เหมาะสมของมุมทำงานมีหลักการกว้างๆ อาทิ
1. ไม่ควรหันหน้าชนกำแพง จะทำให้ความคิดตีบตัน การจัดมุมทำงานใกล้หน้าต่างจะช่วยให้ใกล้ชิดธรรมชาติ เปิดมุมมองทางความคิด และยังได้พักสายตา 
2. ไม่ควรหันหลังให้ประตูหรือช่องทางเข้าออก ถ้าเลี่ยงไม่ได้อาจใช้วิธีการเบี่ยงองศาของโต๊ะให้ทางเข้าออกอยู่ในระยะสายตา 
3. ไม่ควรอยู่ริมทางเดินหรือใกล้จุดที่คนจะเดินพลุกพล่าน ถ้าเลี่ยงไม่ได้ให้ใช้ฉากบังตาช่วยทำให้มีสมาธิในการทำงานมากขึ้น 
4. ห้องทำงานที่ใช้ทั้งวันควรจะเลือกอยู่ทางทิศตะวันออก ตะวันออกเฉียงใต้และทิศใต้ เพราะแสงแดดจะไม่รบกวนการทำงานในยามบ่าย 
5. สีสันช่วยสร้างบรรยากาศให้เอื้อต่อการทำงาน เช่น สีโทนขาวหรือดำที่ดูคลาสสิก ให้ความรู้สึกเป็นการเป็นงานเป็นมืออาชีพ 
6. จัดระเบียบที่ทางสำหรับอุปกรณ์การทำงาน การใช้กล่องหรือชั้นวางของเป็นตัวช่วยที่ดี เมื่อทุกอย่างมีระเบียบเป็นที่เป็นทาง การจะหยิบจับหรือหาสิ่งของย่อมง่าย
7. สิ่งที่จะขาดไม่ได้คือ “ปลั๊กไฟ” ความที่มุมทำงานมักมีคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เสริมสารพัด ทั้งโน้ตบุ๊ค ปริ้นเตอร์ สแกนเนอร์ สมาร์ทโฟน ฯลฯ ปลั๊กไฟคือหัวใจของการทำงาน ซึ่งสิ่งสำคัญนอกเหนือจากความสะดวกในการใช้งานคือ “ความปลอดภัย” 
ตำแหน่งของสวิตช์และปลั๊กไฟ ควรสูงจากพื้น 80 เซนติเมตร ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต้องการความสะดวกในการทำงาน เช่น คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค ฯลฯ และควรอยู่ในจุดที่ปลอดภัย แสงแดดส่องไม่ถึง และห่างจากบานหน้าต่างอย่างน้อย 10 เซนติเมตร ป้องกันความร้อน ความชื้น และปัญหาน้ำฝนซึมเข้ามาได้
<img src="https://cdn.baania.com/b21/article/20220819/content/gew5hlxg-20220819065514.jpg" style="width: 100%;" alt="ฮวงจุ้ยไฟ" width="" height="" title="ฮวงจุ้ยไฟ" class="" role=""> ในบรรดาผลิตภัณฑ์กลุ่มสวิตช์และเต้ารับหรือปลั๊กไฟ ต้องยกนิ้วให้ AvatarOn A จากชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) นอกจากผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้รับมาตรฐาน IEC (International Electro Technical Commission) ยังมีฟังก์ชั่นที่ตอบในทุกโจทย์ของการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นความโดดเด่นในเรื่องของการดีไซน์ที่เรียบหรู 
ตัวสวิตช์มีให้เลือก 3 ขนาด 3 สี คือ ขาว-ดำ-เทา รองรับทุกการดีไซน์โดยสามารถใส่ความเป็นตัวตนด้วยการมิกซ์แอนด์แมช หน้าสวิตช์ที่เรียบเนียนเป็นหนึ่งเดียวกับผนัง เข้ากับทุกสไตล์การตกแต่ง ยังสามารถออกแบบการติดตั้งเป็นแนวตั้งหรือแนวขวางตามความถนัดมือ 
ส่วนปลั๊กไฟนั้น เต้ารับ 3 ขา มีทั้งเต้ารับเดี่ยว เต้ารับคู่ และเต้ารับคู่ที่มาพร้อมกับสวิตช์ไฟปิด-เปิดที่เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานมากขึ้น แค่ปิด-เปิดสวิตช์ด้านข้าง วงจรไฟฟ้าก็จะตัดหรือจ่ายไฟทันที โดยไม่ต้องดึงปลั๊กออก ยืดอายุการใช้งานและยังช่วยประหยัดค่าไฟได้มากกว่า ยังมีเต้ารับ USB ทั้ง type A และ type C รองรับอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด สามารถปรับแต่งรวมสวิตช์และเต้ารับได้หลากหลายรูปแบบตามลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันในยุค 5G<img src="https://cdn.baania.com/b21/article/20220819/content/zlzofo7y-20220819065650.jpg" style="width: 100%;" alt="ฮวงจุ้ยไฟ" width="" height="" title="ฮวงจุ้ยไฟ" class="" role=""> 
ทั้งนี้ เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนทุกเจนเนอร์เรชั่น <a href="https://www.se.com/th/en/product-range/8297075-avataron-a/#overview" target="_blank">AvatarOn A</a> จึงใส่ใจในทุกรายละเอียด ให้ทั้งความสวยงาม ปลอดภัย และได้ประโยชน์สูงสุด

ปรับฮวงจุ้ย เปลี่ยนมุมทำงานให้เป็นมุมโปรดด้วยสวิตช์ไฟ

จัดทิศหัวนอนอย่างไรให้ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย

ทุกคนมีความเกี่ยวพันกับตัวเลข และเชื่อว่าตัวเลขมงคลสามารถหนุนดวงชะตาได้ โดยเฉพาะเบอร์โทรศัพท์มงคล และเลขที่บ้าน หากเลือกได้ถูกโฉลกกับตัวเองจะช่วยหนุนนำเรื่องการงาน ความสงบสุขในการอยู่อาศัย รวมถึงการติดต่อสื่อสารให้เป็นไปอย่างราบรื่น บทความนี้จะมาแนะนำถึงวิธีเลือกเบอร์มงคลและเลขที่บ้านให้ถูกต้องและเหมาะสมกับคนในแต่ละวันเกิด เพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้อ่านสามารถนำวิธีการนี้ไปใช้ในการเลือกเบอร์มงคลหรือเลขที่บ้านเพื่อเสริมหนุนดวงชะตา เสริมความเฮงให้กับการงาน
<h2>วิธีเลือกเบอร์มงคลและเลขที่บ้านตามวันเกิด</h2>
การเลือกเบอร์มงคลหรือเลขที่บ้านให้เกื้อหนุนกับวันเกิดนั้นจะมีอยู่ 2 ลักษณะคือ อาศัยการเลือกเพื่อหลีกเลี่ยงเลขกาลกิณี และเลือกโดยการอาศัยหลักการคำนวณมาเกี่ยวข้อง กล่าวคือนำตัวเลขทั้ง 10 หลักมาบวกกัน หากผลรวมออกมามีเลขกาลกิณีประกอบอยู่ก็ควรหลีกเลี่ยง
<h3>วันอาทิตย์</h3>
สำหรับผู้ที่เกิดวันอาทิตย์นั้นมีตัวเลขกาลกิณีคือเลข 6 ดังนั้นผลรวมของหมายเลขโทรศัพท์หรือเลขที่บ้านจึงไม่ควรเป็นเลข 6 รวมไปถึงไม่ควรมีเลข 6 ใน 2 ตัวท้ายของเบอร์โทรศัพท์อีกด้วย ส่วนเลขที่เป็นมงคลของผู้เกิดวันอาทิตย์คือเลข 4 เลข 5 เลข 2 และเลข 1
ดังนั้นเบอร์มงคลของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ควรลงท้ายด้วย 41, 14, 24, 42, 45, 54, 1444, 5444 หรือผลรวมของเบอร์โทรศัพท์ควรจะเป็น 41, 44, 45, 54 หรือถ้าลงท้ายด้วย 42, 44 และมีผลรวมของเลข 10 ตัวเท่ากับ 44 เชื่อว่าจะทำให้ค้าขายร่ำรวย มีโชคลาภมาก
<h3>วันจันทร์</h3>
สำหรับผู้ที่เกิดวันจันทร์นั้นมีตัวเลขกาลกิณีคือเลข 1 และ 2 ทำให้ห้ามมีเลข 1 และ 2 ในผลรวม รวมไปถึงไม่ควรมีเลขทั้ง 2 ตัวนี้ในเลข 2 ตัวท้ายของเบอร์โทรศัพท์อีกด้วย
ส่วนเลขมงคลของผู้ที่เกิดวันจันทร์ได้แก่เลข 4 เลข 2 เลข 5 เลข 6 ดังนั้นตัวเลขลงท้ายที่เป็นมงคลสำหรับผู้ที่เกิดวันจันทร์คือ 424, 636, 42, 45, 46, 54, 56, 59, 63, 64, 65, 95, 455, 655, 955, 599 และผลบวกที่เป็นมงคลคือ 36, 42, 45, 54, 56, 59, 63, 65 ส่วนเลขมงคลที่สุดในเรื่องความร่ำรวยของคนเกิดวันจันทร์นั้นได้แก่ 42, 44
<h3>วันอังคาร</h3>
สำหรับผู้ที่เกิดวันอังคารนั้นมีตัวเลขกาลกิณีคือเลข 2 ทำให้ห้ามมีเลข 2 ในผลรวมของเบอร์โทรศัพท์ รวมไปถึงไม่ควรมีเลข 2 ในเลข 2 ตัวท้ายของเบอร์โทรศัพท์อีกด้วย ส่วนเลขมงคลที่เหมาะกับผู้ที่เกิดวันอังคารได้แก่เบอร์ที่ลงท้ายด้วยเลข 14, 15, 41, 45, 51, 54, 155, 455, 955, 59, 95, 599
ในส่วนผลบวกเลข 10 ตัวของเบอร์โทรศัพท์นั้นที่เป็นมงคลสำหรับผู้ที่เกิดวันอังคารนั้นได้แก่ 41, 44, 45, 51, 54, 55, 59 สำหรับความเชื่อในเรื่องโชคลาภและความร่ำรวยนั้น คนที่เกิดวันอังคารควรใช้เบอร์มงคลที่ลงท้ายด้วย 45, 59 หรือผลรวมของเลข 10 ตัวเท่ากับ 45, 59 ก็ได้
<h3>วันพุธกลางวัน</h3>
สำหรับผู้ที่เกิดวันพุธกลางวันนั้นมีตัวเลขกาลกิณีคือเลข 3 ทำให้ห้ามมีเลข 3 ในผลรวม รวมไปถึงไม่ควรมีเลข 3 ในเลข 2 ตัวท้ายของเบอร์โทรศัพท์อีกด้วย ส่วนเลขมงคลที่จะหนุนดวงชะตาของผู้ที่เกิดวันพุธกลางวันได้แก่ 14, 15, 424, 41, 42, 45, 46, 51, 54, 56, 59, 64, 65, 95, 155, 455, 655, 955, 599 สำหรับผลบวกเลข 10 ตัวของเบอร์โทรศัพท์ที่จะหนุนดวงของผู้ที่เกิดวันพุธได้แก่ 41, 42, 44, 45, 46, 51, 54, 55, 56, 59, 65 ส่วนตัวเลขมงคลที่เสริมความร่ำรวยให้แก่คนเกิดวันพุธกลางคืนได้แก่เลขที่ลงท้าย หรือผลรวมของเบอร์ 10 ตัวได้แก่ 51 ,15 ,65 ,56&nbsp;
<h3>วันพุธกลางคืน</h3>
สำหรับผู้ที่เกิดวันพุธกลางคืนนั้นมีตัวเลขกาลกิณีคือเลข 5 ทำให้ห้ามมีเลข 5 ในผลรวม และต้องไม่มีเลข 5 ในเลข 2 ตัวท้ายของเบอร์โทรศัพท์อีกด้วย ทางด้านตัวเลขมงคลของคนที่เกิดวันพุธกลางคืนนั้นได้แก่ 14, 424 ,636, 41, 42, 46, 63, 64 ที่เหมาะจะเป็นเลขท้าย 2 ตัวของเบอร์โทรศัพท์ ส่วนผลรวมของตัวเลข 10 ตัวที่จะส่งเสริมดวงชะตาของผู้ที่เกิดวันพุธกลางคืนได้แก่ 36, 42, 46, 63, 64 และถ้าเน้นเรื่องความร่ำรวยเป็นพิเศษเลขท้าย 2 ตัวของเบอร์โทรศัพท์ รวมไปถึงผลรวมของเลข 10 ตัวควรจะเป็นเลข 36, 42
<h3>วันพฤหัสบดี</h3>
สำหรับผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดีนั้นมีตัวเลขกาลกิณีคือเลข 7 ทำให้ห้ามมีเลข 7 ในผลรวม รวมไปถึงไม่ควรมีเลข 7 ในเลข 2 ตัวท้ายของเบอร์โทรศัพท์เป็นอันขาด ส่วนตัวเลขมงคลของคนที่เกิดวันพฤหัสบดีนั้นได้แก่ 14, 15, 424, 41, 42, 45, 46, 51, 54, 56, 59, 64, 65, 95, 155, 455, 655 ,955 ,599ทางด้านผลรวมของตัวเลข 10 ตัวที่จะส่งเสริมดวงชะตาของผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดีได้แก่ 41, 42, 45, 46, 51, 54, 55, 56, 59, 64, 65 แต่ถ้าหวังในเรื่องความร่ำรวยเป็นพิเศษ ตัวเลขที่จะส่งเสริมด้านนี้สำหรับผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดีได้แก่ 55, 59 ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งเลข 2 ตัวท้าย หรือผลรวมของตัวเลข 10 ตัวก็ได้
<h3>วันศุกร์</h3>
สำหรับผู้ที่เกิดวันศุกร์นั้นมีตัวเลขกาลกิณีคือเลข 8 ทำให้ห้ามมีเลข 8 ในผลรวม รวมไปถึงไม่ควรมีเลข 8 ในเลข 2 ตัวท้ายของเบอร์โทรศัพท์เป็นอย่างยิ่งเพราะจะไม่ส่งผลดีต่อดวงชะตา สำหรับเลข 2 ตัวท้ายที่เหมาะสมกับคนที่เกิดวันศุกร์ได้แก่ 14, 15, 424, 636, 41, 42, 45, 46, 51, 54, 56, 59, 63, 64, 65, 95, 155, 455, 655, 955, 599สำหรับผลรวมเบอร์โทรศัพท์ 10 ตัว ที่เป็นตัวเลขมงคลซึ่งเหมาะสมกับผู้ที่เกิดวันศุกร์ได้แก่ 36, 41, 42, 45, 46, 51, 54, 56, 59, 63, 65 และตัวเลขมงคลที่ส่งเสริมความร่ำรวยสำหรับผู้ที่เกิดวันศุกร์ได้แก่ 36, 63, 56, 65 ถ้ามีเลขเหล่านี้ใน 2 ตัวท้ายของเบอร์โทรศัพท์ หรือผลรวมของเลข 10 ตัวเชื่อว่าจะส่งเสริมด้านความร่ำรวย
<h3>วันเสาร์</h3>
สำหรับผู้ที่เกิดวันเสาร์นั้นมีตัวเลขกาลกิณีคือเลข 4 ทำให้ไม่ควรมีเลข 4 ในผลรวม รวมไปถึงไม่ควรมีเลข 84ในเลข 2 ตัวท้ายของเบอร์โทรศัพท์ ส่วนตัวเลขมงคลที่เหมาะจะเป็นเลข 2 ตัวท้ายของเบอร์โทรศัพท์สำหรับผู้ที่เกิดวันเสาร์ได้แก่ 15, 636, 51, 155, 655, 955, 56, 59, 63, 65, 95, 599 ทางด้านผลรวมของตัวเลข 10 ตัวที่เป็นมงคลแก่ผู้ที่เกิดวันเสาร์ได้แก่ 36, 51, 55, 56, 59, 63, 65 แต่ถ้าต้องการเรื่องความร่ำรวย โชคลาภ ให้เลือกเลขลงท้าย 2 ตัว รวมไปถึงผลบวกของเลข 10 ตัวให้เป็นเลข 36, 63, 56, 65
<img src="https://cdn.baania.com/b20/article/source/1603705157672-เบอร์มงคลตามวันเกิด.jpg" alt="เลือกเบอร์มงคลตามวันเกิด" width="1020" height="765" />
วิธีเลือกเบอร์มงคลและเลขที่บ้านให้เหมาะสมกับตัวเองโดยยึดตามหลักวันเกิดนั้นสามารถคำนวณได้ไม่ยาก และวิธีนี้ยังสามารถนำไปใช้เป็นเกณฑ์ในการประมูลเลขทะเบียนรถก็ได้เช่นกัน ขึ้นชื่อว่าสิ่งที่เป็นมงคล ย่อมนำแต่ความโชคดีมาสู่ผู้ครอบครอง ทั้งนี้ผู้ครอบครองเองก็ต้องตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรมเพื่อหนุนส่งให้ความมงคลนั้นอยู่กับเราไปนานๆ &nbsp;&nbsp;

วิธีเลือกเบอร์มงคลหรือเลขที่บ้านตามวันเกิด

บางครั้งเลขที่บ้านนั้นก็ไม่สามารถเลือกได้ตามใจต้องการ จึงทำให้เกิดการแก้เคล็ดเลขที่บ้านขึ้นมา เนื่องจากว่าตามความเชื่อของบางคนนั้นเลขที่บ้านจะส่งผลต่อดวงชะจาของเจ้าบ้าน หรือของผู้อาศัย การได้เลขที่บ้านซึ่งไม่เป็นมงคลจึงเป็นสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาของผู้ที่เชื่อในเรื่องนี้ ในบทความนี้ลองมาดูกันว่าถ้าเลขที่บ้านนั้นไม่ถูกโฉลกจะสามารถแก้เคล็ดเลขที่บ้านให้เปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดี ให้กลับมาส่งเสริมดวงได้อย่างไร
<h2>1. ติดแผ่นทองคำเปลว</h2>
เมื่อคำนวณมาแล้วว่าเลขทำนายจากเลขที่บ้านนั้นไม่เป็นมงคล การใช้แผ่นทองคำเปลวมาแปะบริเวณตัวเลขนั้นสามารถช่วยแก้เคล็ดเลขที่บ้านได้ โดยให้นำแผ่นทองคำเปลวไปแปะบริเวณตัวเลขที่ไม่ต้องการเพียง 1 ตัวเท่านั้น ซึ่งตามความเชื่อนั้นแผ่นทองคำเปลวจะทำให้ตัวเลขนั้นหายไป เช่น บานเลขที่ 29/267 ผลรวมเท่ากับ 8 แต่ถ้านำแผ่นทองคำเปลวไปปิดที่บริเวณเลข 2 ผลรวมจากการคำนวณจะเป็น 6 ซึ่งเป็นเลขที่ถูกโฉลกนั่นเอง
ซึ่งการติดแผ่นทองคำเปลวนั้นใช้เพียง 1 แผ่น โดยแปะให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดโดยมียอดแหลมชี้ขึ้นด้านบน การแปะแผ่นทองคำเปลวให้ติดแน่นนั้นควรนำเทียนไขมาทาบริเวณที่ต้องการจะติดเสียก่อน และเมื่อติดสำเร็จแล้วผ่านเวลาไปพอประมาณ แผ่นทองคำเปลวจะลอกออกก็ไม่มีผลแต่อย่างใด
<img src="https://cdn.baania.com/b20/article/source/1603456127244-แผ่นทองคำเปลว.jpg" alt="แผ่นทองคำเปลว" />
<h2>2. เพิ่มแสงไฟบริเวณป้ายเลขที่บ้าน</h2>
การแก้เคล็ดด้วยวิธีการนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถทำได้ง่าย เนื่องจากตามความเชื่อนั้นเชื่อว่าแสงสว่างที่เพิ่มเติมเข้ามาบริเวณป้ายบ้านเลขที่นั้นจะช่วยให้ปัญหาต่างๆ คลี่คลายออกไป เป็นแสงสว่างให้ก้าวพ้นอุปสรรค โดยการแก้เคล็ดวิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ทำธุรกิจแล้วเกิดปัญหาที่แก้ได้ยาก หาทางออกไม่เจอ แต่คนทั่วไปที่เจอกับปัญหายากๆ ก็สามารถลองใช้วิธีนี้ได้เช่นกัน
<img src="https://cdn.baania.com/b20/article/source/1603456166255-แสงไฟบริเวณป้ายเลขที่บ้าน.jpg" alt="แสงไฟบริเวณป้ายเลขที่บ้าน" width="1020" height="765" />
<h2>3. เพิ่มตัวเลขให้เลขที่บ้าน</h2>
หลักในการแก้เคล็ดด้วยวิธีนี้เป็นหลักการเดียวกับการนำทองคำเปลวมาติดที่ตัวเลขเพื่อให้ตัวเลขบวกออกมามีผลเป็นเลขมงคลนั่นเอง โดยตัวเลขที่นำมาติดเพิ่มนั้นจะเป็นสติ๊กเกอร์ ตัวเลขไม้ ตัวเลขพลาสติกได้ทั้งนั้น โดยให้นำตัวเลขที่คำนวณแล้วว่าจะทำให้ผลบวกออกมาเป็นเลขมงคลติดไว้บริเวณหลังเลขตัวสุดท้าย
ตัวเลขที่นำมาติดเพิ่มนั้นควรเป็นตัวเลขขนาดเล็กไม่เท่ากับขนาดของตัวเลขเดิมของเลขที่บ้าน เพราะว่าถ้าตัวเลขที่นำมาติดเพิ่มมีขนาดเท่ากันอาจจะทำให้การส่งของมาที่บ้านเกิดการผิดพลาดจากการอ่านตัวเลขผิด หรือจะติดให้ต่ำกว่าระดับของเลขที่บ้านเดิมก็ได้
<img src="https://cdn.baania.com/b20/article/source/1603456212001-เพิ่มตัวเลข.jpg" alt="เพิ่มตัวเลข" width="1020" height="765" />
<h2>4. ปลูกต้นไม้มงคล</h2>
การปลูกต้นไม้มงคลต่างๆ ภายในบ้านนั้นจัดว่าเป็นการหนุนดวงชะตา เสริมโชคลาภ ให้แก่เจ้าของ และผู้อยู่อาศัยภายในบ้าน ซึ่งต้นไม้มงคลเหล่านั้นจะช่วยสร้างสมดุล และไม่ทำให้ความไม่เป็นมงคลจากเลขที่บ้านส่งผลต่อคนภายในบ้านนั่นเอง ซึ่งต้นไม้มงคลที่จะนำมาปลูกนั้นก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อเรื่องไม้มงคลของผู้อยู่อาศัยที่จะต้องการปลูกไม้มงคลชนิดไหนนั่นเอง
โดยการปลูกไม้มงคลนั้นสามารถปลูกได้ทุกประเภทตามความเหมาะสม และความเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นไม้ประดับ ไม้ยืนต้น หรือว่านมงคล ล้วนแต่ช่วยหนุนดวงสร้างสมดุลได้ทั้งนั้น
<img src="https://cdn.baania.com/b20/article/source/1603456243971-ปลูกต้นไม้มงคล.jpg" alt="ปลูกต้นไม้มงคล" />
<h2>5. แก้เคล็ดด้วยหลักฮวงจุ้ย</h2>
เมื่อไม่สามารถเลือกเลขที่บ้านได้ตามความต้องการแล้วนั้น การจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ยก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการที่จะปรับสมดุลต่างๆ ของพลังงานในบ้านให้เหมาะสม และเป็นพลังงานที่ดีซึ่งจะเกื้อหนุน และส่งเสริมดวงชะตาของผู้พักอาศัยภายในบ้านได้ อีกทั้งยังช่วยลดทอนพลังงานด้านลบจากความไม่มงคลของเลขที่บ้านได้อีกด้วย
การจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ยนั้นส่วนมากจะใช้เป็นวิธีการสุดท้ายเมื่อทำตามวิธีการแก้เคล็ดเลขที่บ้านด้วยวิธีการอื่นๆ แล้วยังไม่รู้สึกดีขึ้น หรือยังได้ไม่ดีเท่าที่ต้องการ ซึ่งการปรับฮวงจุ้ยของบ้านนั้นก็สามารถทำได้หลากหลายวิธีแล้วแต่ความเชื่อ และความเหมาะสมของแต่ละบ้าน
<img src="https://cdn.baania.com/b20/article/source/1603456272495-หลักฮวงจุ้ย.jpg" alt="หลักฮวงจุ้ย" width="1020" height="765" />
<h2>6. เลี้ยงปลาหน้าบ้าน</h2>
การเลี้ยงปลาบางประเภท ที่เป็นปลามงคลบริเวณหน้าบ้านนั้นเชื่อว่าจะช่วยหนุนดวง เสริมบารมี รวมไปถึงแก้ไขสิ่งที่ไม่ดีไม่ให้เข้ามาภายในบ้านได้อีกด้วย ซึ่งปลามงคลเหล่านั้นได้แก่ ปลาคาร์ฟ ปลาหมอสี ปลามังกร ปลาเงินปลาทอง โดยให้ทำบ่อเลี้ยงไว้บริเวณหน้าบ้าน โดยตัวบ่อควรเป็นบ่อที่จัดวางได้ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยด้วย&nbsp;
เมื่อนำปลามงคลเหล่านี้มาเลี้ยงเพื่อช่วยหนุนดวงชะตา และเป็นการแก้เคล็ดเลขที่บ้านแล้วนั้น เชื่อว่าผู้อยู่อาศัยภายในบ้านจะต้องพบเจอแต่เรื่องดีขึ้น ไม่ต้องมากังวลกับเรื่องของเลขที่บ้านอีกต่อไป
<img src="https://cdn.baania.com/b20/article/source/1603456305902-เลี้ยงปลาหน้าบ้าน.jpg" alt="เลี้ยงปลาหน้าบ้าน" width="1020" height="765" />
<h2>7. ติดเหรียญบาท</h2>
การนำเหรียญบาทมาติดบริเวณป้ายเลขที่บ้านนั้นถือว่าเป็นการเพิ่มจำนวนตัวเลขให้กับเลขที่บ้านนั่นเอง โดยการทำเหรียญบาทมาติดจะเท่ากับดาว 1 ดวง มีค่าเท่ากับ 1 ดังนั้นมาติดเหรียญบาทไว้บริเวณด้านหน้า หรือด้านหลังป้ายเลขที่บ้านก็จะทำให้เหมือนมีการบวกตัวเลขเพิ่มเข้าไปอีก 1 นั่นเอง จากที่แต่เดิมบวกได้ 5 เพิ่มเหรียญบาทไป 1เหรียญก็จะกลายเป็นบวกได้ 6
<img src="https://cdn.baania.com/b20/article/source/1603456328983-ติดเหรียญบาท.jpg" alt="ติดเหรียญบาท" width="1020" height="765" />
<h2>8. วิธีการคำนวณเลขที่บ้าน</h2>
วิธีการคำนวณเลขที่บ้านนั้นสามารถทำได้โดยนำเลขที่บ้านทั้งหมดมาบวกกันจนกว่าจะเหลือเลขตัวเดียว ยกตัวอย่างเช่น บ้านเลขที่ 29/267 นำตัวเลขทั้งหมดมาบวกกันจะได้ 2+9+2+6+7 = 26 ซึ่งยังเป็นเลข 2 ตัวอยู่ ให้นำผลลัพธ์คือมาบวกกันอีกครั้งคือ 2+6 = 8 ซึ่งจะเป็นเลขทำนายจากเลขที่บ้านนั่นเอง &nbsp;โดยตัวเลขมงคลตามความเชื่อนั้นได้แก่
<ul>
<li>เลข 0 ตามความเชื่อนั้นเลขศูนย์จัดว่าเป็นเลขคู่ และความโชคดีจะมาเป็นคู่เสมอ ถ้าคำนวณเลขที่บ้านได้ตรงกับเลขศูนย์ เชื่อว่าจะมีโชคลาภทางการเงิน</li>
<li>เลข 2 เลขสองก็เป็นเลขคู่อีกเช่นกัน ซึ่งถือว่าเป็นเลขมงคล จะทำให้มีโชคลาภในด้านต่างๆ การทำงาน การค้าขาย</li>
<li>เลข 3 เลขสามนั้นบ่งบอกถึงสถานะของคนตามปกติคือ เด็ก ผู้ใหญ่ แก่ การที่คำนวณเลขที่บ้านได้เท่ากับ 3 นั้นถือว่าเป็นบ้านที่มีความเข้าใจในชีวิต มีความเข้าใจหลักธรรมชาติ เป็นบ้านที่มีความสงบสุข</li>
<li>เลข 6 ตามความเชื่อนั้นเลข 6 หมายถึงความราบรื่น เมื่อคำนวณเลขที่บ้านได้เท่ากับ 6 จะเชื่อว่าผู้อาศัยภายในบ้านหลังนั้นจะมีแต่ความสุข ประกบกิจการงานใดไม่ติดขัด ชีวิตครอบครัวมีแต่ความอบอุ่น</li>
<li>เลข 8 เลขแปดตามความเชื่อนั้นหมายถึงความเจริญก้าวหน้า เป็นเลขที่ถือว่าเป็นมงคลมากที่สุดเนื่องจากมีลีกษณะไหลเวียนกันไม่จบสิ้นนั่นเอง การที่คำนวณเลขได้ผลเป็นเลข 8 จะทำให้ผู้อาศัยภายในบ้านนั้นมีความเจริญ คิดทำสิ่งได้ก็สำเร็จ มีความเจริญก้าวหน้าทุกกิจการ</li>
<li>เลข 9 เลขเก้านั้นหมายความว่าอายุยืน ดังนั้นเมื่อคำนวณเลขที่บ้านได้ตรงกับเลข 9 ก็จะส่งผลให้ผู้อาศัยภายในบ้านมีอายุยืน ไม่มีโรคภัยเบียดเบียน</li>
</ul>
<img src="https://cdn.baania.com/b20/article/source/1603456358245-วิธีการคำนวณเลขที่บ้าน.jpg" alt="วิธีการคำนวณเลขที่บ้าน" width="1020" height="765" />
จากบทความนี้จะเห็นได้ว่าการแก้เคล็ดเลขที่บ้านนั้นทำได้หลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็มีทั้งสามารถทำได้ด้วยตัวเองแบบง่ายๆ ไปจนถึงวิธีการที่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญมาเป็นคนช่วยเหลืออย่างเช่นการจัดแก้ฮวงจุ้ยต่างๆ ภายในบ้านนั่นเอง โดยวิธีการแก้เคล็ดเลขที่บ้านที่ได้แนะนำในบทความนี้เป็นวิธีการตามความเชื่อ ซึ่งเชื่อว่าเมื่อได้ลองนำไปปรับใช้กับบ้านตัวเองจะมีผลที่ในเรื่องต่างๆ เกิดขึ้นอย่างแน่นอน&nbsp;

วิธีแก้เคล็ดเลขที่บ้านแบบง่ายได้ผลจริง

ฮวงจุ้ย

Highlight<ul><li>วันมงคลดีมากประจำเดือน วันที่ 11, 13, 16 และ 25 มีนาคม 2567</li><li>วันมงคลประจำเดือนวันที่ 15, 20, 22, 24, 29 และ 30 มีนาคม 2567</li><li>วันเสียเดือนมีนาคม 2567 วันที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 12, 19, 26</li></ul>การสร้างบ้าน ปลูกบ้าน การขึ้นบ้านใหม่ และการเริ่มต้นธุรกิจ เป็นช่วงเวลาที่ต้องมีการเสริมความมงคลที่จะช่วยอำนวยโชคให้กับเจ้าของ และผู้อยู่อาศัยอื่นๆ หากเป็นการเริ่มกิจการก็จะเป็นสิริมงคลกับการเดินทางสู่การค้าขายที่รุ่งเรืองต่อไป ดังนั้นการเลือกวัน และเวลาที่เหมาะสมมักเป็นสิ่งที่ต้องทำกันล่วงหน้าบาเนียจะมาบอกวันมงคลประจำเดือนมีนาคม 2567 สำหรับการขึ้นบ้านใหม่ การเริ่มกิจการใหม่ ดังนี้ วันมงคลดีมากประจำเดือนวันที่ 11 มีนาคม 2567  08:25 ถึง 10:48 น. >> วันหัวเรียงหมอน เหมาะสำหับพิธีกินแขกแต่งงาน คิดจะดำเนินการใดจะสมหวังวันที่ 13 มีนาคม 2567  13:13 ถึง 15:36 น. >> วันมหาสิทธิโชค หรือวันโชคมงคล มหาวัน ของเดือนนี้ วันที่ 16 มีนาคม 2567  08:25 ถึง 10:48 น. >> วันหัวเรียงหมอน เหมาะสำหับพิธีกินแขกแต่งงาน คิดจะดำเนินการใดจะสมหวัง ตรงกับวันเสาร์ ยิ่งมงคลขึ้นไป วันที่ 25 มีนาคม 2567   08:25 ถึง 10:48 น. >> วันมงคลที่เหมาะกับการขึ้นบ้านใหม่และเริ่มกิจการ<img src="https://cdn.baania.com/b21/article/20240228/content/rgt1kdu2-20240228063423.png" style="width: 100%;"> วันมงคลประจำเดือนวันที่ 15, 20, 22, 24, 29 และ 30 มีนาคม 2567<img src="https://cdn.baania.com/b21/article/20240228/content/jhe1c5tc-20240228063446.png" style="width: 100%;"> วันเสียเดือนกุมภาพันธ์ วันที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 12, 19, 26 มีนาคม 2567 <img src="https://cdn.baania.com/b21/article/20240228/content/fd6f5336-20240228063526.png" style="width: 100%;"> คำนวณจากตารางปฎิทินพระครูอดุลสีลกิตติ์ วัดธาตุคำ จังหวัดเชียงใหม่  หาบ้านถูกใจบน baania.com ได้ที่นี่<a href="https://www.baania.com/" target=""><img src="https://cdn.baania.com/b21/article/20240228/content/r5cmvwzn-20240228063618.png" style="width: 100%;" alt="" width="" height="" title="" class="" role=""></a>

วันมงคลขึ้นบ้านใหม่ มีนาคม 2567

วันมงคลขึ้นบ้านใหม่ เปิดร้านใหม่ เดือน มีนาคม 2567

<div>Highlight</div><ul><li>วันมงคลดีมากประจำเดือน วันที่ 1, 3, 5, 6, 17, 21 กุมภาพันธ์ 2567</li><li>วันที่ 14, 16, 20, 23, 27 กุมภาพันธ์ 2567 </li><li>วันเสียเดือนกุมภาพันธ์ วันที่ 2, 7, 9, 11, 12, 18, 19, 25, 26 กุมภาพันธ์ 2567</li></ul>การมีบ้านหรือการเริ่มต้นธุรกิจ เป็นสิ่งที่น่ายินดีที่เกิดขึ้นในช่วงชีวิตของแต่ละคน แสดงถึงการเปลี่ยนผ่านไปสู่ความสุข การเติบโต และความรับผิดชอบครั้งใหญ่  ในบางความเชื่อ การเข้าบ้านใหม่หรือการเปิดกิจการใหม่ มักเลือกวันที่เสริมความมงคล เสริมความโชคดีของเจ้าของและผู้อาศัยบาเนียจะมาบอกวันมงคลประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2567 สำหรับการขึ้นบ้านใหม่ การเริ่มกิจการใหม่ ดังนี้<img src="https://cdn.baania.com/b21/article/20240201/content/mfmvaw50-20240201081951.png" style="width: 100%;"> วันมงคลดีมากประจำเดือนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567  15:37 ถึง 18:00 น. >> วันมหาสิทธิโชคหรือวันโชคหลวงมหาวัน  วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567 08:25 ถึง 10:48 น. >> วันริทธาดิถี ตรงกับวันเสาร์ ยิ่งมงคลขึ้นไป  วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 256708:25 ถึง 10:48 น. >> วันมงคลที่เหมาะกับการขึ้นบ้านใหม่และเริ่มกิจการ  วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 10:49 ถึง 13:12 น. >> วันมงคลที่เหมาะกับการขึ้นบ้านใหม่และเริ่มกิจการ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 08:25 ถึง 10:48 น. >> วันมงคลที่เหมาะกับการขึ้นบ้านใหม่และเริ่มกิจการ  วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 13:13 ถึง 15:36 น. >> วันภัทราดิถีหรือวันที่เหมาะกับการเจรจา ได้รับโชคลาภจากผู้ใหญ่ <img src="https://cdn.baania.com/b21/article/20240201/content/liij3elg-20240201075614.png" style="width: 100%;"> วันมงคลประจำเดือน วันที่ 14, 16, 20, 23, 27 กุมภาพันธ์ 2567  <img src="https://cdn.baania.com/b21/article/20240201/content/xg4huhvj-20240201081911.png" style="width: 100%;"> วันเสียเดือนกุมภาพันธ์  วันที่ 2, 7, 9, 11, 12, 18, 19, 25, 26 กุมภาพันธ์ 2567  คำนวณจากตารางปฎิทินพระครูอดุลสีลกิตติ์ วัดธาตุคำ จังหวัดเชียงใหม่  หาบ้านถูกใจบน baania.com <a href="https://www.baania.com" target="_blank">ได้ที่นี่</a><a href="https://www.baania.com/" target=""><img src="https://cdn.baania.com/b21/article/20240201/content/ui7lb6b1-20240201075857.png" style="width: 100%;" alt="" width="" height="" title="" class="" role=""></a>

วันมงคลขึ้นบ้านใหม่ เปิดร้านใหม่ เดือน กุมภาพันธ์ 2567

<h1>รวมฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 ทั้งหมด วันไหนดี วันไหนห้าม มาดูกัน</h1><span style="font-family: Nunito, -apple-system, BlinkMacSystemFont, &quot;Segoe UI&quot;, Roboto, &quot;Helvetica Neue&quot;, Arial, sans-serif, &quot;Apple Color Emoji&quot;, &quot;Segoe UI Emoji&quot;, &quot;Segoe UI Symbol&quot;, &quot;Noto Color Emoji&quot;; font-size: 1rem;">เพราะ “บ้าน” เป็นที่อยู่อาศัยของทุกคน ดังนั้น เพื่อสร้างความสงบสุขและร่มเย็นให้ตัวบ้านตั้งแต่ก่อนเข้ามาอยู่อาศัย นอกจากจะทำความเข้าใจคนในครอบครัวทุกอย่างเป็นอย่างดีแล้ว การหาฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ก็เป็นธรรมเนียมปฏิบัติตั้งแต่โบราณที่เชื่อว่าเป็นการนำความมงคลเข้าบ้านเพื่อให้การอยู่อาศัยราบรื่นและมีความสุข&nbsp; ซึ่งหากใครได้ดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 กับหมอลักษณ์ หรือหมอดูชื่อดังหลายท่าน แต่ยังไม่รู้จะเลือกย้ายบ้านวันไหนดีในปี 2565 เพราะบางวันที่มงคลกับเราก็ดันไม่มงคลกับอีกคน หรือวันไหนเป็นวันดีก็ดันมีโรคระบาดมาขวางกั้น หรือวันไหนที่มงคลทั้งบ้านก็ดันมีเรื่องที่ทำให้วุ่นวายจนไม่ได้ขึ้นบ้านใหม่อีก ซึ่งหากใครกำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้อยู่ วันนี้ Baania ได้รวบรวมฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ประจำปี 2565 พร้อมแนะนำการเตรียมตัวและการเลือกฤกษ์ให้เหมาะกับคนในบ้านมาฝากกัน จะมีอะไรบ้างนั้น ตามมาดูกันเลย<img src="https://cdn.baania.com/b21/article/20220323/content/4g2widnj-20220323132039.jpg" style="width: 100%;" alt="ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 - Baania" width="" height="" title="ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 - Baania" class="" role=""> <h2>เตรียมตัวก่อนขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 อย่างไร?</h2>การเตรียมตัวที่ถูกต้องก็เท่ากับการมีฤกษ์มีชัยไปแล้วครึ่งหนึ่ง ซึ่งการเตรียมตัวขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 นี้ต้องเน้นความปลอดภัยของสุขภาพเป็นหลัก เนื่องจากมีการระบาดของโควิด-19 ดังนั้น อย่าลืมเตรียมอุปกรณ์ฆ่าเชื้อ อาทิ เจลแอลกอฮอล์ สเปรย์แอลกอฮอล์ รวมไปถึงใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งเพื่อป้องกันเชื้อโรค&nbsp;จากนั้นเมื่อเตรียมอุปกรณ์ดูแลสุขภาพของพระที่นิมนต์มาเพื่อขึ้นบ้านใหม่ รวมไปถึงความปลอดภัยของคนในบ้านและผู้ร่วมงานแล้ว ทีนี้ก็ถึงเวลาลงมือทำความสะอาดบ้านให้เรียบร้อยเพื่อเป็นการต้อนรับสิ่งดี ๆ ที่จะเข้ามาใหม่&nbsp;เมื่อทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ให้เตรียมตัวซื้อของ โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ<ol><li><span style="font-family: Nunito, -apple-system, BlinkMacSystemFont, &quot;Segoe UI&quot;, Roboto, &quot;Helvetica Neue&quot;, Arial, sans-serif, &quot;Apple Color Emoji&quot;, &quot;Segoe UI Emoji&quot;, &quot;Segoe UI Symbol&quot;, &quot;Noto Color Emoji&quot;; font-size: 1rem;">ของใช้สำหรับงานสงฆ์ ประกอบไปด้วย พระพุทธรูป เครื่องนมัสการ โต๊ะหมู่บูชาที่แข็งแรง เครื่องใช้ในพิธีสงฆ์ น้ำ อาหารคาว-อาหารหวานสำหรับพระสงฆ์ เครื่องไทยธรรมถวายพระสงฆ์ เครื่องรับรองพระสงฆ์ โถปริก ทองคำเปลว 9 แผ่น วงสายสิญจน์ และปัจจัยสำหรับถวายพระ</li><li>ชุดไหว้สักการะเจ้าที่เจ้าทาง ประกอบไปด้วย ผลไม้ 5 อย่าง น้ำสะอาด อาหารคาวและหวาน ดอกไม้ ธูป และเทียน</li><li>ของสำหรับแขกในงาน เป็นของที่แล้วแต่เจ้าภาพจะจัดเลี้ยงแขกในงานตามอัธยาศัย</li></ol><h2>พิจารณาเลือกฤกษ์ย้ายเข้าบ้านใหม่ปี 2565 ได้อย่างไร?</h2>&nbsp;เมื่อเตรียมซื้อของเพื่อขึ้นบ้านใหม่แล้ว ทีนี้ก็ถึงเวลาเลือกวันดีประจำปี 2565 กัน โดยตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว การเลือกวันและเวลาที่เหมาะกับการขึ้นบ้านใหม่จะพิจารณาจาก 5 ปัจจัยเป็นหลัก ประกอบด้วย<ol><li><span style="font-family: Nunito, -apple-system, BlinkMacSystemFont, &quot;Segoe UI&quot;, Roboto, &quot;Helvetica Neue&quot;, Arial, sans-serif, &quot;Apple Color Emoji&quot;, &quot;Segoe UI Emoji&quot;, &quot;Segoe UI Symbol&quot;, &quot;Noto Color Emoji&quot;; font-size: 1rem;">ชัยภูมิ หรือ ทำเลที่ตั้ง</li><li>ทิศทางของแดด ลม และฤดูกาล</li><li>ฤกษ์ยาม หรือ เวลามงคลที่สมดุลกับธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นเวลาที่นำไปสู่ความสุขและสำเร็จ</li><li>ดวงชะตาของคนในบ้าน พิจารณาจากปีนักษัตร</li><li>ความสะดวกของทุกคนในบ้าน เพราะหากมีใครไม่สะดวกขึ้นมา ต่อให้เป็นฤกษ์ที่ดีแค่ไหนก็อาจทำให้รู้สึกไม่สบายใจได้</li></ol><h2>แนะนำฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565</h2>ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ในแต่ละปีนั้นจะมีความแตกต่างกันออกไป หรือแม้แต่ในปีเดียวกัน หากคำนวณวันและเวลาด้วยศาสตร์ที่ต่างกันก็ทำให้ได้วันมงคลที่ไม่เหมือนกันเช่นกัน และเพื่อตอบโจทย์ให้ทุกคนได้มีฤกษ์ย้ายเข้าบ้านใหม่ปี 2565 ได้ลงตัวกับความต้องการมากที่สุด Baania ได้ทำการคัดสรรฤกษ์ดีประจำปีมาให้ทุกคนได้เลือกสรรตามนี้<img src="https://cdn.baania.com/b21/article/20220323/content/jun38cdl-20220323132103.jpg" style="width: 100%;" alt="ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 - Baania" width="" height="" title="ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 - Baania" class="" role=""> <h3>ฤกษ์ดีมกราคมปี 2565</h3>วันดีปี 2565 สำหรับเดือนมกราคมจะประกอบไปด้วย<img src="https://cdn.baania.com/b21/article/20220323/content/dvwwuxr3-20220323132128.jpeg" style="width: 100%;" alt="ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 - Baania" width="" height="" title="ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 - Baania" class="" role=""> <h3>ฤกษ์ดีกุมภาพันธ์ปี 2565</h3>วันดีเดือนกุมภาพันธ์ประจำปี 2565 นั้นจะมีรายละเอียด ดังนี้<img src="https://cdn.baania.com/b21/article/20220323/content/r7109qhx-20220323132137.jpeg" style="width: 100%;" alt="ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 - Baania" width="" height="" title="ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 - Baania" class="" role=""> <h3>ฤกษ์ดีมีนาคมปี 2565</h3>สำหรับปี 2565 นี้ เดือนมีนาคมจะมีวันดีที่สามารถใช้เป็นฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ได้ดังนี้<img src="https://cdn.baania.com/b21/article/20220323/content/v4b8eyrt-20220323132147.jpeg" style="width: 100%;" alt="ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 - Baania" width="" height="" title="ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 - Baania" class="" role=""> <h3>ฤกษ์ดีเมษายนปี 2565</h3>ในปีใหม่ไทย หรือ เดือนเมษายนนี้ วันดีประจำปี 2565 ได้แก่<img src="https://cdn.baania.com/b21/article/20220323/content/62tu1oxl-20220323132157.jpeg" style="width: 100%;" alt="ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 - Baania" width="" height="" title="ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 - Baania" class="" role=""> <h3>ฤกษ์ดีพฤษภาคมปี 2565</h3>วันดีเดือนพฤษภาคมปี 2565 นี้จะมีรายละเอียดทั้งหมดดังนี้<img src="https://cdn.baania.com/b21/article/20220323/content/biw4vc39-20220323132206.jpeg" style="width: 100%;" alt="ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 - Baania" width="" height="" title="ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 - Baania" class="" role=""> <h3>ฤกษ์ดีมิถุนายนปี 2565</h3>สำหรับช่วงครึ่งปี หรือ ในเดือนมิถุนายนนี้ ฤกษ์ดีที่เหมาะกับการขึ้นบ้านใหม่จะประกอบไปด้วย<img src="https://cdn.baania.com/b21/article/20220323/content/h9ptfeif-20220323132215.jpeg" style="width: 100%;" alt="ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 - Baania" width="" height="" title="ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 - Baania" class="" role=""> <h3>ฤกษ์ดีกรกฎาคมปี 2565</h3>ในเดือนกรกฎาคมนี้จะมีวันดีสำหรับปี 2565 ทั้งหมด ดังนี้<img src="https://cdn.baania.com/b21/article/20220323/content/7kmfibh7-20220323132225.jpeg" style="width: 100%;" alt="ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 - Baania" width="" height="" title="ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 - Baania" class="" role=""> <h3>ฤกษ์ดีสิงหาคมปี 2565</h3>วันดีประจำปี 2565 ของเดือนสิงหาคมจะประกอบไปด้วย<img src="https://cdn.baania.com/b21/article/20220323/content/whzpf2eh-20220323132234.jpeg" style="width: 100%;" alt="ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 - Baania" width="" height="" title="ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 - Baania" class="" role=""> <h3>ฤกษ์ดีกันยายนปี 2565</h3>ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ประจำปี 2565 ของเดือนกันยายนนี้จะมีรายละเอียดดังนี้<img src="https://cdn.baania.com/b21/article/20220323/content/5w1by4c6-20220323132243.jpeg" style="width: 100%;" alt="ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 - Baania" width="" height="" title="ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 - Baania" class="" role=""> <h3>ฤกษ์ดีตุลาคมปี 2565</h3>ฤกษ์ย้ายเข้าบ้านใหม่ปี 2565 สำหรับเดือนตุลาคมนั้นได้แก่<img src="https://cdn.baania.com/b21/article/20220323/content/2n1o6y2m-20220323132253.jpeg" style="width: 100%;" alt="ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 - Baania" width="" height="" title="ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 - Baania" class="" role=""> <h3>ฤกษ์ดีพฤศจิกายนปี 2565</h3>ใกล้สิ้นปีแบบเดือนพฤศจิกายน ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 ที่เหมาะสำหรับเดือนนี้จะประกอบไปด้วย<img src="https://cdn.baania.com/b21/article/20220323/content/p2fknl63-20220323132304.jpeg" style="width: 100%;" alt="ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 - Baania" width="" height="" title="ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 - Baania" class="" role=""> <h3>ฤกษ์ดีธันวาคมปี 2565</h3>การขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 ประจำเดือนธันวาคมนี้สามารถทำได้ตามวันดังต่อไปนี้<img src="https://cdn.baania.com/b21/article/20220323/content/l5lzt8hz-20220323132314.jpeg" style="width: 100%;" alt="ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 - Baania" width="" height="" title="ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 - Baania" class="" role=""> เพียงเท่านี้ทุกคนก็ได้ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ประจำปี 2565 และสามารถขึ้นบ้านใหม่ได้อย่างเป็นมงคลกับทุกคนในครอบครัวได้แล้ว อย่าลืมพิจารณาฤกษ์อย่างถูกต้อง พร้อมเลือกวันเวลาที่สะดวกและเหมาะสมกับทุกคนในบ้านด้วยนะ หรือถ้าหากใครอยากได้วันและเวลาขึ้นบ้านใหม่ปี 2565 อย่างละเอียดเพิ่มเติม สามารถเช็กดูด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ คลิกที่นี่

เสริมมงคลให้ชีวิตด้วยฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ประจำปี 2565

ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ปี 2565 ปีนี้วันไหนดี

พิธี

6 บทสวดมนต์ก่อนนอน สวดแล้วฝันดีชีวิตมีสุข

คาถาบูชา

ศาลหลักเมืองคืออะไร ทำไมต้องไหว้ศาลหลักเมือง คำถามนี้อาจจะเป็นคำถามที่อยู่ในใจของหลายๆ คน ซึ่งอาจจะยังไม่ทราบ หรือไม่เข้าใจในความสำคัญของศาลหลักเมือง แต่สำหรับคนที่มีความเข้าใจ ความเชื่อ ความศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ของศาลหลักเมืองย่อมไม่มีข้อสงสัย ในบทความนี้จะมาให้ฟังถึงความสำคัญของศาลหลักเมืองว่าทำไมถึงต้องมี และวิธีการไหว้ขอพรศาลหลักเมืองอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะศาลหลักเมืองในกรุงเทพ เรามี 5 ข้อควรรู้มาฝาก
<h2>1.ศาลหลักเมืองคืออะไร</h2>
ศาลหลักเมืองคือบริเวณ หรือสถานที่สักการะซึ่งตั้งขึ้นเพื่อสักการะ “เสาหลักเมือง” โดยความสำคัญของเสาหลักเมืองนั้นมีความเชื่อมาตั้งแต่ครั้งอดีตในสมัยสุโขทัย ซึ่งประเพณีการตั้งเสาหลักเมืองจัดได้ว่าเป็นพิธีพราหมณ์ โดยมีการจัดสร้างเสาหลักเมืองเพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นมิ่งขวัญ เป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คนในเมือง 
การสร้างเสาหลักเมืองเชื่อว่าจะทำให้บ้านเมืองนั้นมีความร่มเย็นเป็นสุข เพราะว่าเสาหลักเมือจะเป็นที่สถิตของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งปกป้องคุ้มครองเมืองนั้นๆ ซึ่งการตั้งเสาหลักเมืองในประเทศไทยนั้นมีการตั้งเสาหลักเมืองทุกจังหวัด ทำให้มีศาลหลักเมืองทุกจังหวัดเช่นกัน
<img src="https://cdn.baania.com/b20/article/source/1602961982852-ศาลหลักเมือง.jpg" alt="ศาลหลักเมือง" width="1020" height="765" />
<h2>2. เสาหลักเมืองกรุงเทพมหานครทำไมมี 2 ต้น</h2>
ตามปกติแล้วเสาหลักเมืองตามเมือง หรือตามจังหวัดต่างๆ จะมีเพียงต้นเดียว ซึ่งเสาหลักเมืองของกรุงเทพมหานครในตอนสร้างครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2325 ในสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ก็มีเพียงต้นเดียว
แต่เมื่อมาถึงรัชสมัยของสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้โปรดให้มีการซ่อมแซมเสาหลักเมืองเดิม และเพิ่มเสาหลักเมืองใหม่ลงไปอีก 1 ต้น เนื่องจากในรัชสมัยของพระองค์นั้นมีพระมาหากษัตริย์ปกครองแผ่นดิน 2 พระองค์ คือพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวอีก 1 พระองค์ เมื่อมีพระเจ้าแผ่นดิน 2 พระองค์ เสาหลักเมืองจึงต้องมี 2 ต้นเพื่อช่วยกันค้ำจุนแผ่นดินนั่นเอง
<img src="https://cdn.baania.com/b20/article/source/1602961955282-เสาหลักเมือง.jpg" alt="เสาหลักเมือง" width="1020" height="765" />
<h2>3. ศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ อยู่ที่ไหน</h2>
ศาลหลักเมืองของกรุงเทพมหานครนั้นตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ชั้นใน ใกล้เขตพระราชฐานในสมัยอดีต เนื่องจากมีความเชื่อว่าพื้นที่บริเวณนั้นเป็นพื้นที่มงคล และเป็นพื้นที่ใจกลางเมือง(ในสมัยนั้น) ซึ่งเมื่อมาถึงยุคปัจจุบันศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานครตั้งอยู่ที่ถนนมหาไชย ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของสนามหลวง ตรงข้ามพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 06.30 – 18.30 น.
<img src="https://cdn.baania.com/b20/article/source/1602962093647-ศาลหลักเมืองกรุงเทพ.jpg" alt="ศาลหลักเมืองกรุงเทพ" width="1020" height="765" />
<h2>4. การไหว้ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานครมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง</h2>
การไหว้ศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ นั้นสามารถไหว้ตามขั้นตอนให้ครบ หรือจะไหว้โดยไม่ครบขั้นตอนก็ได้ ขอเพียงแค่มีจิตใจที่เคารพ แต่ถ้ามีเวลา และต้องการทำให้ถูกต้องตามพิธีการไหว้ศาลหลักเมืองนั้นก็สามารถทำได้ ลองมาดูกันว่าขั้นตอนที่ถูกต้องในการไหว้ศาลหลักเมืองนั้นมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
<ul>
<li>สิ่งของที่ต้องเตรียม การไหว้ศาลหลักเมืองนั้นมีสิ่งของต่างๆ ที่ต้องเตรียมดังต่อไปนี้ ธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม ทองคำเปลว ดอกบัว 2 ดอก ผ้าแพร 3 สี / 5สี / 7 สี ตามแต่ความเหมาะสม พวงมาลัย 2 พวง</li>
<li>หอพระพุทธรูป ศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ นั้นจะมีสถานที่สักการะอยู่ 5 ที่ โดยสถานที่ซึ่งต้องไหว้เป็นอันดับแรกคือหอพระพุทธรูป เพราะตามความเชื่อในการกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของคนไทยจะเริ่มด้วยการไหว้พระเป็นอันดับแรกเสมอ เมื่อไหว้พระในหอพระพุทธรูปเรียบร้อยแล้ว ยังสามารถใส่บาตรพระประจำวันเกิดซึ่งถือว่าเป็นการสะเดาะเคราะห์ เสริมดวงชะตาอีกด้วย</li>
<li>องค์หลักเมืองจำลอง สถานที่สักการะแห่งที่สองที่ต้องไปไหว้คือองค์หลักเมืองจำลอง โดยให้จุดธูปเทียน กล่าวคำบูชาองค์พระหลักเมืองตามบทสวดดังต่อไปนี้ “ศรีโรเม เทพเทวานัง พระหลักเมืองเทวานัง พระภูมิเทวานัง ทีปธูปจะบุปผัง สักการะวันทนัง สูปพยัญชนะ สัมปันนัง สารีนัง อุททะกัง วะรัง เตปิตุมเห อานุรักษ์ขันตุ อาโรขเยนะ สุเขนะจะ” เมื่อกล่าวคำบูชาเสร็จให้ทำการขอพร จากนั้นก็ปิดทอง และผูกผ้าแพรที่เสาหลักเมืองจำลองหลักใดหลักหนึ่ง</li>
<li>องค์หลักเมืองจริง เมื่อไหว้องค์หลักเมืองจำลองเรียบร้อยแล้ว ก็ให้มาไหว้องค์หลักเมืองจริงต่อ โดยให้กล่าวคำบูชาองค์หลักเมืองด้วยบทเดียวกันกับที่กล่าวบูชาองค์หลักเมืองจำลอง เมื่อกล่าวจบแล้วให้ขอพร และถวายพวงมาลัยแก่องค์หลักเมือง</li>
<li>หอเทพารักษ์ทั้ง 5 หอเทพารักษ์ทั้ง 5 นั้นคือที่สถิตของเทพารักษ์ที่ปกป้องบ้านเมือง ซึ่งเทพารักษ์ที่สถิตอยู่ในหอนี้ประกอบด้วย พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง เจ้าเจตคุปต์ พระกาฬไชยศรี เจ้าหอกลอง ซึ่งเทพารักษ์ทั้ง 5 จะช่วยปกป้องทั้งในด้านการเมือง การปกครอง ปกป้องบ้านเมืองจากศัตรูต่างๆ ปกป้องบ้านเมืองจากเหตุเภทภัยอันตราย และช่วยให้บ้านเมืองมีความสงบร่มเย็น</li>
<li>เติมน้ำมันตะเกียง การเติมน้ำมันตะเกียงนั้นถือว่าเป็นขั้นตอนการสุดท้ายในการไหว้ศาลหลักเมืองให้ครบทั้ง 5 ขั้นตอน โดยการเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิดนั้นให้เติมเกินครึ่งขวดเนื่องจากมีความเชื่อว่าจะช่วยให้ชีวิตสว่างไสว มีความเจริญรุ่งเรือง ส่วนน้ำมันที่เหลือให้นำไปเติมในตะเกียงสะเดาะเคราะห์เพื่อให้สิ่งเลวร้ายออกไป เกิดแต่ความโชคดีในชีวิต</li>
</ul>
<img src="https://cdn.baania.com/b20/article/source/1602962223672-การไหว้ศาลหลักเมือง.jpg" alt="การไหว้ศาลหลักเมือง" width="1020" height="765" />
<h2>5. ข้อดีของการไหว้ศาลหลักเมือง</h2>
การสักการะสิ่งศักดิ์สำคัญประจำเมืองอย่างเช่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ภายในบริเวณศาลหลักเมือง และสักการะเสาหลักเมืองนั้นถ้าเป็นผู้ที่มีความเคารพ และศรัทธาแล้วนั้นจะส่งผลดีต่างๆ ให้กับชีวิตอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความมั่นคงในชีวิต ความมั่นคงในหน้าที่การงาน ความเป็นสิริมงคลในชีวิต ที่สำคัญคือเป็นการสร้างกำลังใจให้แก่ตัวผู้ไหว้ ทำให้มีพลังในการเผชิญอุปสรรคต่างๆ อย่างมีสติ 
การไหว้ศาลหลักเมืองในที่ต่างๆ รวมไปถึงการไหว้ศาลหลักเมืองในกรุงเทพมหานครนั้นอาจจะมีขั้นตอนที่แตกต่างกันไปบ้าง ดังนั้นก่อนไหว้จึงควรสอบถามผุ้ดูสถานที่ถึงวิธีการไหว้ที่ถูกต้อง แต่สำหรับการไหว้ศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ นั้นในบทความนี้แนะนำถึงขั้นตอนต่างๆ เพื่อที่จะได้ไหว้อย่างถูกต้อง รวมไปถึงประวัติความเป็นมา และความสำคัญของศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ ไว้ให้อย่างครบถ้วนแล้ว 
<img src="https://cdn.baania.com/b20/article/source/1602962791944-ข้อดี.jpg" alt="ข้อดี" width="1020" height="765" />
ที่มาภาพประกอบ:
<a href="https://www.horolive.com/561.html" rel="nofollow">www.horolive.com</a>
<a href="https://sites.google.com/site/thanyapisit570110230thanya/wad-na-theiyw-rxb-keaa-ratnkosinthr/salhlakmeuxng-krungtheph" rel="nofollow">www.sites.google.com</a>
<a href="https://www.edtguide.com/travel/284722/city-pillar-bangkok-shrine" rel="nofollow">www.edtguide.com</a>

Guest

สิริมงคล