Baania
Baania
จังหวัด
ประเภทประกาศ
ประเภทอสังหาริมทรัพย์
ราคา

'แคปปิตอล วัน' รุกธุรกิจเอเยนต์เจาะตลาดคอนโดสุขุมวิท

x
คลิกที่นี่ เพื่อฟังบทความ

แคปปิตอล วัน' รุกธุรกิจเอเยนต์อสังหาฯ เจาะตลาดคอนโดสุขุมวิท ตั้งเป้า 3 ปี สยายปีกคุมตลาดเอเชีย 5 ปี ลุยตลาดอินเตอร์

นายวิทย์ กุลธนวิภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท แคปปิตอล วัน เรียลเอสเตท  บริษัทที่ปรึกษาทางด้านอสังหาริมทรัพย์และบริหารการตลาดคอนโดมิเนียมในโซนสุขุมวิท  เปิดเผยแผนการดำเนินธุรกิจเอเยนต์อสังหาริมทรัพย์ว่า บริษัทได้กำหนดแผนออกเป็นระยะ 3 ปีแรก จะเป็นผู้นำในด้านยอดขายครอบคลุมภูมิภาคเอเชียให้มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท และภายใน 5 ปี จะให้ก้าวไปสู่การเป็นเอเยนต์ในระดับนานาชาติที่ให้บริการไปถึงตลาดในสหรัฐอเมริกาและในกลุ่มประเทศยุโรป 

โดยก้าวสำคัญของการผลักดันธุรกิจในไทย ทางบริษัทจะเปิดตัวพันธมิตรทางธุรกิจจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญในธุรกิจเอเยนต์มานานเพื่อร่วมกันจัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาขยายการให้บริการกับโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี คาดว่าภายในปี 2562 จะสามารถประกาศความร่วมดังกล่าวได้  

"ก่อนที่จะทำธุรกิจเอเยนต์ในไทยได้เคยทำงานเป็นเอเยนต์ในสหรัฐมาก่อน และจากประสบการณ์กว่า 10 ปี มองว่า ธุรกิจเรียลเอสเตท เอเยนต์ในไทยน่าสนใจ โดยเริ่มเข้ามาบริหารโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ที่ซอยอารี และต่อเนื่องมาอีกหลายโครงการ รวมถึงโครงการแนวสูงที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จนมาเจอวิกฤตการเมือง และสามารถปรับตัวได้ ทำให้เรารู้ว่าเราต้องรู้จักเตรียมพร้อมรองรับธุรกิจ และคิดว่าปัจจุบันคนไทยปรับตัวเคยชินกับวิกฤตทางการเมืองแล้ว แต่สิ่งที่น่ากังวล คือ เรื่องอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น จะตัดกำลังซื้อของลูกค้าทำให้ตลาดชะลอลงด้วย"
สำหรับแผนในปี 2561 บริษัทจะไม่เน้นการเพิ่มจำนวนโครงการที่รับบริหาร แต่จะให้ความสำคัญกับการขายมากกว่า โดยปัจจุบันพอร์ตที่รับผิดชอบมีประมาณ 14 โครงการ มูลค่าการขาย 8,000-9,000 ล้านบาท  ราคาที่ทำตลาด 3-12 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยของสินค้า 3-8 ล้านบาท สัดส่วน 80% จะเป็นโครงการในโซนสุขุมวิท ฐานลูกค้าระดับ B ถึง A  ผลงานในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-กันยายน 2561) สามารถสร้างยอดขายมูลค่า 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นลูกค้าคนไทยประมาณ 2,000 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีฐานลูกค้า 30,000-40,000 ราย 

ขณะที่ยอดขายอีก 1,000 ล้านบาท เป็นลูกค้าต่างประเทศ มีทั้งมาจากประเทศจีน ฮ่องกง และสิงคโปร์ โดยมีบริษัทในเครือ ได้แก่  CAPITAL ONE International Co., Ltd ดูแลตลาดต่างประเทศ บริษัท CAPITAL ONE Hong Kong Lmited-Hong Kong ทำตลาดครอบคลุมลูกค้าชาวจีน มีฐานลูกค้าประมาณ 10,000 ราย และบริษัทยังมีระบบฐานข้อมูล(ดาต้าเบส) ลูกค้าในภูมิภาคเอเชียอีกกว่า 100,000 ราย 

"ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีอัตราเติบโตระดับ 20% แต่จริงๆ แล้ว ที่ผ่านมาบริษัทจะมียอดขายเกิน 50% ทุกปี เนื่องมาจากการที่ลูกค้าบอกต่อ และจากการมุ่งมั่นพัฒนาระบบฐานข้อมูลอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการรักษาและควบคุมไม่ให้บริษัทโตก้าวกระโดด เพื่อจะได้สามารถดูแลลูกค้าให้ทั่วถึง ทำธุรกิจได้ยาว ซึ่งในมุมมองแล้ว ธุรกิจโบรกเกอร์ในปัจจุบันต้องปรับตัวให้มากให้เข้ากับสถานการณ์ โดยการยุทธศาสตร์ในการทำธุรกิจ มีบริการหลังการขายที่ดี มีพนักงานที่ดี มีฐานะข้อมูลที่ดี และต้องเป็นข้อมูลที่เป็นจริง โดยสภาพตลาดที่เป็นอยู่ขณะนี้มีข้อดีตรงที่มีคู่แข่งน้อย และมีโอกาสที่จะก้าวสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญได้"

นอกจากนี้ แคปปิตอล วัน ได้เตรียมขยายไลน์การบริการไปยังโครงการแนวราบ เพื่อเป็นขยายฐานลูกค้าให้กว้างมากขึ้น จากการเปิดโครงการของผู้ประกอบการจำนวนมาก ทั้งสินค้าประเภททาวน์เฮาส์ ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ โดยจะเข้าไปบริหารจับกลุ่มลูกค้าเกรด A ราคา 5-20 ล้านบาท. ซึ่งมีแนวโน้มเติบโต และมีกำลังซื้อที่สูง

นายวิทย์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันราคาที่ดินในสุขุมวิทปรับขึ้นเยอะมาก เนื่องจากผู้ขายเป็นควบคุมราคา ส่งผลให้เกิดการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ขายราคาต่อตารางเมตร(ตร.ม.)ในกลุ่มตลาดที่สูงกว่า 2.5 แสนบาทขึ้นไป แต่จำนวนผู้ซื้อมีจำกัดและเป็นกลุ่มที่เฉพาะมาก ซึ่งจะเห็นได้ว่าในซอยทองหล่อ จะมีโครงการทำตลาดระดับราคาดังกล่าวเป็นจำนวนมาก แต่หากเกิดปัญหาก็ยังไม่กระทบต่อตลาดมาก เนื่องจากขนาดของกลุ่มโครงการที่ออกมาไม่มาก เมื่อเทียบกับโครงการที่ทำสินค้าระดับลักชัวรี ราคา 3.5 แสนบาทต่อตร.ม.ซึ่งตรงนี้น่าเป็นห่วง และจะเห็นภาพที่ชัดเจนในปี 2562  
นอกจากนี้ ตลาดคอนโดมิเนียมมีการพัฒนาออกไปสู่รอบนอกชานเมืองมากขึ้น ตามการขยายตัวของเมือง แต่กลับพบว่า โครงการที่มีราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาทต่อยูนิต ออกมาค่อนข้างมาก อย่างเช่น โซนสุขุมวิทตอนปลายไปถึงสมุทรปราการ หรือโซนรังสิต จึงเริ่มมีสัญญาณของสินค้ที่าเกินความต้องการ จากข้อมูลพบว่า ในครึ่งปีแรก หน่วยที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนในกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีอาคารชุดกว่า 31,000 หน่วย คาดทั้งปี 60,000 หน่วย ขณะที่ ตัวเลขค่าธรรมเนียมโอนในปีนี้ คาดว่าจะใกล้เคียงกับปีงบประมาณที่ผ่านมา ต่างกับปี 2559-2560 ที่การจัดเก็บเพิ่มขึ้น 20% นั่นอาจจะแสดงให้เห็นถึงสภาพตลาดได้ว่า ขณะนี้ซัพพลายคอนโดมีมากแต่ดีมานด์กลับลดลง 

Baania มี Line แล้วนะ
ติดตามเรื่องราวอสังหาริมทรัพย์แบบอินเทรนด์ ได้ทุกวันผ่าน Line ID @baania

 

ประกาศยอดนิยม ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร

โครงการยอดนิยม ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร