Baania
Baania
จังหวัด
ประเภทประกาศ
ประเภทอสังหาริมทรัพย์
ราคา

เปิดกฎหมายอีอีซี ส่องสิทธิพิเศษผู้ลงทุน

x
คลิกที่นี่ เพื่อฟังบทความ

ออกมาแล้วสำหรับกฎหมายอีอีซี เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา “ราชกิจจานุเบกษา” ได้ลงประกาศ “พระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก” หรือที่เราเรียกกันว่า พระราชบัญญัติอีอีซี ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการส่งเสริมเศรษฐกิจของรัฐบาลที่เร่งผลักดันพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออกให้เป็นฮับหลักอีกแห่งหนึ่งของอาเซียน และเมื่อไม่นานมานี้ “แจ็ค หม่า” แห่งอาลีบาบาก็ได้เข้าพบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และเตรียมจะร่วมลงทุนในพื้นที่อีอีซีพร้อมขับเคลื่อนและช่วยพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้ดีขึ้น และมาดูกันว่ากฎหมายฉบับนี้ได้ให้สิทธิพิเศษอะไรกับนักลงทุน หรือมีอะไรที่เราต้องเตรียมรับมือกันบ้าง

เริ่มที่ มาตรา 6 ได้กำหนดพื้นที่อีอีซีไว้ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง และพื้นที่อื่นใดที่อยู่ในภาคตะวันออกที่กำหนดเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาเป็นเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

ทั้งนี้ ตามมาตรา 8 ได้กำหนดว่า การดำเนินโครงการหรือกิจการใดภายในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ที่ต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม สุขภาพของประชาชนหรือชุมชนตามที่มีให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ชำนาญการเป็นการเฉพาะ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบรายงานประเมินผลภายใน 120 วัน นับแต่ได้รับรายงาน

และการทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมยังเปิดโอกาสให้ผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทย สามารถทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งตามกฎหมายเดิมกำหนดเฉพาะให้ผู้ที่มีสัญชาติไทยเท่านั้น

ในมาตรา 33 ยังระบุกรณีที่ หากมีความจำเป็นในการสนับสนุนหรืออำนวยความสะดวก แล้วเป็นหน้าที่และอำนาจของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งหรือหลายหน่วย ครม.สามารถกำหนดให้ทั้งหมดหรือบางหน่วยเป็นผู้ดำเนินการแต่เพียงผู้เดียวได้   

หรือหากมีกฎหมายกำหนดให้ต้องได้รับอนุมัติหรืออนุญาตจากหน่วยงานรัฐหน่วยงานใด ให้กรรมการนโยบายเป็นผู้อนุมัติแทนหน่วยงานได้เลย และให้หน่วยงานรัฐที่มีอำนาจมีหน้าที่อนุมัติ สามารถทำได้เพียงการอำนวยความสะดวกแก่หน่วยงานที่สำนักงานอีอีซี หรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย

ขณะที่ มาตรา 43 ยังกำหนดให้ การกระทำใดภายในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายดังต่อไปนี้ 
(1) กฎหมายว่าด้วยการขุดดินและถมดิน
(2) กฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร
(3) กฎหมายว่าด้วยการจดทะเบียนเครื่องจักร
(4) กฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข
(5) กฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง เฉพาะเพื่อการอนุญาตให้คนต่างด้าวตามมาตรา 45(1) หรือ (2) อยู่ต่อในราชอาณาจักร
(6) กฎหมายว่าด้วยทะเบียนพาณิชย์
(7) กฎหมายว่าด้วยโรงงาน
(8) กฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน หากกฎหมายกำหนดให้ผู้ดำเนินการหรือผู้กระทำต้องได้รับอนุมัติใบอนุญาต ก็ให้ถือว่าเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายอีอีซี เป็นผู้มีอำนาจอนุมัติ

เรียกได้ว่ามีอำนาจแทนหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญกันเลยทีเดียว

นอกจากเรื่องอนุมัติที่ไม่ต้องทำตามกฎหมายปกติแล้ว ยังมีเรื่องสิทธิประโยชน์อีกมาก ไม่ว่าจะเป็น สิทธิในการถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินเพื่อการประกอบกิจการหรือห้องชุดเพื่อการประกอบกิจการ หรือการอยู่อาศัยตามมาตรา สิทธิในการนำคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักร สิทธิในการที่จะได้รับยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีอากร สิทธิในการทำธุรกรรมทางการเงิน สิทธิประโยชน์อื่นตามมาตรา ซึ่งก็เป็นอำนาจของกรรมการกำหนดนโยบาย

ส่วนเรื่องที่ดินนั้น มาตรา 49 กำหนดให้ ผู้ประกอบกิจการซึ่งเป็นนิติบุคคลและเป็นคนต่างด้าวตามประมวลกฎหมายที่ดิน มีสิทธิถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรือห้องชุดภายในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตตามประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งตามปกติคนต่างด้าวไม่สามารถที่จะถือครองที่ดินหรือกรรมสิทธิ์ห้องชุดได้เลย 

รวมถึงการให้บุคคลผู้มีความรู้ความสามารถพิเศษอันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเทคโนโลยีและก่อให้เกิดนวัตกรรมเข้ามาประกอบกิจการหรือทำงานได้ และอาจได้รับการลดหย่อนภาษี สิทธิเกี่ยวกับการเข้าเมืองและการขออนุญาตตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนดก็ได้ และสิทธิดังกล่าวรวมถึงบุพการีและบุตรด้วย

สำหรับการเช่าที่ หรือเช่าช่วงอสังหาริมทรัพย์ กำหนดว่า “มิให้นำความในมาตรา 540 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2542 มาใช้บังคับ” โดยสามารถเช่าได้เป็นเวลาถึง 50 ปี และต่อสัญญาได้อีก 49 ปี  

ซึ่งหมายความว่าการเช่าที่ดินสามารถเช่าได้ถึง 99 ปี หรือเกือบ 1 ศตวรรษ

ส่วนเรื่องคนทำงานนั้นก็ยกเว้นกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง โดยสามารถนำคนต่างด้าวดังต่อไปนี้เข้ามาทำงานได้แม้จะเกินระยะเวลาที่กำหนดก็ตาม

ขณะที่ผู้นำเข้าหรือส่งออกก็จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร
จะเห็นได้ว่ากฎหมายอีอีซีฉบับนี้มีสาระสำคัญอยู่ที่การยกเว้นกฎหมาย และการใช้ดุลพินิจตามกฎหมายหลายฉบับ โดยมีเป้าประสงค์เพียงเพื่อเร่งสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งแน่นอนว่าผู้ที่เข้ามาร่วมลงทุนจะมีความได้เปรียบและสิทธิประโยชน์มากมาย

แต่ในทางกลับกันย่อมเป็นความเสียเปรียบในอีกหลายๆ ทางของประเทศชาติและประชาชน แต่รัฐบาลน่าจะคิดว่า “คุ้ม” เมื่อแลกกับการเจริญเติบโตและความก้าวหน้าที่จะได้มา

หลังจากนี้ไปเวลาก็จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า สิ่งที่รัฐบาลตัดสินใจทำลงไปนั้นได้ประโยชน์จริงหรือไม่ ยังคงต้องคอยติดตามกันต่อไปว่าประเทศไทยนั้นจะเดินไปถูกทางหรือไม่โดยการนำของรัฐบาลทหาร

ที่มา : komchadluek


Baania มี Line แล้วนะ
ติดตามเรื่องราวอสังหาริมทรัพย์แบบอินเทรนด์ ได้ทุกวันผ่าน Line ID @baania

ประกาศยอดนิยม ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร

โครงการยอดนิยม ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร