แมว สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่มีหลากหลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นเปอร์เซีย สก็อตติช โฟล์ด อเมริกันซ็อตแฮร์ และแมวโคราช ล้วนเป็นสายพันธุ์ที่กำลังได้รับความนิยมของเหล่าบรรดาทาสแมวทั้งหลาย หากนำน้องแมวมาเลี้ยงแล้ว หลายท่านคงกังวลใจเรื่องการดูแลและทำความสะอาด Baania จึงขอนำทุกท่านมารู้จักกับโรคที่เกิดจากกลิ่น และ 7 วิธีกำจัดกลิ่นขี้แมว ที่ทำได้ง่าย แถมไร้ปัญหาเรื่องกลิ่น
มาเริ่มกันที่โรคทอกโซพลาสโมซิส (Toxoplasmosis) หรือโรคขี้แมว เป็นโรคติดเชื้อจากปรสิตที่มีชื่อว่า Toxoplasma gondii. พบได้จากมูลแมว โดยปกติจะไม่ก่ออันตราย หากผู้สัมผัสมีสุขภาพแข็งแรง และมีภูมิคุ้มกันที่ดี มาดูกันว่าอาการของโรคมีลักษณะอย่างไร
ผู้ป่วยจะไม่มีอาการแสดงแม้ได้รับเชื้อเข้าไปแล้ว แต่บางท่านจะมีอาการคล้ายไข้หวัด มีไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อและมีอาการเจ็บคอร่วมด้วย บางท่านอาจจะหายได้เอง แต่สำหรับบางกลุ่มนั้น ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนเพราะเชื้ออาจลุกลามเข้าสู่ร่างกายส่วนสำคัญ ทำให้เกิดปอดอักเสบ และส่งผลต่อสมอง ดวงตา หรืออวัยวะอื่น ๆ
สำหรับหญิงตั้งครรภ์ ไม่ควรไปสัมผัสกับมูลแมว เนื่องจากช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ จะทำให้ทารกติดเชื้อได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ส่งผลต่อการแท้ง หรือทารกอาจจะพิการแต่กำเนิดบางรายอาจจะไม่แสดงอาการตอนแรกเกิด แต่มีอาการในวัยเด็ก เช่น มีการชัก พัฒนาการช้า หรือตาบอด เป็นต้น
ให้เลี้ยงแมวแบบระบบปิด และให้อาหารแมวเป็นอาหารเม็ด หรืออาหารกระป๋องจะเหมาะสมกว่าการให้ทานเนื้อดิบ
ทำความสะอาดกระบะทรายโดยการสวมถุงมือและหน้ากาก หลังเสร็จภารกิจให้ล้างมือด้วยสบู่
ท่านสามารถป้องกันโรคได้ง่าย ๆ เพียงแค่ท่านไม่ไปสัมผัสกับมูลสัตว์โดยตรง รวมถึงหมั่นทำความสะอาดกรงสัตว์เลี้ยง และอุปกรณ์เป็นประจำ
มาถึงหัวข้อที่สอง กับ 7 วิธีกำจัดขี้แมว ให้บ้านปราศจากกลิ่นไม่พึงประสงค์และห่างไกลจากโรคที่เกิดจากแมว
โดยการผสมน้ำส้มสายชูและน้ำเปล่าในอัตราส่วนที่เท่ากัน 1:1 เมื่อผสมเสร็จแล้ว ให้นำมาเทลงในขวดสเปรย์ ทำการพ่นไปยังจุดที่แมวฉี่ไว้ ต่อมาให้นำกระดาษทิชชูมาซับ และเป่าให้แห้งด้วยไดร์เป่าผม จึงนำเบกกิ้งโซดาโรยกลบขี้แมวให้ทั่ว ถัดมาใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (H2O2) ¼ ถ้วยตวง ผสมกับน้ำยาล้างจาน 1 ช้อนชา ผสมให้เข้ากันแล้วนำมาฉีดบนเบกกิ้งโซดา ใช้แปรงขัดเบา ๆ ปล่อยไว้ให้แห้ง แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดทำความสะอาดพื้นที่อีกครั้ง
นำมาบดละเอียดและผสมกับน้ำเปล่าให้เข้ากัน จากนั้นนำไปราดบริเวณที่น้องแมวอึทิ้งไว้ เพียงเท่านี้กลิ่นก็จะหายไป และน้องแมวก็จะไม่เข้ามาบริเวณดังกล่าวอีกด้วย
สำหรับบ้านหลังใด ที่มีกากกาแฟสดหลงเหลืออยู่ หรือหากบ้านใดไม่มี ก็สามารถไปซื้อได้ตามร้านกาแฟต่าง ๆ ซึ่งมีราคาไม่แพง โดยนำกากกาแฟมาผสมเข้ากับผิวเปลือกส้ม แล้วนำไปกลบไว้ในบริเวณที่แมวอึ หรือฉี่บ่อย ๆ จะช่วยให้กลิ่นจางหาย น้องแมวจะไม่เข้ามาขับถ่ายซ้ำอีก
โดยทำการต้มน้ำให้เดือด แล้วเติมน้ำส้มสายชูลงไปพอประมาณ จากนั้นนำไปราดลงบนบริเวณที่แมวฉี่ พื้นจะสะอาดแถมช่วยดับกลิ่น
นำเบกกิ้งโซดามาผสมกับน้ำเปล่า เทใส่ขวดสเปรย์และฉีดพ่นลงบริเวณที่แมวขับถ่าย จะช่วยลดกลิ่นฉุนลง
หลายท่านรู้จักกันดีว่า น้ำ EM มีส่วนช่วยในการปรับสภาพดิน แต่รู้หรือไม่ว่า น้ำหมักยังสามารถดับกลิ่นได้อีกด้วย เพียงแค่นำน้ำหมักมาฉีดทิ้งไว้ทั่วบริเวณ แล้วทิ้งไว้ 1 - 2 ชั่วโมง กลิ่นขี้แมวก็จะหายไป
โดยนำดินทรายมากลบกลิ่นไว้ และหากท่านไม่ต้องการให้น้องแมวขับถ่ายซ้ำ เพียงนำต้นไม้ที่ให้กลิ่นหอมมาปลูกไว้ ให้ทั้งสวนสวยและไร้กลิ่นอีกด้วย
เป็นอย่างไรกันบ้าง กับ 7 วิธีกำจัดกลิ่นขี้แมว ไม่ยากอย่างที่คิดเลยใช่ไหม แถมยังหาวัสดุจากที่บ้านได้ง่าย ๆ อีกด้วย ประหยัดทั้งงบ และไม่เสียเวลานานนัก เท่านี้บ้านของคุณก็ดูสะอาด ไร้กลิ่นอึแมวมาคอยกวนใจ
ทราบถึงวิธีกำจัดอึแมวกันไปแล้ว แต่ยังไม่ได้กล่าวถึงการฝึกน้องแมวให้ขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง เพราะจะช่วยให้เหล่าบรรดาทาสแมวไม่ต้องเหนื่อย และเสียเวลาในแต่ละวันไปกับการเก็บอึแมวนั่นเอง มาดูกันสิว่ามีวิธีอะไรบ้าง
ควรเลือกวางในบริเวณที่ไม่มีคนพลุกพล่าน อาจจะเป็นมุมใดมุมหนึ่งของบ้าน และควรวางไว้ในจุดที่ห่างจากจุดวางอาหาร เพื่อให้น้องแมวของคุณนั้นมีสุขภาพและอนามัยที่ดี
เนื่องจากน้องแมวมักไม่ชอบใช้กระบะทรายร่วมกัน หากบ้านไหนเลี้ยงหลายตัว แนะนำให้ซื้อเพิ่มจากจำนวนน้องแมวสัก 1 อัน เช่น บ้านไหนมีแมว 3 ตัว ควรซื้อกระบะทราย 4 อัน เป็นต้น
แม้ว่าปกติ แมวจะสามารถเรียนรู้การใช้กระบะทรายได้ด้วยตนเองตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างไร ควรให้เขาได้ทำความรู้จักและคุ้นเคยเสียก่อน โดยสังเกตว่า น้องแมวอยากเข้าห้องน้ำไหม หรือทุก ๆ มื้อเช้าหลังจากทานเสร็จให้พาน้องแมวมายังกระบะทราย เพราะเขาจะเรียนรู้อัตโนมัติว่า ถ้าอยากอึ เขาต้องมาที่นี่
หากน้องสามารถใช้กระบะทรายได้แล้ว ก็ควรจะได้รับการชมเชย เช่น ลูบหัว พูดเสียงสอง หรือทำในสิ่งที่น้องชอบ เพราะเป็นแรงกระตุ้นให้น้องใช้กระบะทรายมากขึ้น
หมั่นทำความสะอาดกระบะทรายทุกวัน โดยหมั่นตักทรายและของเสียอื่น ๆ ทิ้งไป และทุกสัปดาห์ควรเปลี่ยนทรายทั้งกระบะรวมไปถึงการล้างกระบะทราย
หากน้องแมวถ่ายเลอะเทอะไม่ลงกระบะ ห้ามตีน้องอย่างเด็ดขาด หรือแม้กระทั่งการทำเสียงดุ เพราะถ้าเปรียบเทียบกับเราก็คงไม่มีใครชอบเหมือนกัน ให้ท่านทำการเพิกเฉย ไม่สนใจ หรืออาจจะอุ้มมาดังกระบะทราย เพื่อให้เขาเข้าใจและเรียนรู้ว่าที่ถูกต้องคือ การขับถ่ายในกระบะ
จบกันไปแล้วกับเรื่องแมว ๆ ที่เหล่าบรรดาทาสแมวต้องถูกใจ กับ 7 วิธีกำจัดกลิ่นขี้แมว ที่ไม่ได้มีแค่วิธีกำจัดเพียงเท่านั้น ยังสอดแทรกการฝึกน้องให้ขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง และโรคที่สามารถเกิดได้จากมูล หรือปัสสาวะของน้องแมว ทาง Baania หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุกท่านที่กำลังเลี้ยงน้องแมวแสนน่ารักควบคู่ไปพร้อมกับการมีบ้านที่สะอาดน่าอยู่
ที่มาภาพประกอบ :