'อนันต์' แนะใช้ Big Data ช่วยลดต้นทุน-เพิ่มยอดขาย

ในวันที่เทคโนโลยีมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ยุคใหม่ไม่แพ้ปัจจัย 4  ‘ข้อมูล’ ในระดับ Big Data ก็ย่อมมีความจำเป็นต่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ลองมาฟังแนวคิดในเรื่องของการใช้ข้อมูลจากดีเวลอปเปอร์ระดับบิ๊กเนม “อนันต์ อัศวโภคิน” อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ผู้คร่ำหวอดอยู่กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากว่า 40 ปี ตั้งแต่ยุคที่การทำธุรกิจอสังหาฯ ใช้ประสบการณ์ (experience) และ ความรู้สึก (sense) มากกว่าการใช้ข้อมูล จากวันที่การจัดเก็บข้อมูลยังทำโดยการ ‘นั่งนับ’ จนถึงวันที่ ข้อมูลจำนวนมหาศาล ถูกจัดเก็บด้วยเทคโนโลยี และว่ากันว่ามันจะกลายเป็นอาวุธสำคัญในการทำธุรกิจอสังหาฯ

ย้อนกลับไปกว่า 10 ปีที่ผ่านมา แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เบอร์ต้นๆ ที่เริ่มศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคในออนไลน์อย่างจริงจัง พร้อมทั้งเปิดตัว homedd.com ขึ้นมาเพื่อสร้างความรู้จักกับลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ในออนไลน์ จนถึงวันที่ Big data เริ่มเข้ามามีบทบาทในธุรกิจอสังหาริทรัพย์ กลุ่มแลนด์ฯ ก็ยังเป็นบริษัทแรกๆ ที่สนใจเรื่องนี้ และได้ทดลองใช้  เทคโนโลยีด้านข้อมูลจาก Baania ซึ่งในงานเสวนา Real Estate Big Data เทคโนโลยีขับเคลื่อนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จึงได้แชร์ประสบการณ์การใช้ข้อมูลจากอดีตจนถึงปัจจุบันรวมถึงประสบการณ์การใช้ Big Data Analytics  ให้ฟังว่า ….

การนำข้อมูลต่างๆ มาใช้ทำให้ประหยัดทั้งเวลา และงบประมาณในการทำตลาดมากขึ้น ในสมัยที่กลุ่มแลนด์ฯเข้าไปลงทุนพัฒนาบ้านจัดสรรในสหรัฐอเมริกาเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ในท้องที่จะมีการจัดเก็บข้อมูลไว้เยอะมาก เช่น ข้อมูลด้านการก่อสร้าง การขาย ซึ่งเป็นข้อมูลสาะารณะ สามารถขอหรือซื้อได้  ทำให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น บางพื้นที่นำข้อมูลมาเป็นตัวกำหนดการขออนุญาต หากช่วงเวลาใดมีการยื่นขออนุญาตกันมาก ท้องถิ่นก็จะชะลอการขออนุญาตออกไป เพื่อไม่ให้ เกิดปัญหาโอเวอร์ ซัพพลาย นั่นคือ ประโยชน์ของการมีข้อมูลที่ครบถ้วน หรือล่าสุด แลนด์ฯ ไปทำธุรกิจอพาร์ตเมนต์ที่สหรัฐอเมริกา ก็มีข้อมูลสำหรับการตัดสินใจลงทุนที่ดีมาก ซึ่งต้องยอมรับว่า ธุรกิจอสังหาฯ ใช้เงินจำนวนมาก และเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจอื่นๆ เป็น multiplier หากมีข้อผิดพลาดแม้แต่นิดเดียวก็จะเกิดปัญหาขึ้นได้ 

สำหรับในประเทศไทย เมื่อมีธุรกิจที่สามารถรวบรวมข้อมูลทั้งหมด และนำข้อมูลเหล่านั้นมาช่วยในการตัดสินใจจึงถือเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งกลุ่มแลนด์ฯ ได้ทดลองเช่าบริการของ Baania มาประมาณ 1 ปี พบว่าประสิทธิภาพในการทำงานก็ดีขึ้น สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก การใช้โฆษณาลดลง แต่มียอดขายที่มากขึ้นทุกปี สามารถเข้าตลาดได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ เพราะ มีข้อมูลจากที่ทำให้สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากข้อมูลของ Baania ลงลึกไปมากกว่าที่คิดไว้เยอะมาก สามารถเทสต์ลูกค้าได้เป็นรายบุคคล และอัพเดต  มีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ทำใช้ทำให้รู้เทรนด์ลูกค้า ซึ่งเป็นข้อมูลในระดับ Knowledgeable ทำให้เรามี Wisdom ในการลงทุน

“ถือว่าเป็นประโยชน์กับธุรกิจเป็นอย่างมาก เพราะการใช้ Big Data สามารถเอามาวางแผนได้หลากหลาย ตั้งแต่การซื้อที่ดิน กลุ่มลูกค้า เรื่องของแบบบ้าน ระดับราคา เซ็กเมนต์ที่เราจะเข้า และทำให้ประหยัดงบการตลาพดได้มากจากที่เคยใช้ปีละ 4-5% ของยอดขาย ลดลงมาเรื่อยๆ เหลือ 2-3%”  อนันต์กล่าว ก่อนที่จะทิ้งท้ายก่อนจบการบรรยายไว้อย่างน่าคิดว่า ในธุรกิจของเรา ความรู้มันถูกมากถ้าเราใช้มันก่อนที่จะลงทุน แต่มันจะแพงมากถ้าไม่ได้ใช้มัน และได้ลงทุนไปแล้ว

Baania มี Line แล้วนะ
ติดตามเรื่องราวอสังหาริมทรัพย์แบบอินเทรนด์ ได้ทุกวันผ่าน Line ID @baania