เคปฯ ผุดรร.บนเกาะส่วนตัว วางตำแหน่ง 6 ดาว-ราคาแพงสุดในสมุย

“เคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์” ทุ่มลงทุนกว่า 550 ล้านบาท ผุดโรงแรมใหม่บนเกาะส่วนตัว ลุยดันราคาพูลวิลล่าขึ้นแท่นแพงสุดในสมุย พร้อมกางแผนเปิดโรงแรมใหม่อีก 2 แห่งในพัทยาและอีสาน พร้อมซุ่มบิ๊กโปรเจ็กต์โรงแรม 3 แบรนด์ในโครงการเดียวแถบพัทยา ขึ้นแท่นหนึ่งในเจ้าตลาดโรงแรมโซนภาคตะวันออก

นายภูมิภัทร นาวานุเคราะห์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว ในเครือเคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวโรงแรมใหม่ระดับ 6 ดาวชื่อ เคปฟาน ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งที่ 23 ของเครือเคปฯ ตั้งอยู่บนเกาะฟานขนาด 15 ไร่ เป็นเกาะส่วนตัวใกล้เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ใกล้สนามบิน ใช้เงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 550 ล้านบาท (รวมราคาที่ดินแล้ว) ถือเป็นการลงทุนที่สูงสำหรับพูลวิลล่าแบบร่วมสมัย จำนวน 22 หลัง แบ่งเป็นแบบ 1 ห้องนอน จำนวน 20 หลัง และแบบ 2 ห้องนอน จำนวน 2 หลัง มีขนาดตั้งแต่ 220-570 ตารางเมตร โดยเน้นความเป็นส่วนตัวมาเป็นจุดขาย

โดยในจำนวนวิลล่าทั้งหมดนี้ มีไพรเวตพูลวิลล่าตั้งอยู่บนเกาะฟานน้อย เกาะขนาดเล็กใกล้กับเกาะฟาน เป็นวิลล่าที่อยู่บนเกาะส่วนตัวแห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นดาวเด่นที่สุดของโครงการนี้ คาดเปิดให้บริการได้เดือนสิงหาคมนี้ซึ่งตรงกับฤดูการท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ของเกาะสมุยพอดี และทำให้เครือเคปฯ มีจำนวนห้องพักทั้งหมด 3,471 ห้องพัก มากเป็นอันดับต้น ๆ ของเชนโรงแรมไทยที่มีห้องพักในไทย

ทั้งนี้ วางเป้าหมายอัตราเข้าพักในปีแรกที่เปิดให้บริการที่ 80% และเพิ่มขึ้นเป็น 85% ในปี 2562 โดยปัจจุบันมีลูกค้ากลุ่มจัดงานแต่งงานติดต่อมาจัดงานแต่งแบบส่วนตัวแล้ว 2 กลุ่ม จากทั้งตลาดคนไทยและตลาดต่างชาติ โดยยืนยันการจองมาแล้ว 1 กลุ่ม สำหรับค่าใช้จ่ายแบบเหมาห้องพักทั้งเกาะรวมค่าอาหารอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านบาทต่อวัน

“เนื่องจากเราใช้เงินลงทุนจำนวนมาก และเป็นโครงการโรงแรม 6 ดาวแห่งแรกของเครือเคปฯ เราจึงหวังสูงกับโครงการนี้มากพอสมควร ตั้งราคาขายห้องพักเริ่มต้นที่ 2 หมื่นบาทต่อคืน ส่วนราคาแพงสุดอยู่ที่ 1.2 แสนบาทต่อคืน ซึ่งก็คือวิลล่าหลังเดียวบนเกาะฟานน้อย โดยเคปฟานถือเป็นโรงแรมแรกของเครือเคปฯ ที่มีราคาแพงมากที่สุด และต้องการผลักดันราคาห้องพักให้สูงที่สุดของเกาะสมุยด้วย” นายภูมิภัทรกล่าวและว่า

นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนพัฒนาโรงแรมแคนทารี่แห่งใหม่ ขนาด 150 ห้องพัก บนพื้นที่ 10 ไร่ อยู่บนเกาะสมุยฝั่งหาดเชิงมน ตรงข้ามเกาะฟานด้วย

นายภูมิภัทรยังกล่าวถึงภาพรวมของตลาดโรงแรมระดับไฮเอนด์บนเกาะสมุยด้วยว่า ปัจจุบันมีโรงแรม 6 ดาวแบรนด์ดังเข้ามาเปิดให้บริการจำนวนมาก เช่น ริทซ์ คาร์ลตัน, ซิกส์เซนส์, ศาลา, ดับเบิลยู และโฟร์ซีซันส์ โดยโฟร์ซีซันส์เป็นแบรนด์โรงแรมที่มีการขายห้องพักในราคาเฉลี่ยสูงที่สุดของเกาะสมุยในขณะนี้ และด้วยราคาห้องพักในภาพรวมประกอบกับค่าใช้จ่ายด้านการเดินทาง เช่น ตั๋วเครื่องบิน และค่าครองชีพบนเกาะสมุยซึ่งสูงกว่าจุดหมายอื่น ๆ ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนส่วนใหญ่ยังเป็นชาวต่างชาติกว่า 90% ทั้งเยอรมัน อังกฤษ ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้

ขณะที่คนไทยยังเดินทางไปเกาะสมุยจำนวนน้อย มีสัดส่วนเพียง 10% เท่านั้น นอกจากจะเป็นจุดหมายระดับไฮเอนด์แล้ว เกาะสมุยยังเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาตลอดปี เนื่องจากมีช่วงนอกฤดูการท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น) สั้นกว่าฝั่งอันดามัน ทำให้นักท่องเที่ยวรวมกว่า 2.5 ล้านคนต่อปี

นายภูมิภัทรกล่าวเพิ่มเติมว่า ตามแผนขยายธุรกิจโรงแรมของเครือเคปฯ ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า นอกเหนือจากโรงแรมเคปฟานแล้ว จะเปิดโรงแรมใหม่เพิ่มอีกอย่างน้อย 2 แห่ง โดยที่เริ่มก่อสร้างแล้วคือโรงแรมเคป พัทยา เป็นระดับ 6 ดาว ขนาด 35 ห้องพัก ตั้งอยู่บนพื้นที่แถบนาเกลือ งบฯลงทุนน่าจะมากกว่า 500 ล้านบาท

ส่วนอีกแห่งกำลังมองโลเกชั่นในภาคอีสาน หลังจากมีโรงแรมแคนทารี่ โคราชแล้ว ผลตอบรับจากลูกค้าดีมาก มีอัตราเข้าพัก 85% ประกอบกับในอนาคตมีปัจจัยสนับสนุนอย่างเมกะโปรเจ็กต์ เช่น โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงพุ่งตรงไปยังนครราชสีมา ทำให้โรงแรมแห่งนี้น่าจะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นต่อเนื่อง

“และเมื่อโฟกัสในพื้นที่ภาคตะวันออกซึ่งมีการแข่งขันสูง หลังจากมีผู้ประกอบการเข้าไปเปิดโรงแรมจำนวนมากขึ้น ปัจจุบันเครือเคปฯมีโรงแรมในพื้นที่ภาคตะวันออกรวม 11 แห่ง ได้แก่ โรงแรมในศรีราชา 6 แห่ง ระยอง 3 แห่ง และปราจีนบุรี 2 แห่ง นอกจากนี้ในอนาคตยังมีแผนก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ในเมืองพัทยาอีกโครงการ มีโรงแรม 3 แบรนด์ของเครือเคปฯ ทั้งแบรนด์เคป แคนทารี่ และคามิโอในพื้นที่เดียวกัน ผสมผสานกับคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์และศูนย์ค้าปลีกขนาดเล็ก” นายภูมิภัทรกล่าว

ที่มา : ประชาชาติ