11 วิธีการจัดตู้เสื้อผ้าให้ได้ที่ว่างเพิ่ม
เชื่อว่าหลายท่านมีประสบการณ์ ตู้เสื้อผ้าอัดแน่นไปด้วยสารพัดนานาเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัว พอรู้ตัวอีกทีก็ไม่มีที่จะเก็บแล้ว ฉะนั้นการ จัดตู้เสื้อผ้า ทำให้ดูเป็นระเบียบและเป็นการเพิ่มพื้นที่ว่างในตู้ โดยไม่ต้องซื้อตู้เสื้อผ้าใหม่ และการจัดตู้นั้นก็มีหลากหลายวิธี ที่เป็นประโยชน์ในการเพิ่มพื้นที่ซึ่งท่านสามารถทำได้ด้วยตนเอง ดังนั้นวันนี้เราจะมารู้จักกับประเภทของตู้เสื้อผ้าชนิดต่างๆ และ การจัดตู้เสื้อผ้า รวมทั้งวิธีดูแลตู้เสื้อผ้าด้วย
ประเภทของตู้เสื้อผ้า
ก่อนไปดูวิธีการจัดเก็บตู้เสื้อผ้า ลองมาทำความรู้จักประเภทของตู้เสื้อผ้ากันก่อน โดยหลักแล้วมักแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ดังต่อไปนี้
1. ตู้เสื้อผ้าบิวท์อิน (Built-in)
สำหรับตู้เสื้อผ้าประเภทนี้นั้น ผู้ใช้งานสามารถออกแบบการใช้งานได้ตามต้องการ เป็นประเภทที่ฝังอยู่ติดกับผนังไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ข้อดีคือ สามารถออกแบบเพื่อจัดเก็บเครื่องแต่งกายได้หลากหลายกว่า ดังนั้นจึงสามารถใช้สอยทุกพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า ตู้เสื้อผ้าบิวท์อินมีความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งาน และมักจะมีบริการหลังการขายจากบริษัทที่เลือกใช้บริการ
2. ตู้เสื้อผ้าสำเร็จรูป
สำหรับตู้เสื้อผ้าประเภทนี้ ข้อดีคือ สามารถหาซื้อได้ง่ายแถมมีหลากหลายดีไซน์ให้เลือกตามความชอบ มีความสวยงามและเป็นประโยชน์ต่อการใช้งาน สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างอิสระ แต่ข้อเสียคือ มีข้อจำกัดบางอย่างในด้านการออกแบบ ซึ่งอาจจะไม่ตรงใจทั้งหมดเหมือนอย่างตู้เสื้อผ้าติดตั้งบิวท์อิน
11 วิธีการจัดตู้เสื้อผ้า
เพื่อให้ตู้เสื้อผ้าดูดีเป็นระเบียบ ควรมีการจัดเก็บอยู่เสมอ ซึ่งวิธีที่นำเสนอในวันนี้ นอกจากสร้างความเรียบร้อยแล้ว ยังเป็นการเพิ่มพื้นที่การใช้งานให้มากขึ้น ไม่ต้องซื้อตู้ใหม่ให้สิ้นเปลืองอีกด้วย กับ 11 วิธีการจัดตู้เสื้อผ้าด้วยตนเอง ดังนี้
1. ติดราวแขวนผนังตู้
ใช้พื้นที่ผนังตู้ให้เป็นประโยชน์ ด้วยการติดตั้งราวแขวนเอาไว้สำหรับแขนผ้าพันคอ หรือแขนชุดเพื่อเตรียมไว้ใส่ในวันถัดไปก็ได้เช่นกัน ซึ่งจะทำให้ตู้เสื้อผ้าดูมีระเบียบมากยิ่งขึ้น จะหยิบจับใช้งานก็ง่ายโดยที่ไม่ต้องเสียเวลาไปคุ้ยในกอง
2. เก็บรองเท้าให้เป็นระเบียบ ราวแขวนประตูช่วยได้
บางท่านนิยมเก็บรองเท้าไว้ในตู้เสื้อผ้า แต่ยิ่งนานวันเข้า รองเท้าก็ยิ่งเยอะขึ้นจนไม่มีพื้นที่จะเก็บ สามารถแก้ไขง่ายๆ ด้วยการติดตั้งราวแขวนไว้ที่ประตู เพื่อใช้แขวนรองเท้าส้นสูง นอกจากดูสวยงามแล้วยังไม่ทำให้เกะกะสายตาอีกด้วย
3. ปิดความรก ด้วยม่านกั้นบังสายตา
สำหรับตู้เสื้อผ้าประเภทบิวท์อิน หากไม่อยากให้ตู้ดูรก แนะนำให้ติดม่านกั้น เพื่ออำพรางพื้นที่ส่วนอื่นกับตู้เสื้อผ้า ซึ่งจะทำให้ดูสะอาดตา แลเป็นระเบียบแถมไม่กินพื้นที่ในตู้อีกด้วย
4. ใช้ที่กั้นแบ่งสัดส่วน
สำหรับตู้เสื้อผ้าที่เปิดกว้าง มองเห็นเครื่องแต่งกายในตู้ได้อย่างชัดเจน แนะนำให้ใช้ที่กั้นเพื่อให้ตู้เสื้อผ้าดูเป็นสัดเป็นส่วน ไม่ปนกันมั่วไปหมด สามารถใช้แผ่นพลาสติกหรือส่วนกั้น ที่ขายตามร้านอุปกรณ์ตกแต่งมาใช้งาน เพื่อแยกประเภทเสื้อผ้าและเครื่องประดับให้เป็นหมวดหมู่ อีกทั้งยังสะดวกต่อการหยิบมาใช้งานด้วย
5. ปรับวิธีการจัดเก็บ
สำหรับเสื้อผ้าที่มีความหนาอย่างเสื้อกันหนาวหรือเสื้อโค้ท หลายท่านนิยมนำมาแขวนไว้ในซอกตู้ เพราะไม่ค่อยได้ใช้งาน แต่การแขวนเสื้อหนาๆ นั้นเป็นการสิ้นเปลืองพื้นที่มากทีเดียว ลองเปลี่ยนมาม้วนเก็บไว้ในถุงใส่รองเท้า แล้วจัดเก็บเข้าลิ้นชัก เท่านี้ท่านก็จะมีพื้นที่ในการแขวนเสื้อผ้ามากขึ้น
6. เปลี่ยนการพับกระเป๋า มาใช้วิธีแขวน
กระเป๋าเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ควรพับเพราะจะทำให้เสียรูปทรง แต่จะแขวนรวมกันในราวก็ดูเหมือนสิ้นเปลืองพื้นที่เกินไป วิธีแก้ไขคือให้ใช้ตะขอตัว S นำมาติดตั้งที่ราวผนังตู้ เพื่อใช้แขวนกระเป๋าโดยเฉพาะ นอกจากทำให้เป็นระเบียบแล้วยังง่ายต่อการหยิบมาใช้ด้วย
7. เคลียร์เครื่องแต่งกายที่ไม่ใช้แล้ว
การเคลียร์เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่ไม่ใช้แล้ว เป็นการเพิ่มพื้นที่ในตู้เสื้อผ้าได้มากทีเดียว ในวันว่างๆ ลองใช้เวลาจัดการกับเสื้อผ้าไม่ใช้แล้วไปบริจาคบ้าง นอกจากได้บุญยังได้เคลียร์พื้นที่ในตู้เสื้อผ้าอีกด้วย
8. เรียงลำดับความสำคัญการใช้งาน
สำหรับท่านที่มีเสื้อผ้าเครื่องประดับเยอะ ลองบริหารจัดเก็บใหม่ โดยเริ่มจากการเรียงความสำคัญของเสื้อผ้าที่ใช้งานก่อน คัดแยกสิ่งที่ใช้งานบ่อยๆ ออกมากองไว้ แล้วจัดเก็บส่วนที่ไม่ค่อยได้ใช้งานไว้ข้างในตู้ จากนั้นค่อยจัดเรียงเสื้อผ้า เครื่องประดับที่ใช้งานบ่อยไว้ข้างนอก เท่านี้ก็จะดูเป็นระเบียบและไม่ต้องรื้อค้นให้เสียเวลา
9. แยกโซนเครื่องแต่งกาย
การแยกประเภทและการจัดโซนเสื้อผ้า เครื่องประดับ รวมถึงกระเป๋า รองเท้า ให้เป็นระเบียบ ก็เป็นการเพิ่มพื้นที่ในตู้เสื้อผ้าได้เช่นกัน อีกทั้งยังสะดวกต่อการหยิบจับนำขึ้นมาใช้งานอีกด้วย
10. เรียงรองเท้าสลับด้าน
รองเท้าในตู้เสื้อผ้าถือเป็นอีกปัญหาใหญ่ในการจัดเก็บ เพราะด้วยรูปทรงของรองเท้ที่เวลาเรียงซ้อนกัน จะเกิดการเอียงไปเอียงมา ทำให้จัดเข้าที่ได้ยาก วิธีแก้ไขคือให้วางรองเท้าสลับหัว - ท้าย เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้รองเท้าดูเป็นระเบียบมากขึ้น
11. ดัดแปลงอุปกรณ์เครื่องเขียนมาใช้งาน
อุปกรณ์เครื่องเขียนอย่างเช่น กล่องเล็กๆ ที่ใส่ปากกานั้น สามารถนำมาใช้เก็บเครื่องประดับและกระเป๋าใบเล็กได้ ลองไปหากล่องเครื่องเขียนเล็กๆ ที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว มาวางเรียงลงบนพื้นที่ของตู้เสื้อผ้า เพื่อเก็บเครื่องประดับให้เป็นระเบียบ เท่านี้ก็เป็นการเพิ่มพื้นที่ในตู้ได้อีกเยอะ
วิธีการดูแลรักษาตู้เสื้อผ้า
ตู้เสื้อผ้า นอกจากเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นแล้ว ยังเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่เสริมให้ห้องดูดีอีกด้วย ฉะนั้นจึงต้องหมั่นดูแลรักษาเป็นประจำเพื่อความสวยงาม ช่วยลดกลิ่นอับหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ในตู้เสื้อผ้าด้วย
1. หมั่นดูแลตู้เสื้อผ้าไม่ให้อับชื้น
หากตู้เสื้อผ้าอับจะทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นและไม่น่าใช้งาน เผลอๆ อาจจะทำให้ขึ้นราได้ด้วย โดยเฉพาะตู้เสื้อผ้าที่ทำจากวัสดุไม้ จึงควรหมั่นตรวจตราอยู่เสมอ อย่าให้ตู้เสื้อผ้าโดนน้ำเพราะจะทำให้ไม้บวมตัวได้
2. ปัดฝุ่นอยู่เสมอ
การทำความสะอาดตู้เสื้อผ้านั้น ควรใช้วิธีการปัดฝุ่น และหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าเปียกเพราะจะสร้างความอับชื้นได้ ฉะนั้นใช้ไม้ปัดหรือเช็ดด้วยผ้าแห้งอยู่เป็นประจำก็เพียงพอแล้ว
3. ใช้ยาเคลือบป้องกันปลวกสำหรับตู้เสื้อผ้าไม้
ตู้เสื้อผ้าที่ใช้ทำจากวัสดุไม้นั้น ปัญหาหลักคือ เมื่อใช้งานไปนานๆ อาจถูกปลวกรุกราน ควรใช้ยาเคลือบเพื่อป้องกันปลวกกัดกินเนื้อไม้ และต้องดูแลเป็นพิเศษเพื่อการใช้งานตู้เสื้อผ้าให้ยาวนาน
สำหรับการ จัดตู้เสื้อผ้า เพื่อเพิ่มพื้นที่นั้นทำได้ไม่ยากเลย แต่ทั้งนี้ควรมีระเบียบวินัยในการหยิบใช้สิ่งของในตู้ด้วย เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงาม และจะได้ไม่ต้องนำเสื้อผ้าหรือรื้อสิ่งของในตู้ออกมาจัดเรียงใหม่บ่อย ๆ