บ้านสำเร็จรูป ชีวิตวิถีใหม่ของคนอยากมีบ้าน

เทรนด์ใหม่สุดมาแรงก็คือบ้านสำเร็จรูป ที่ผู้อยู่อาศัยสามารถเลือกแบบบ้านในฝันได้ คุณจะไม่ต้องเสียเวลาในการมาเฝ้าผู้รับเหมาหน้างาน เพราะจะมีการนำวัสดุแบบสำเร็จรูปมาตั้งบริเวณพื้นที่ที่คุณต้องการ เป็นการตอบโจทย์แบบบ้านที่ดี เพราะมีการใช้วัสดุที่มีคุณภาพจากโรงงาน ใช้เวลาก่อสร้างเพียงไม่นาน มีดีไซน์ที่สวยงามและทันสมัย อีกทั้งค่าใช้จ่ายยังประหยัดลงกว่าการก่อสร้างเองด้วย

1. บ้านสำเร็จรูปเป็นอย่างไร?

บ้านสำเร็จรูป คือบ้านที่ถูกก่อสร้างมาอย่างเสร็จสมบูรณ์ทั้งหลัง และสามารถนำมาติดตั้งได้เลย โดยมีระยะเวลาในการก่อสร้างที่รวดเร็วกว่าบ้านชนิดอื่น แบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ ระบบโมดูล่าร์ ระบบน็อคดาวน์ และระบบคอนกรีตสำเร็จรูป โดยทั้ง 3 ประเภทนี้มีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป

โดยส่วนใหญ่ บ้านชนิดนี้จะมีการผลิตวัสดุแบบสำเร็จรูปจากโรงงานมาแล้ว จึงง่ายต่อการขนส่ง และมีวิธีการติดตั้งที่ง่ายดายสามารถเลือกแบบบ้านได้หลากหลายสไตล์ หัวใจหลักเลยก็คือราคาที่ถูกกว่าการสร้างบ้านแบบปกติ รวมถึงระยะเวลาในการก่อสร้างก็รวดเร็ว

2. บ้านแบบพรีแคสท์

เป็นการก่อสร้างแบบคอนกรีตสำเร็จรูปที่ถูกผลิตขึ้นภายในโรงงาน ยกตัวอย่างเช่น เสาบ้าน ผนังบ้าน และจะถูกนำมาประกอบในพื้นที่ที่ต้องการก่อสร้างเช่น สะพาน ทางด่วน คอนโด โดยจะถูกขนส่งมาด้วยรถบรรทุก แต่ต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษในการขนส่ง หรือการยกขึ้นประกอบ เพราะอาจจะทำให้คอนกรีตแตกหักได้

แต่ก็ยังมีหลากหลายคนที่นิยมนำการก่อสร้างประเภทนี้มาใช้ในการสร้างบ้าน เช่น บ้านจัดสรร ทาวน์โฮม สถานที่ราชการ โรงพยาบาล เป็นต้น

3. บ้านแบบน็อคดาวน์

เป็นการก่อสร้างบ้านโดยการนำวัสดุชิ้นต่าง ๆ ที่ผลิตจากโรงงานโดยขนส่งมาบริเวณที่ต้องการจะก่อสร้าง และนำวัสดุแต่ละชิ้นมาประกอบกัน เช่น หน้าต่าง ผนัง เสาบ้าน หลอดไฟ โดยวัสดุเหล่านี้สามารถถอดออกหรือนำมาประกอบกันได้โดยไม่เกิดความเสียหาย วัสดุที่ผู้ผลิตนิยมนำมาสร้างเป็นบ้านน็อคดาวน์ก็คือ คอนกรีต ไม้ เหล็ก หรือตู้คอนเทนเนอร์แบบสำเร็จรูป

บ้านแบบน็อคดาวน์ มีความสะดวกในการขนส่งและติดตั้งมากกว่าประเภทอื่น ๆ สามารถขนย้ายได้ง่าย มีต้นทุนวัสดุที่ต่ำช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างได้เป็นอย่างมาก และใช้เวลาในการก่อสร้างได้อย่างรวดเร็ว

4. บ้านแบบโมดูล่าร์

เป็นการก่อสร้างบ้านด้วยระบบโมดูล่าร์ คือ จะมีลักษณะเป็นบ้านที่สร้างมาสำเร็จรูปจากโรงงาน และยังสามารถขนส่งได้ด้วยรถบรรทุก หากนำมาติดตั้งที่หน้างานจะต้องใช้รถเครนที่มีขนาดใหญ่ในการขนย้าย โดยส่วนใหญ่วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างจะเป็นเหล็ก จึงมีความแข็งแรงทนทาน อีกทั้งยังสามารถช่วยประหยัดเวลาในการสร้างได้มากกว่าก่อสร้างแบบปกติทั่วไป

นอกจากนี้ การผลิตยังมีคุณภาพได้มาตรฐาน เพราะสถาปนิกจะเป็นคนเข้ามาประเมินพื้นที่และขนาดในการสร้างพร้อมกับคำนึงถึงวัสดุที่จะนำมาประกอบ และคุณยังสามารถนำบ้านแบบโมดูล่าร์ไปติดตั้งต่อกับบ้านหลังอื่นได้อีก โดยใช้ระบบแบบน็อคดาวน์เข้ามาช่วย เช่น การเชื่อมตัวบ้าน หรือการขันน็อตในการติดตั้งต่อกัน บ้านชนิดนี้ให้ความสะดวกและรวดเร็วในการก่อสร้างเป็นอย่างมาก

5. บ้านสำเร็จรูปเหมาะกับใคร?

อาจจะเหมาะสำหรับการก่อสร้างเล็ก ๆ ยกตัวอย่างเช่น การสร้างสำนักงาน รีสอร์ท ร้านกาแฟ เรือนหอ เนื่องจากจะสามารถขยับขยายและขนย้ายได้สะดวกอีกทั้งยังมีการออกแบบและคิดค่าใช้จ่ายมาให้เรียบร้อยแล้ว จึงเหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาในการคุมงานก่อสร้าง หรือต้องการบ้านที่สามารถเสร็จได้ภายในระยะเวลาไม่นาน อีกทั้งยังเหมาะสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจเพราะมีราคาไม่แพง

6. ข้อดีข้อเสีย

การก่อสร้างบ้านสำเร็จรูปนั้นต่างก็มีทั้งข้อดี และข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น คุณจึงควรพิจารณาเหตุผล และความเหมาะสมด้วยตนเอง ดังนี้

ข้อดีของบ้านสำเร็จรูป

1. มีระบบการก่อสร้างที่ดีและทันสมัย รวมไปจนถึงวัสดุอุปกรณ์ในการตกแต่ง
2. เป็นบ้านสำเร็จรูปที่มีการตกแต่งภายในมาอย่างสวยงามพร้อมอยู่
3. ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างอาทิ ค่าวัสดุอุปกรณ์ ค่าจ้างผู้รับเหมา ค่าแรงคนงาน ให้ประหยัดลงกว่าการก่อสร้างแบบธรรมดา
4. มีระยะเวลาในการก่อสร้างที่รวดเร็วกว่าบ้านแบบปกติเกือบเท่าตัว
5. สามารถเลือกแบบบ้านได้อย่างหลากหลายรูปแบบพร้อมกับดีไซน์ที่ทันสมัย

ข้อเสียของบ้านสำเร็จรูป

1.  อาจจะมีปัญหาในการต่อเติมบ้าน เนื่องจากบ้านสำเร็จรูปนั้นถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับโครงสร้างของบ้านแล้ว การต่อเติมจึงเป็นไปได้ยาก
2.  คุณจะไม่สามารถปรับเปลี่ยนขนาดบ้านและแก้ไขรูปแบบบ้านได้ เนื่องจากจะมีแบบให้คุณได้เลือกอยู่แล้ว
3. ไม่สามารถซ่อมแซมวัสดุหรือเปลี่ยนวัสดุของบ้านได้ เนื่องจากทางบริษัทออกแบบบ้านได้จำกัดชนิดของวัสดุและขนาดมาเรียบร้อยแล้ว อาจทำให้ผิดเพี้ยนจากเดิมไปได้

7. การตรวจบ้าน

ในการเลือกซื้อบ้านสำเร็จรูป คุณควรที่ตรวจสอบวัสดุในการก่อสร้าง รวมไปถึงรูปแบบของบ้านที่คุณเลือก ว่ามีความเหมาะสมและตอบโจทย์การใช้งานให้เหมาะสมกับราคาที่ต้องจ่ายไปหรือไม่ ดังนี้

1. ตรวจสอบความพร้อมในการก่อสร้าง ระยะเวลาในการก่อสร้างและงบประมาณ
2. เช็กความแข็งแรงของบ้าน เช่น ผนังและพื้นที่ใช้เป็นวัสดุประเภทไหนเกรดดีมีคุณภาพหรือไม่
3. การขนย้ายหรือเคลื่อนที่ของบ้าน ควรที่จะมีความสะดวกสามารถทำได้ง่าย
4. ตรวจสอบระบบสาธารณูปโภคของบ้านให้เรียบร้อย เช่น ระบบไฟฟ้า เรื่องของน้ำประปา

8. การต่อเติมบ้านสำเร็จรูป

อันที่จริงการต่อเติมบ้านสำเร็จรูปนั้นอาจจะเป็นไปได้ยากลำบากกว่าการต่อเติมบ้านแบบปกติ เนื่องจากเป็นบ้านที่ถูกออกแบบมาอย่างเหมาะสมแล้วไม่ว่าจะเป็นวัสดุต่าง ๆ เช่น ประตู โคมไฟ สิ่งเหล่านี้เหมาะสมกับสไตล์บ้านในแบบที่คุณเลือกมาอยู่แล้ว อีกทั้งวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างยังมีขนาดและประเภทที่จำกัดถูกออกแบบมา โดยเฉพาะถ้าตกแต่งเพิ่มเติมอาจจะทำให้เกิดความเสียหายได้

แต่ถ้าหากคุณต้องการจะตกแต่งเพิ่มเติมควรปรึกษาสถาปนิกผู้ออกแบบบ้านที่คุณเลือก เพราะสถาปนิกจะได้แนะนำวัสดุที่มีขนาดเหมาะสมเท่ากัน และพิจารณาความสมดุลของบ้าน ที่จะทำให้การต่อเติมบ้านของคุณมีรูปแบบที่สวยงาม แล้วยังมีความเหมาะสมปลอดภัยอีกด้วย

9. ความทนทาน

ในข้อนี้คุณหมดปัญหากังวลใจอย่างแน่นอน เพราะบ้านสำเร็จรูปเป็นบ้านที่ผ่านการออกแบบและคำนวณวัสดุก่อสร้างน้ำหนักตัวบ้านจากสถาปนิกและวิศวกรมืออาชีพ รวมถึงรูปแบบการก่อสร้างที่เหมาะสม และ เลือกใช้วัสดุที่ได้มาตรฐานมีคุณภาพจากโรงงานเช่น ไฟเบอร์ซีเมนต์บอร์ด ดังนั้น จึงมีความแข็งแรงทนทานและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานอย่างแน่นอน

10. การดูแลบ้านสำเร็จรูป

ในส่วนของการดูแลรักษาบ้านสำเร็จรูปนั้นมีวิธีการดูแลรักษาที่เหมือนกับบ้านทั่วไป ได้แก่

1. ตรวจสอบวัสดุตกแต่งและโครงสร้างภายนอกของบ้าน หากพบความผิดปกติ ควรที่จะแจ้งบริษัทออกแบบ หรือ ผู้ออกแบบเพราะอาจจะเกิดปัญหาตามมาได้
2. ดูแลทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาสภาพของวัสดุภายในบ้าน เช่น พื้น ผนัง
3. ควรมีการตรวจเช็กสภาพของบ้าน ความรั่วซึมตามผนัง เพดาน หลังคา ให้อยู่ในลักษณะที่ปกติและได้มาตรฐานทั่วไป
4. ควรเช็กระบบไฟฟ้าภายในบ้าน เพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย

 

อีกทางเลือกใหม่แห่งความสะดวก ด้วยความที่คุณสามารถเลือกแบบบ้านให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณได้คุณควรเลือกบ้านสำเร็จรูป นอกจากจะมีรูปแบบการดีไซน์ที่มีความทันสมัยแล้ว ยังมีความแข็งแรงทนทาน เนื่องจากใช้วัสดุที่ได้มาตรฐานเปี่ยมคุณภาพ โดยการใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างที่รวดเร็วกว่าบ้านประเภทอื่น อีกทั้งยังมีงบประมาณที่เหมาะสมค่าใช้จ่ายไม่บานปลายแน่นอน