สินเชื่อสร้างบ้าน ธนาคารไหนดี 2564

เมื่อเราเตรียมตัวพร้อมแล้วในการกู้สินเชื่อสร้างบ้าน ทั้งเอกสาร ทั้งแบบบ้าน ที่ดิน และศึกษาค่าใช้จ่ายต่างๆ เรียบร้อยแล้ว หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เราจะต้องคิดให้หนักคือ สินเชื่อสร้างบ้าน ธนาคารไหนดีที่สุดในปี 2564 กันแน่ แล้วจะมีวิธีเลือกอย่างไรได้บ้าง บทความนี้จะมาบอกวิธีการเลือกว่าเราจะสมัครสินเชื่อสร้างบ้าน ของธนาคารไหนดีนั้น เราจะต้องเปรียบเทียบด้วยข้อมูลเบื้องต้นของแต่ละธนาคาร ดังนี้

1. วงเงินกู้สูงเพียงพอที่จะใช้  

วงเงินกู้สินเชื่อสร้างบ้านที่ดี จะต้องเป็นวงเงินกู้ที่ครอบคลุมกับค่าก่อสร้างและตกแต่งบ้านของเราได้ ซึ่งวิธีการประเมินเงินกู้ของแต่ละธนาคารนั้น แม้จะมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละธนาคาร  แต่ก็จะมีปัจจัยหลักๆ คือ วงเงินที่ขอ ความสามารถในการผ่อนของผู้กู้ ประวัติทางการเงินของผู้กู้ และหลักประกันที่นำมาใช้ ซึ่งวงเงินนี้เราควรยื่นขอกู้ในหลายธนาคารแล้วมาเขียนเปรียบเทียบกันว่าธนาคารไหนให้วงเงินเท่าไร ที่ไหนให้วงเงินสูงที่สุด และต้องจ่ายอย่างไร ดอกเบี้ยเท่าไร หรือมีเงื่อนไขอะไรบ้างเทียบกันไปเป็นข้อๆ

2. อัตราดอกเบี้ยเหมาะสมกับความสามารถในการจ่าย

อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีที่เราจะต้องจ่ายเมื่อกู้สินเชื่อสร้างบ้าน เหตุผลว่าทำไมต้องเป็นดอกเบี้ยบ้านใน 3 ปีแรกนั้น ก็เพราะว่าปีที่ 4 เราสามารถรีไฟแนนซ์เปลี่ยนธนาคารใหม่ หรือรีเทนชันใช้ธนาคารเดิม เพื่อลดดอกเบี้ย โดยดอกเบี้ยที่จะต้องทำความเข้าใจจะแบ่งเป็นประเภทหลักๆ ได้ดังนี้

• อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate Loan)

อัตราดอกเบี้ยคงที่ เป็นดอกเบี้ยสินเชื่อที่จะไม่ปรับขึ้นลงของดอกเบี้ยตลาด และจะถูกคิดตามที่ระบุไว้ในโปรโมชันสินเชื่อหรือตามสัญญาเท่านั้น เช่น เราขอสินเชื่อสร้างบ้านวงเงิน 1,000,000 บาท ในสัญญาระบุว่าดอกเบี้ยคงที่ 3% ตลอดสัญญา ธนาคารก็จะคำนวณเงินต้นที่เราต้องจ่าย พร้อมดอกเบี้ยอีก 3% มาให้ ซึ่งเราจะต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนเท่านี้ไปตลอดจนครบสัญญา ไม่ว่าดอกเบี้ยนโยบายทั่วไปจะขึ้นหรือลงเราก็จะจ่ายเท่าเดิมตลอดไปจนครบสัญญาครับ ข้อดีของสินเชื่อแบบนี้ ถ้าดอกเบี้ยนโยบายปรับตัวสูงขึ้นกว่าดอกเบี้ยคงที่ของเรา ก็จะทำให้เราไม่ได้รับผลกระทบอะไร แต่หากดอกเบี้ยนโยบายถูกกว่าดอกเบี้ยคงที่เราเราจ่ายอยู่ ก็จะทำให้เราจ่ายดอกเบี้ยแพงกว่าคนที่จ่ายตามดอกเบี้ยนโยบายนั่นเองครับ

• อัตราดอกเบี้ยลอยตัว (Floating Rate Loan)

อัตราดอกเบี้ยลอยตัว เป็นอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่จะอ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ยตลาดหรือดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนขึ้นลงได้เสมอ ซึ่งหากดอกเบี้ยนโยบายต่ำเราก็จะจ่ายน้อย แต่ถ้าดอกเบี้ยนโยบายสูงเราก็จะจ่ายขึ้นตามไปด้วย

• อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะหนึ่ง และปรับเป็นคงที่ใหม่ทุกรอบเวลา (Rollover Mortgage Loan)

อัตราดอกเบี้ยแบบนี้เรามักจะเห็นบ่อยเวลาขอสินเชื่อสร้างบ้าน ที่มักจะมีการกำหนดว่า อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีที่ 1 เท่านี้ และปีที่ 2 เท่านี้ หรือ 3 ปีแรกจ่ายดอกเบี้ยเท่านี้ แล้วปีที่ 4 ตลอดจนครบสัญญาจ่ายเท่านี้ อัตราดอกเบี้ยที่เล่ามาเป็นดอกเบี้ยที่เรียกว่าอัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะหนึ่ง และปรับเป็นคงที่ใหม่ทุกรอบเวลาตามสัญญากำหนดครับ

3. บริการต้องดีและรวดเร็ว

หากธนาคารไหนบริการดีและรวดเร็ว ทั้งเรื่องการให้ข้อมูล กระบวนการพิจารณาสินเชื่อ การติดตามความคืบหน้าระหว่างกู้ รวมถึงการตอบคำถามเวลามีข้อสงสัยด้วย หากเราเลือกธนาคารที่บริการไม่ตรงใจ อาจจะทำให้การขอสินเชื่อของเรามีปัญหาได้หรือล่าช้าได้นะครับ

4. ต้องสะดวกและอนุมัติง่าย

การกู้เงินสร้างบ้านนั้นมีขั้นตอนในการยื่นเอกสารและอนุมัติ ฉะนั้นการเลือกธนาคารที่มาโอกาสอนุมัติสินเชื่อให้เราได้ง่ายจะดีกว่า ซึ่งปัจจัยที่จะทำให้อนุมัติง่ายนั้นมาจากความสามารถในการผ่อนของผู้ขอกู้ หลักประกัน อาชีพ ฐานเงินเดือน ประวัติการชำระหนี้ เอกสารต่างๆ ที่ประกอบการพิจารณา จำนวนวงเงินสินเชื่อ เป็นต้น 

5. เลือกกู้กับธนาคารที่มีบัญชีเงินเดือนอยู่แล้วจะดีกว่า

หากใครเป็นมนุษย์เงินเดือน และจะขอสินเชื่อสร้างบ้าน การขอกู้เงินเดือนกับธนาคารที่เราใช้เป็นบัญชีเงินเดือนอยู่จะทำให้การประเมินเอกสารแสดงรายได้ง่ายขึ้น อีกทั้งในบางครั้งธนาคารอาจมีโปรฯสินเชื่อสร้างบ้านพิเศษสำหรับลูกค้าที่เป็นลูกค้าเดิมอยู่แล้วอีกด้วย  ฉะนั้นหากมีบัญชีเงินเดือนอยู่อย่าลืมสอบถามธนาคารนั้นด้วยนะครับว่ามีโปรฯ สินเชื่อสร้างบ้านอย่างไรบ้าง

6. เลือกธนาคารที่เดินทางสะดวก และติดต่อง่าย

การเลือกธนาคารที่เดินทางสะดวกและติดต่อง่าย หรือธนาคารอยู่ใกล้พื้นที่ก่อสร้างบ้านใหม่ของเราจะทำให้เราสามารถเดินเรื่องเอกสารต่างๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น ลดเวลาเดินทางในการติดต่อธนาคารได้มากขึ้น เพราะการขอสินเชื่อสร้างบ้านนั้น

7. สินเชื่อสร้างบ้าน เลือกธนาคารไหนดี

ใครที่ทำเช็คลิสต์ในการวางแผนเปรียบเทียบสินเชื่อสร้างบ้านกันแล้ว แต่รู้สึกว่ายังเลือกดอกเบี้ยและโปรฯ สินเชื่อแต่ละโครงการไม่ถูก Baania ได้รวบรวมสินเชื่อสร้างบ้านของแต่ละธนาคารที่น่าสนใจมากให้แล้วครับ

ธนาคารอาคารสงเคราะห์

มาเริ่มกันที่สินเชื่อสร้างบ้านของ ธอส. ตัวที่เราคัดเลือกมาให้นั้นคือโครงการสินเชื่อปี 2564 สินเชื่อบ้านสร้างสมใจ ซึ่งหากวางแผนไว้ว่าจะทำบ้านกับกลุ่มบริษัทหรือสมาคมรับสร้างบ้าน หรือกลุ่มบริษัท บิลค์ วัน กรุ๊ป จะได้ดอกเบี้ยถูกมากๆ โดยในปีแรกจะมีดอกเบี้ยเท่ากับ 2.80% ต่อปี แต่หากจะปลูกสร้างบ้านทั่วไปกับบริษัทอื่นๆ ดอกเบี้ยปีแรกจะเท่ากับ 3.15% ต่อปี แถมยังผ่อนได้นานสูงสุดถึง 40 ปีใครที่อยากจะยื่นขอสินเชื่อตัวนี้ จะต้องยื่นคำขอกู้และอนุมัติสินเชื่อตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิถุนายน 2564 และต้องทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 กรกฎาคม 2564

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

สินเชื่อสร้างบ้านของธนาคารกรุงศรีอยุธยานี้ มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็ว และผ่อนชำระนานสูงสุด 30 ปี ซึ่งถ้าขอสินเชื่อเพื่อปลูกสร้างบ้านบนที่ดินซึ่งผู้ขอสินเชื่อเป็นเจ้าของหรือเจ้าของร่วมจะให้วงเงินกู้สูงสุดเต็มๆ 100% ของค่าจ้างปลูกสร้าง ส่วนใครที่ขอสินเชื่อเพื่อปลูกสร้างบ้าน พร้อมสินเชื่อกรุงศรีโฮมฟอร์แคชบนที่ดิน ซึ่งผู้ขอสินเชื่อเป็นเจ้าของหรือเจ้าของร่วมจะได้วงเงินกู้รวมสูงสุด 90% ของราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระรวมกับอายุผู้กู้แล้วต้องไม่เกิน 65 ปี

ธนาคารกสิกรไทย

สินเชื่อสร้างบ้านของธนาคารกสิกรไทยก็ให้วงเงินเต็มๆ 100% ของราคาค่าก่อสร้างตามสัญญาว่าจ้าง แต่ไม่เกิน 90%ของราคาประเมินหากกู้ปลูกสร้างบ้านบนที่ดินของตนเอง แต่หากกู้ซื้อที่ดินพร้อมขอกู้ปลูกสร้างบ้านจะให้วงเงินให้กู้ไม่เกิน 90% ของราคาซื้อขายที่ดินรวมกับราคาค่าก่อสร้างตามสัญญาว่าจ้าง แต่ไม่เกิน 90% ของราคาประเมินที่ดินและราคาประเมินแบบสิ่งปลูกสร้าง โดยอนุมัติเบื้องต้นไวใน 3 วันทำการอีกด้วยหากส่งเอกสารครบถ้วน ในส่วนของดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกที่ 4.75% และผ่อนได้นานสูงสุด 30 ปี

ธนาคารยูโอบี

สำหรับสินเชื่อสร้างบ้านของธนาคารยูโอบี(UOB) นั้นจะให้วงเงินกู้สูงสุด 85% ของราคาประเมินที่ดินรวมกับค่าก่อสร้างบ้าน (70% ของราคาประเมินที่ดิน บวก 100% ของราคาประเมินค่าก่อสร้างบ้าน)  อีกทั้งยังทราบผลพิจารณาเบื้องต้นใน 3 วันทำการเท่านั้น โดยดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี สำหรับคนที่ทำประกัน MRTA กับธนาคารด้วยจะอยู่ที่ 3.55% แต่สำหรับคนที่ไม่ทำประกัน MRTA จะอยู่ที่ 3.75% ซึ่งสามารถผ่อนได้นานสูงสุด 30 ปี แต่สินเชื่อสร้างบ้านนี้มีข้อกำหนดว่าจะผู้กู้จะต้องมีรายได้ขั้นต่ำ 20,000 บาทต่อเดือน ถ้าสนใจสินเชื่อนี้จะต้องรีบสมัครสักหน่อยภายใน 31 มีนาคม 64 และจดจำนองภายใน 30 เมษายน 64 เท่านั้นนะครับ

ธนาคารกรุงไทย

สินเชื่อสร้างบ้านของธนาคารกรุงไทยก็มีสินเชื่อสร้างบ้านที่ให้ดอกเบี้ยสูงสุด 100% พร้อมฟรีค่าธรรมเนียมยื่นกู้ ผ่อนได้นานสุงสุด 30 ปี และดอกเบี้ยปีแรกเริ่มต้น 0.64% ต่อปี สำหรับดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีของผู้กู้ที่ทำประกัน MRTA จะอยู่ที่ 2.83% และสำหรับผู้ที่ไม่ทำประกัน MRTA จะเท่ากับ 2.93%

ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ก็มีสินเชื่อสร้างบ้านให้กู้เช่นกัน โดยให้วงเงินกู้ที่ให้สูงสุด 100% จากราคาประเมินหลักประกัน สำหรับดอกเบี้ยนั้นจะเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด

ธนาคารกรุงเทพ

สินเชื่อบ้านบัวหลวง ของธนาคารกรุงเทพ หากจะกู้เงินสร้างบ้านนั้นจะได้วงเงินสูงสุด 70-95% ของมูลค่าหลักประกัน หากเป็นมีรายได้ประจำ แล้วกู้วงเงินตั้งแต่ 1 ล้านบาทแต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท ปีแรกจะได้ดอกเบี้ย MRR-1.75% หรือ 3.00% และปีที่ 2-3 คิดดอกเบี้ย MRR-1.00% โดยสามารถผ่อนได้นานสูงสุดถึง 30 ปี อีกทั้งยังยกเว้นค่าธรรมเนียมการจัดการสินเชื่อด้วย

ธนาคารออมสิน

สินเชื่อสร้างบ้าน ธนาคารออมสินจะให้กู้ได้ถึง 100% ของราคาประเมินของอาคารที่ปลูกสร้างหรือต่อเติมซ่อมแซม ซึ่งหากเป็นบ้านหลังแรกหรือสัญญาที่อยู่อาศัยหลังที่ 1 โดยที่ดินพร้อมอาคารนั้นมีราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท จะให้วงเงินกู้ไม่เกิน 95% ของราคาประเมินหลักทรัพย์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องแล้วแต่กรณีไป สำหรับดอกเบื้ยของสินเชื่อตัวนี้นั้นจะเป็นไปตามกำหนดของธนาคาร แถมยังผ่อนได้ยาวๆ ถึง 40 ปีเชียวครับ

คงได้วิธีเลือกสินเชื่อสร้างบ้าน ธนาคารไหนดี 2564 กันแล้วใช่ไหมครับว่าเราควรจะเลือกธนาคารได้ ทางที่ดีที่สุด เราควรจะเตรียมเอกสารหลายชุดแล้วยื่นหลายธนาคาร เพื่อทำการเทียบความคุ้มค่าระยะยาวกันด้วยนะครับ