การเคหะฯ ผุดบ้านต่ำล้านล๊อตแรก 3,000 ยูนิต

การเคหะฯ ผนึกเอกชนส่งบ้านราคาไม่เกินล้านบาท จำนวน 3,000 หน่วย ร่วมโครงการบ้านล้านหลัง พร้อมเสนอลดค่าโอน ช่วยผู้มีรายได้น้อย

ดร.ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ  กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการส่งเสริมให้ผู้มีรายได้น้อย ได้มีโอกาสมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ตามนโยบายของรัฐบาลในโครงการบ้านล้านหลัง ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ว่า ขณะนี้การเคหะฯมีการดำเนินการไปหลายส่วน โดยเฉพาะในรูปแบบ Joint Support มีโครงการอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง ให้ความสนใจเสนอโครงการเข้ามา เช่น ผู้ประกอบการในจังหวัดพิษณุโลก เสนอที่ดินกว่า 100 ไร่ มาร่วมพัฒนาโครงการกับการเคหะฯ โดยคาดว่าจะมีมูลค่าโครงการไม่ต่ำกว่า 500-600 ล้านบาท และยังอยู่ระหว่างการเจรจาเพิ่มเติมกับผู้ประกอบการในจังหวัดพิษณุโลกอีก 2-3 ราย

ดร.ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ

ทั้งนี้ คาดว่าในวันที่  15 พฤศจิกายนนี้ จะมีการเซ็นความร่วมมือกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ประมาณ 30 โครงการ จำนวนกว่า 3,000 ยูนิต ที่จะเข้าร่วมโครงการตามนโยบายของรัฐบาล โดยที่การเคหะฯจะเสนอให้รัฐบาลช่วยสนับสนุนการลดค่าธรรมการโอนเหลือร้อยละ 0.01 นั้น ซึ่งทางสำนักงานประมาณ กระทรวงการคลัง ได้ผ่านเห็นชอบแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นกระทรวงมหาดไทย ที่จะเกี่ยวข้องโดยตรงให้ความเห็น 

สำหรับ Joint Support เป็นหนึ่งใน 4 แนวทางของกคช.ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยให้ได้ตามแผนแม่บท 20 ปี ซึ่งรูปแบบ Joint Support จะทำหน้าที่เป็นปรึกษา ให้คำแนะนำ สนับสนุน หรือบริการจัดการโครงการก่อสร้างให้กับเอกชน ซึ่งมีเป้าหมายดำเนินการ 77 จังหวัดทั่วประเทศ จังหวัดละประมาณ 800-1,000 ล้านบาท รวม 70,000 ยูนิต โดยจะนำร่องใน 10 จังหวัด ได้แก่ มุกดาหาร นครพนม ตาก พิษณุโลก นราธิวาส นครศรีธรรมราช ระยอง ชลบุรี นครนายก และสระบุรี

ลำดับที่ 7 โครงการดินแดง
 
นอกจากนี้ กคช.ยังแผนให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ ได้แก่ โครงการฟื้นฟูเคหะชุมชนดินแดง มูลค่ากว่า 40,000 ล้านบาท จะให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในเฟสที่ 3 และ 4 ระหว่างปี 2564-2567 บนเนื้อที่ 100 ไร่ สร้างได้มากกว่า 30 อาคาร มีทั้งส่วนที่พักอาศัย พาณิชยกรรม และพื้นที่สวนสาธารณะ ส่วนอีกโครงการอยูที่ร่มเกล้า มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท จะพัฒนาเป็นเมืองสำหรับคนรุ่นใหม่ ซึ่งทำเลดังกล่าวเป็นที่มีศักยภาพสูงมาก แต่ยังติดที่ผังเมืองรวมกรุงเทพฯที่กำหนดให้พื้นที่ในบริเวณนั้นเป็นที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอให้ขอเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีโครงการที่เชียงใหม่ บริเวณเคหะชุมชนหนองหอยเนื้อที่ 52 ไร่ มีแนวคิดจะพัฒนาเป็นโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อผู้สูงอายุ และพาณิชยกรรม

ลำดับที่ 7 ตัวอย่างโครงการ่มเกล้า

ล่าสุด คณะรัฐมนตรี(ครม.) มอบหมายกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) โดยการเคหะแห่งชาติ จัดทำโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ภายใต้ชื่อ “โครงการบ้านเคหะกตัญญูคลองหลวง 1” ตั้งอยู่ในอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี  เพื่อรองรับปริมาณของกลุ่มผู้สูงอายุที่จะเพิ่มขึ้นทุกปี มีจำนวน 192 หน่วย วงเงินลงทุนรวม 417 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณเดือนมีนาคม 2562 และเข้าอยู่อาศัยได้ภายในปี 2563 และในปี 62 จะจัดทำโครงการบ้านเคหะกตัญญู (คลองหลวง 2) อีกจำนวน 168 หน่วย และยังมีโครงการที่กำลังศึกษาอยู่อีก เช่นที่ ลำลูกกาคลอง บางพลี บางเสาธง เป็นต้น

สำหรับแผนการพัฒนาที่อยู่อาศัยในปีงบประมาณ 2562 มีเป้าหมายดำเนินการพัฒนาที่อยู่อาศัยจำนวน 38,562 หน่วย ได้แก่ แผนยกระดับคุณภาพชีวิต (เช่า) จะดำเนินการจัดสร้างอาคารเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อยที่ยังไม่สามารถรับภาระที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ รวมทั้งเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐาน รวม 8,016 หน่วย 

แผนเสริมสร้างความมั่นคงด้านการอยู่อาศัย (เช่าซื้อ) จะดำเนินการจัดสร้างโครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนสำหรับผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง นักศึกษาจบใหม่ และครอบครัวขยาย รวม 4,967 หน่วยแผนพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับข้าราชการ จะดำเนินการจัดสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับข้าราชการชั้นผู้น้อย เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน รวม 8,655 หน่วย และ แผนความร่วมมือกับภาคเอกชน (บ้านประชารัฐ) สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและรายได้ปานกลาง เพื่อส่งเสริมความมั่นคงและยกระดับคุณภาพชีวิตด้านการอยู่อาศัยของประชาชนกลุ่มเป้าหมาย รวม 16,924 หน่วย 

ดร.ธัชพล กล่าวอีกว่า  ในปี 2562 จะเป็นปีแห่งคุณภาพและนวัตกรรม (Year of Quality and Innovation) เน้นปรับปรุงและพัฒนาแก้ไขปัญหาด้านต่าง ๆ โดยเน้นเรื่องคุณภาพการก่อสร้าง หาผู้รับเหมาที่มีคุณภาพ เน้นการควบคุมงานที่เข้มงวดมากขึ้น นอกจากนี้ยังเน้นเรื่องของการให้บริการ การนำ Smart Device เข้ามาใช้ทดแทนการทำงานของบุคคลากร โดยร่วมมือธนาคารกรุงไทยนำ OR Code เข้ามาใช้ชำระค่าเช่า / เช่าซื้อ ที่อยู่อาศัย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบระบบ รวมถึงการพัฒนา Application ด้านการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย เพื่อให้การรับเรื่องงานซ่อมแซมมีความรวดเร็วขึ้น ได้มีการใช้ระบบช่างชุมชนในการแก้ไขซ่อมแซมภายในโครงการ

ด้าน Innovation จะมีการนำโมเดลแบบจำลองสารสนเทศอาคารหรือ Building Information Modeling (BIM) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาสำหรับการออกแบบอาคารด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อควบคุมกระบวนการต่างๆ ให้สอดคล้อง ทั้งในเรื่องของแนวคิดการออกแบบ ระยะเวลาในการก่อสร้าง การควบคุมคุณภาพการก่อสร้าง รวมถึงการประสานงานกับส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง สามารถลดเวลาในส่วนของการเขียนแบบไปได้อย่างน้อย 30% ทำให้โครงการก่อสร้างเสร็จเร็วกว่าเดิม 

ทั้งนี้ การเคหะแห่งชาติยังพร้อมรับจัดตั้งศูนย์ข้อมูลที่อยู่อาศัย (Big Data) เพื่อเป็นการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยแบ่งระยะการทำงานออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 บูรณาการข้อมูลและเชื่อมโยงระบบ การเคหะแห่งชาติจะรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องโดยศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะเป็นศูนย์กลางในการวางระบบและนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัยเพื่อเผยแพร่ ระยะที่ 2 พัฒนาระบบและขยายโครงข่าย พัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นโดยประสานกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ICT) ในการเชื่อมโยงข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล รวมทั้งพัฒนาให้เป็นสากล ในปี 2562 และระยะที่ 3 วิเคราะห์ Big Data พัฒนาเต็มรูปแบบ เช่น สามารถวิเคราะห์และเก็บข้อมูลในรูปแบบ Big Data ในปี 2563

Baania มี Line แล้วนะ
ติดตามเรื่องราวอสังหาริมทรัพย์แบบอินเทรนด์ ได้ทุกวันผ่าน Line ID @baania