ไขปัญหาทุกเรื่องกุญแจ ที่คุณไม่รู้ !?

หลายคนเชื่อว่ากุญแจเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องมีติดตัว อย่างน้อย ๆ ก็กุญแจบ้าน เพราะหากไม่มีก็คงเข้าบ้านไม่ได้แน่นอน ปัจจุบันกุญแจมีให้เลือกหลายแบบ แต่จะเลือกกุญแจอย่างไรให้มีประสิทธิภาพในการปกป้องบ้านให้ปลอดภัย มาดูกันเลย

1. แบบกุญแจต่างๆ

สำหรับผู้ที่กำลังมองหากุญแจเพื่อใช้งานสำหรับประตูบ้าน ก่อนอื่นลองมาทำความรู้จักกับกุญแจประเภทต่าง ๆ กันก่อน เพราะปัจจุบันมีหลายประเภทให้เลือกใช้งาน ซึ่งก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไป ตามแต่ความเหมาะสมในการใช้งาน

• กุญแจสปริง กุญแจประเภทนี้ตัวเสื้อมักจะทำจากเหล็กหรือทองเหลือง มีหลายขนาดให้เลือกขึ้นอยู่กับการนำไปใช้งาน ข้อดีของกุญแจสปริงคือราคาถูก ล็อกง่ายน้ำหนักเบา และไม่ต้องคาดดอกกุญแจ ข้อเสียคือค่อนข้างเปราะบางกว่าประเภทอื่น เมื่อโดนทุบหรือโดนสภาพอากาศเย็นจัดก็จะลดความทนทานลง

• กุญแจรหัสวงแหวน เป็นกุญแจที่มีความปลอดภัยในการป้องกันมากกว่าประเภทอื่น เพราะภายในจะมีระบบแบบรหัส 8 – 9 ดิสก์ เหมาะสมหรับผู้ที่อยากป้องกันอุปกรณ์หรือบ้านให้ปลอดภัยจากโจร ขโมยที่มางัดแงะกุญแจ โดยระบบของกุญแจรหัสวงแหวนจะช่วยป้องกันความไม่ประสงค์ดีเหล่านี้ได้ในระดับหนึ่ง

• กุญแจระบบลูกปืน ตัววัสดุจะคล้ายกับกุญแจสปริงคือ ทำจากเหล็กหรือทองเหลืองแท้เพื่อทนต่อความชื้น กรดและฝน จึงเหมาะกับการใช้งานภายนอกบ้าน มีอายุการใช้งานที่ทนกว่าระบบสปริง สำหรับระบบลูกปืนที่เป็นเกรดพรีเมียม ตรงส่วนของวงกุญแจมักทำจากเหล็กโมริเดียม เพื่อป้องกันการเลื่อนหรือตัดงวงกุญแจ นอกจากนี้ยังมีระบบคาดอกเพื่อป้องกันเวลาลืมล็อกอีกด้วย

• ระบบกุญแจมาสเตอร์คีย์ ความพิเศษอยู่ตรงที่ กุญแจดอกเดียวสามารถใช้เปิดประตูได้หลายบ้าน โดยมีระบบการออกแบบที่ซับซ้อนกว่ากุญแจประเภทอื่น และยากต่อการทำกุญแจสำรอง เหมาะสำหรับบ้านที่มีหลายประตูที่ต้องการล็อกเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายคือ ไม่ต้องพกกุญแจหลาย ๆ อัน มีเพียงดอกเพียงดอกเดียวก็ใช้งานได้แล้ว

• ระบบกุญแจคีย์อะไลก์ สำหรับ Key alike (คีย์อะไลก์) เป็นกุญแจที่ทำจากทองเหลือง ออกแบบระบบด้วยความซับซ้อนเล็กน้อย เป็นกุญแจที่สามารถไขแม่กุญแจได้ทุกดอกในชุดเดียวกัน เหมาะสำหรับทำไว้เพื่อใช้ในครอบครัวที่มีคนจำนวนมาก

2. วิธีเลือกกุญแจ

หลักการเลือกกุญแจสำหรับล็อกบ้านนั้น ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่ต้องการใช้งาน อย่างเช่นต้องการล็อกเพื่อความปลอดภัยจากโจร หรือต้องการล็อกเพื่อป้องกันบุคคลอื่น ๆเข้าไปภายในบ้านเป็นต้น แต่อย่างหลังไม่น่าจะมีปัญหาในการเลือกมากนัก
ส่วนใหญ่แล้วคงต้องการกุญแจบ้านที่มีความปลอดภัยจากการโดนโจรกรรม ดังนั้นต้องดูสถานที่ตั้งของบ้านเป็นหลัก ว่าอยู่ในแหล่งชุมชนหรือในพื้นที่ที่มีคนพลุกพล่านหรือไม่ 
เพราะปัจจุบันกลุ่มมิจฉาชีพจะมีกรรไกรที่สามารถตัดเหล็กเพื่องัดเข้าบ้านได้อย่างสะดวก
ดังนั้นควรเลือกใช้กุญแจประเภทที่ป้องกันตัดเหล็กได้ แต่หากอยู่ในพื้นที่ที่ไม่เสี่ยงต่อการโดนตัดเหล็ก แนะนำให้ใช้กุญแจที่มีความแข็งแรงในระดับ 8 ขึ้นไปจะเหมาะสมมากกว่า
แต่ทั้งนี้ไม่ว่าจะป้องกันดีแค่ไหน ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังมีเครื่องมืออื่น ๆ ที่โจรสามารถนำมาใช้อย่างสะดวก เช่น การใช้อุปกรณ์พวกสว่านเจาะหรือการตัดเหล็กดัดเพื่องัดเข้าไป ฉะนั้นนอกจากการใช้กุญแจที่ปลอดภัยแล้ว ควรมีการติดตั้งระบบอื่น ๆ ร่วมด้วย

3. กุญแจแพงจะดีจริงเหรอ?

สำหรับกุญแจนั้นยิ่งมีระบบซับซ้อนหรือการป้องกันสูง ราคาก็จะแพงกว่ากุญแจทั่วไปตามประสิทธิภาพการใช้งาน แต่ทั้งนี้ก็ยังมีกุญแจอีกหลายประเภทที่ได้คุณภาพมาตรฐานแต่ราคาสมเหตุสมผล 
ดังนั้นหากจะหาคำตอบว่ากุญแจแพงดีกว่าหรือไม่นั้น คงต้องพิจารณาตามคุณสมบัติและความต้องการในการใช้งาน

4. กุญแจกันขโมย

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ไม่มีกุญแจประเภทไหนบนโลกนี้ที่สามารถป้องกันขโมยได้ 100% แต่จะมีกุญแจบางประเภทที่ช่วยลดอัตราการโดนโจรกรรมได้ โดยส่วนมากจะเป็นกุญแจประเภทวงแหวนและมาสเตอร์คีย์ ในส่วนของกุญแจรหัสวงแหวนนั้นโจรกรรมได้ค่อนข้างยากเพราะต้องใส่รหัส ส่วนกุญแจมาสเตอร์คีย์มีการทำหยักที่ซับซ้อนมากกว่าจึงไม่สามารถงัดได้ง่าย ๆ

5. แก้ปัญหากุญแจขึ้นสนิม

เมื่อใช้งานไปนาน ๆ แน่นอนว่ากุญแจอาจขึ้นสนิมได้ ทำให้อาจลำบากในการใช้งาน ดังนั้นจึงมีวิธีการแก้สนิมบนกุญแจมาฝาก ด้วยการใช้วัสดุง่าย ๆ หาได้ใกล้ตัว

น้ำส้มสายชู

น่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เพราะเป็นเครื่องปรุงในครัวเรือนแต่มีประสิทธิภาพในการขจัดสนิมที่เกาะกุญแจได้ วิธีการคือให้เทน้ำส้มสายชูใส่ภาชนะแล้วนำกุญแจลงไปแช่ค้างคืนทิ้งไว้ ตอนเช้าให้ใช้แปรงขัดออก สนิมที่เกาะอยู่ก็จะหลุดออกหมด

เบกกิ้งโซดา

นอกจากนำมาทำขนมแล้ว ยังมีสรรพคุณในการขจัดสนิมอีกด้วย สามารถหาซื้อเบกกิ้งโซดาได้ตามร้านขายอุปกรณ์ทำขนมทั่วไป วิธีการคือ ให้เทเบกกิ้งโซดาลงบนกุญแจที่มีสนิม จากนั้นทิ้งไว้สัก 1 ชั่วโมงแล้วใช้แปรงขัดแรง ๆ คราบสนิมที่ติดอยู่ก็จะหลุดออก

น้ำอัดลม

อาจจะเคยเห็นผ่านตากันมาบ้างในหลาย ๆ คลิปที่ใช้น้ำอัดลมมาจัดการกับสนิม ให้เทน้ำอัดลมใส่ภาชนะแล้วนำกุญแจลงไปแช่ทิ้งไว้ จากนั้นนำแปรงมาขัด เพียงเท่านี้สนิมที่เกาะอยู่ก็จะหลุดออกอย่างง่ายดาย

6. แก้ปัญหากุญแจหักคาประตู

หลายคนอาจจะเคยประสบปัญหานี้มาแล้ว อาจจะด้วยสาเหตุกุญแจเก่าเกินไปหรือใช้แรงบิดมากเกินไป ทำให้กุญแจหักคาประตู มาลองดูวิธีแก้เบื้องต้นด้วยตัวเองกันได้เลย

1. กุญแจหักไปในทิศทางแนวนอน ให้หาแทงเหล็กที่มีลักษณะปลายโค้งงอเล็กน้อย เสียบเข้าไปในรูกุญแจ เพื่อเกี่ยวส่วนที่หักคาด้านในอยู่ แล้วหมุนไปในทิศทางตรงกันข้ามเพื่อปลดล็อกออก

2. กุญแจหักไปในทิศทางอื่นแต่โผล่ออกมาเพียงเล็กน้อย ไม่สามารถใช้คีมหนีบได้ ให้หาไขควงขนาดเล็กมาแงะปลายกุญแจที่หักอยู่ให้หลุดออกมา

3. กุญแจหักที่มีลักษณะวงกลมคาอยู่ในรู ให้หาสว่านหัวเล็กขนาดประมาณ 2 มม. มาเจาะรูเล็ก ๆ ส่วนตรงกลางของกุญแจที่หักคาด้านใน เพราะอยู่ลึกมากจนไม่สามารถดึงออกมาได้ จากนั้นให้ใช้เหล็กเส้นเล็กเสียบเข้าไปและทากาวให้แน่น รอจนกาวแห้งค่อยดึงออกมา
แต่หากทำทั้ง 3 วิธีแล้วยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ควรเรียกช่างทำกุญแจหรือช่างผู้ชำนาญการมาแก้ไขให้จะดีที่สุด

7. ลืมกุญแจไว้ในบ้าน

เป็นปัญหาที่น่าหงุดหงิดใจนัก เพราะบางครั้งกำลังคิดอะไรเพลิน ๆ หรือจดจ่อกับความคิดอยู่ ก็อาจจะทำให้เผลอลืมล็อกบ้านโดยที่ลืมเอากุญแจออกมาด้วย หลายท่านมีกุญแจสำรองติดตัวไว้ก็โชคดีไป แต่หากไม่มีล่ะ? ลองมาดูวิธีแก้ไขเบื้องต้นจากสถานการณ์นี้ก่อน

วิธีที่ 1

หากมีบัตรเครดิตติดตัวอยู่ ให้พับแล้วสอดเข้าไปในร่องระหว่างประตูกับลูกบิด โดยสอดให้ลึกที่สุดระหว่างสลักลูกบิดกับวงกบ จากนั้นรูดบัตรลงแรง ๆ เพื่อให้สลักหลุดออกมา

วิธีที่ 2 

วิธีนี้ให้นำไขควงที่มีขนาดเล็กพอเหมาะกับช่องตรงกลางของรูเสียบกุญแจ แล้วบิดลูกบิดด้านนอก ก่อนจะดันไขควงเข้าไปจนสุด แล้วนำคีมหนีบไขควงเอาไว้เพื่อให้แน่นก่อนจะหมุนไปในทิศทางเดียวกันกับการใช้กุญแจปกติ เท่านี้สลักก็จะหลุดออกมา

วิธีที่ 3

ใช้ลวดหนีบกระดาษดัดให้ส่วนปลายงอตั้งฉาก แล้วเสียงประแจแบบหกเหลี่ยมเข้าไปในรูจากนั้นหมุนค้างไว้ แล้วแหย่คลิปหนีบกระดาษเข้าไปด้านบนของรูกุญแจจนกว่าสลักจะหลุด
แต่หากทำตามวิธีข้างต้นที่แนะนำแล้ว ยังไม่สามารถปลดสลักได้ แนะนำให้ตามช่างมืออาชีพมาแก้ไข จะทำให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด

สำหรับผู้ที่กำลังอยากจะเปลี่ยนกุญแจใหม่น่าจะได้คำตอบในใจกันบ้างแล้วว่าควรเลือกประเภทไหนมาใช้งาน หวังว่าจะถูกใจไม่มากก็น้อยนะครับสำหรับเรื่องกุญแจที่เราได้มาแนะนำในวันนี้