“CleanCUBE” Smart bin ถังขยะที่ไม่ใช่แค่ที่ทิ้งขยะ
ปัญหาขยะล้นเมืองน่าจะเป็นปัญหาที่บ้านเราพยายามแก้ไขกันมานานแต่ก็ไม่สามารถทำได้ดีเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวที่เรามักเห็นภาพขยะล้นถังแล้วไม่มีใครมาเก็บ ทำให้เกิดภาพที่ไม่น่ามอง ส่งผลเสียให้กับภาพลักษณ์ของเมืองโดยรวม ซึ่งปัญหาเหล่านี้ที่เมืองนอกเองก็ได้มีการคิดค้น “ถังขยะอัจฉริยะ” (Smart Bin) และ “ระบบจัดการขยะ” (Smart Waste Management Solution) ขึ้นมาทดแทนการเก็บขยะแบบเดิมๆ Baania ขอนำทุกท่านไปรู้จักกับเทคโนโลยีนี้ มาดูกันว่าที่เมืองนอกเขาแก้ไขปัญหาเหล่านี้กันอย่างไรนะครับ
Ecube Labs ได้ออกแบบและพัฒนาถังขยะอัจฉริยะขึ้นมาในชื่อ “CleanCUBE” มันเป็นถังขยะที่นำเอาระบบเทคโนโลยีต่างๆมาใช้ โดยมันสามารถเก็บปริมาณขยะได้มากกว่าถังขยะทั่วไปและสามารถเก็บข้อมูลส่งกลับไปยังระบบจัดการขยะของเมือง ทำให้ลดพลังงานที่เกิดขึ้นในกระบวนการเก็บขยะได้ค่อนข้างมาก ทั้งยังใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการทำงานทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายและผลิตจากวัสดุที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม
ถังขยะ "CleanCUBE"
ใช้พลังงานจากแผงโซล่าเซลล์ที่ติดตั้งไว้ด้านบนของถังและเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ไปเป็นพลังงานไฟฟ้าบรรจุไว้ในแบตเตอรี่ภายในถัง ซึ่งโดยเฉลี่ยใช้เวลาชาร์จพลังงานไฟฟ้าจนเต็มจะใช้เวลา 2-3 วัน ในที่มีแสงแดดเพียง 4 ชั่วโมงต่อวัน แบตเตอรี่ที่บรรจุเต็มแล้วสามารถใช้งานได้มากกว่า 4 อาทิตย์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับส่วนเสริมที่เติมเข้ามาด้วย เช่น ป้ายไฟหรือส่วนปล่อยกระจายไวไฟ ที่ต้องใช้ไฟจากแบตเตอรี่ทำให้ไฟฟ้าหมดเร็วขึ้น
อย่างไรก็ตามหากเป็นถังขยะที่ตั้งอยู่ภายในอาคารที่ไม่มีแสงแดดส่องถึง ยังสามารถเลือกเป็นถังขยะที่ใช้พลังงานจากการเสียบปลั๊กตามปกติแทน (AC Plug-in) หรือจะเลือกใช้ระบบไฮบริดจ์ (Hybrid) ที่มีทั้งการเลือกใช้พลังงานจากแผงโซล่าเซลล์หรือการเสียบปลั๊กก็ได้ ทำให้ถังขยะ CleanCUBE สามารถนำไปวางได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร เหมาะสำหรับการนำไปตั้งไว้ในสถานที่ที่มีการทิ้งขยะค่อนข้างมากอย่างเมืองใหญ่หรือเมืองท่องเที่ยว มหาวิทยาลัย สวนสาธารณะ ห้างสรรพสินค้า สถานที่ท่องเที่ยว สนามกีฬา
จุดเด่นของถังขยะ CleanCUBE อยู่ที่ระบบ Smart Compaction Module ตัวบดอัดขยะเมื่อภายในถังมีขยะถึงระดับที่ตั้งไว้ ซึ่งการบดอัดขยะนี้ทำให้ถังขยะสามารถบรรจุขยะได้มากกว่า 5-8 เท่าของถังขยะทั่วไป ทำให้ไม่ต้องเสียเวลามาเก็บขยะบ่อยๆ ภายนอกเครื่องยังมีหน้าจอ LED Indicators ที่บอกสถานะปริมาณขยะและตัวส่งสัญญาณข้อมูลการทิ้งขยะกลับไปยังเครือข่ายที่ใช้เก็บข้อมูลถังขยะแต่ละถัง นอกจากนี้ถังขยะยังมีระบบ Safety Sensors ที่เครื่องจะหยุดทำการบดขยะเมื่อมีคนยื่นมือเข้ามาทิ้งขยะ และระบบ Fire Alarm Alert ที่ช่วยแจ้งไฟไหม้ในถังขยะและสามารถดับไฟด้วยตัวเองโดยใช้การบดอัดขยะให้ไฟดับ
ถังขยะ CleanCUBE ซึ่งสามารถเปิดฝาและใส่ถังขยะขนาดมาตรฐานที่มีล้อเข็นใส่ไว้ได้เลย ทำให้สะดวกเวลาขนไปทิ้งกับรถเก็บได้ง่ายขึ้น โดยออกแบบมาให้มีถึง 3 ขนาดได้แก่
1. ขนาด 100L / 28 gal. มีขนาด 610x610x1,167 มิลลิเมตร ที่มาพร้อมกับถังขยะภายในตัว
2. ขนาด 120L / 32 gal. มีขนาด 624x762x1,440 มิลลิเมตร
3. 240L / 64 gal. มีขนาด 740x840x1,536 มิลลิเมตร
ด้านบนของถังขยะมาพร้อมกับแผงใสกันกระแทกทรงโค้งที่ทำจาก Polycarbonate ช่วยป้องกันการวางขยะไว้บนถังและป้องกันแผงโซล่าเซลล์หากมีอะไรตกใส่หรือมีคนมาทุบ สำหรับส่วนช่องใส่ขยะยังสามารถเลือกได้ตามลักษณะการใช้งาน โดยมีให้เลือก 3 แบบ ดังนี้
1. แบบ Hopper & Foot Pedal ที่มีฝาปิดและมีที่เหยียบให้ฝาเปิด ทำให้ไม่ต้องใช้มือ
2. แบบ General ที่มีช่องเปิดใส่ขยะช่องเดียวแต่มีรูใหญ่
3. แบบ Recycling ที่แบ่งเป็นรูใส่ขยะ 2 รู เพื่อแยกขยะทั่วไปและขยะรีไซเคิล
นอกจากนี้ถังขยะ CleanCUBE ยังเตรียมส่วนเสริมพิเศษอีกมากมายที่ลูกค้าสามารถนำไปปรับใช้ได้ อาทิ พื้นที่โฆษณาสำหรับห่อด้วยกราฟิกรอบถังขยะ ป้ายไฟสำหรับใส่โฆษณาที่สว่างได้เองตอนกลางคืน จุดเชื่อมต่อไวไฟ ลำโพงสปีกเกอร์สำหรับให้เปิดเพลงหรือโฆษณา ที่เขี่ยบุหรี่ และ ระบบล็อคติดกับพื้นที่และยึดติดกับถังขยะอื่นๆ เป็นต้น เรียกได้ว่านอกจากเป็นถังขยะแล้ว ยังสามารถทำอะไรได้อีกมากมายเลยทีเดียว
อนึ่งทางบริษัทยังมีผลิตภัณฑ์อีกชิ้นที่น่าสนใจคือ CleanFLEX เป็นเครื่องเซ็นเซอร์ที่ใช้ตรวจระดับของขยะที่อยู่ในถังว่าปริมาณเท่าไหร่ และส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ไปยังระบบ CleanCityNetworks เครือข่ายที่คอยเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลการทิ้งขยะของเมือง เพื่อตรวจสอบว่าเมื่อไหร่ควรจะเก็บขยะ โดยเครื่องนี้สามารถนำไปติดตั้งไว้กับถังขยะได้หลายชนิดตั้งแต่ถังขยะตามข้างทางทั่วไป ถังเก็บขยะขนาดใหญ่ รวมไปถึงถังน้ำเสียใต้ดิน ทำให้ไม่ต้องเสียเงินเพื่อเปลี่ยนเป็นถังขยะใหม่ทั้งหมด
ส่วนระบบ CleanCityNetworks ที่ได้กล่าวถึงไปข้างต้นนั้นเป็นโปรแกรมระบบจัดการขยะที่คอยเก็บข้อมูลและวิเคราะห์แสดงผลออกมาเป็นตารางที่เข้าใจง่าย เชื่อมต่อกับถังขยะ CleanCUBE และ ถังขยะที่ติดตั้ง CleanFLEX ที่สามารถดูข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้เลยว่าถังขยะใดมีปริมาณขยะมากน้อยแต่ไหน ทำให้ทราบว่าควรจะออกไปเก็บขยะในเวลาใดและควรออกไปตามในเส้นทางไหนที่จะเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เป็นการลดการใช้พลังงานจากรถขนขยะแบบเดิมๆ ที่ต้องออกไปเก็บขยะทุกวันและไม่ต้องใช้รถเก็บขยะครบทุกคัน เป็นการช่วยลดควันจากท่อไอเสีย ลดเสียงรบกวนและช่วยแก้ไขปัญหาการจราจร
เป็นยังไงกันบ้างครับ สำหรับถังขยะอัจฉริยะและระบบจัดการเก็บขยะที่ถ้ามีการนำมาใช้จริงน่าจะช่วยทำให้พนักงานเก็บขยะทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้น และช่วยลดพลังงานที่เกิดจากการออกไปเก็บขยะบ่อยๆได้จริงๆ ก็ได้แต่หวังว่าจะมีใครนำเข้าเทคโนโลยีนี้มาปรับใช้กับบ้านของเราบ้างนะครับ เหนือสิ่งอื่นใดคือผู้ทิ้งขยะอย่างเราๆ ก็ควรช่วยกันลดการสร้างขยะด้วยนะ ไม่งั้นจะเก็บขยะยังไงก็ไม่มีทางมีที่ทิ้งพอหรอกครับ
ที่มาและภาพประกอบ: