เมกะโปรเจ็กต์รัฐ-เอกชนบูมทำเลสาทร-ธนบุรี

'ภัทรนันท์ แอสเซท' เผยโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง และ ไอคอน สยาม พลิกทำเลฝั่งธนบุรี สู่เมืองแนวสูง เตรียมเปิด  ไฮป์ คอนโด เจาะคนรุ่นใหม่

นายพรชัย กฤษฎาวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภัทรนันท์ แอสเซท จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพมหานครมานานกว่า 30 ปี เปิดเผยว่า จากประสบการณ์การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มาหลายโครงการและทราบถึงพฤติกรรมความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละกลุ่ม ทั้งจากการศึกษาโอกาสการเติบโตของตลาดและศักยภาพทำเลของสาทร-ธนบุรี พบว่าทำเลย่านนี้มีการเปลี่ยนแปลงจากที่อยู่อาศัยแนวราบสู่ที่อยู่อาศัยแนวสูงอย่างมีนัยยะสำคัญ และทิศทางจะกลายเป็นสังคมแนวสูงอย่างเต็มตัว

โดยเฉพาะพื้นที่ธนบุรี บริเวณสะพานสาทร-เจริญนคร-คลองสาน ที่มีโครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้น อาทิ ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ โรงแรมระดับหกดาว ในโครงการไอคอน สยาม และโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง ซึ่งมีเส้นทางที่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรีรวมถึงเส้นทางเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ และสายสีแดง ที่ได้เริ่มก่อสร้างแล้วในปีนี้ ขณะเดียวกันกับพฤติกรรมผู้อยู่ในทำเลย่านนี้เริ่มปรับเปลี่ยนสู่สังคมคนรุ่นใหม่และมีการปรับรูปแบบวิถีชีวิตแบบคนเมืองอย่างชัดเจน 

จากความสะดวกด้านคมนาคมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จึงคาดว่าพื้นที่ในย่านธนบุรี บริเวณสะพานสาทร-เจริญนคร-คลองสาน จะเป็นพื้นที่ที่กลุ่มคนรุ่นใหม่มองหาที่อยู่อาศัยในทำเลใกล้ศูนย์กลางธุรกิจ การขยายตัวของดีมานด์จะลดความแออัดของย่านศูนย์กลางเศรษฐกิจย่านสาทร สีลม รวมถึงเขตเจริญกรุง ฯลฯ และด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการคือสาทร-ธนบุรี ก็น่าจะตอบโจทย์ด้วยทำเลและราคาที่เอื้อมถึงนั่นเอง

นางสาวศราริน เรืองปัญญาวุฒิ กรรมการบริหาร บริษัท ภัทรนันท์ แอสเซท จำกัด กล่าวว่า ด้วยพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยที่เปลี่ยนแปลงสู่สังคมคนรุ่นใหม่ บริษัทจึงปรับกลยุทธ์ธุรกิจและขยายกลุ่มตลาดสู่กลุ่มผู้บริโภคคนรุ่นใหม่วัย Millennialโดยเปิดขายโครงการไฮป์ (HYPE) สาทร-ธนบุรี คอนโดมิเนียมขนาด 8 ชั้น มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ถือเป็นคอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชีวิตคนรุ่นใหม่ ที่มีความกระฉับกระเฉงรวดเร็ว เพราะใกล้รถไฟฟ้าสถานีกรุงธนบุรี เพียง600 เมตร ทั้งยังใกล้รถไฟฟ้าสายสีทองและ ดิ ไอคอนสยามศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าเจริญนครให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น

สำหรับโครงการ ไฮป์ (HYPE) สาทร-ธนบุรี เป็นคอนโดมิเนียมขนาด 8 ชั้น บนพื้นที่ 7 ไร่ จำนวน 5 อาคาร รวม 914 ยูนิต แบ่งเป็นอาคาร A จำนวน 158 ยูนิต อาคาร B จำนวน 161 ยูนิต อาคาร C จำนวน 160 ยูนิต อาคาร D จำนวน 224 ยูนิต และอาคาร E จำนวน 211 ยูนิต มีขนาดห้องเริ่มตั้งแต่  Studio พื้นที่ 25.2 ตารางเมตร ขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่ 29-43 ตารางเมตร และขนาด 2 ห้องนอน พื้นที่ 45-51.36 ตารางเมตร เตรียมเปิดจองระหว่างวันที่ 1-2 กันยายน 2561 ในราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท