Baania
Baania
จังหวัด
ประเภทประกาศ
ประเภทอสังหาริมทรัพย์
ราคา

วัสดุป้องกันเสียงรบกวนคืออะไร ทำไมถึงจำเป็น

x
คลิกที่นี่ เพื่อฟังบทความ

ทำไมถึงต้องมีการใช้วัสดุป้องกันเสียงรบกวน นี่คงเป็นคำถามที่หลายๆ คนไม่เข้าใจว่าทำไมต้องใช้วัสดุประเภทนี้ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ทุกบ้านที่สามารถอยู่อย่างเงียบสงบโดยไม่มีเสียงรบกวนจากภายนอกทะลุเข้ามาให้เกิดความรำคาญ ในปัจจุบันเสียงรบกวนจากภายนอกนั้นมีมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่จะเกิดจากการขยายตัวของที่พักอาศัย ระบบขนส่ง หรือการอยู่ร่วมกันกับคนหมู่มากในคอนโดมิเนียม ซึ่งด้วยเหตุผลต่างๆ เหล่าถ้าต้องการความสงบในที่พักอาศัยจำเป็นต้องใช้วัสดุป้องกันเสียงรบกวน  

1. ต้นเหตุแห่งเสียงรบกวน

มลพิษทางเสียง หรือเสียงรบกวนที่เข้ามาสร้างรำคาญในการพักผ่อนซึ่งเป็นกิจกรรมที่ต้องการความสงบเป็นอย่างมาก ซึ่งเสียงรบกวนเหล่านี้จะสร้างปัญหาให้กับสุขภาพไม่ว่าจะเป็นทางกาย หรือทางจิตใจ โดยเฉพาะผู้ที่มีที่พักอาศัยอยู่ในเขตชุมชนที่มีผู้คนพลุกพล่าน มีที่พักติดถนน ใกล้สนามบิน ใกล้โรงงานอุตสาหกรรม อยู่ในคอนโดมิเนียมที่มีคนเยอะ หรืออยู่ใกล้สถานที่ต่างๆ ที่สร้างเสียงดังรบกวนเป็นประจำ รวมไปถึงกิจกรรมต่างๆ ภายในบ้านที่อาจจะสร้างเสียงรบกวนคนในบ้านเองด้วย

ต้นเหตุ

2. ทำไมเสียงรบกวนถึงเข้ามาได้

การที่มีเสียงรบกวนเข้ามาในที่พักอาศัยนั้นเกิดจากการที่มีช่องว่างของรอยต่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประตู หน้าต่าง หลังคา ฝ้าเพดาน ซึ่งการที่สิ่งต่างๆ เหล่านั้นถึงแม้ว่าจะปิดสนิทแล้วแต่ยังมีเสียงรบกวนจากภายนอกเข้ามา ซึ่งวิธีการป้องกันเสียงรบกวนคือการหาทางปิดช่องว่างต่างๆ เหล่านั้นให้ได้มากที่สุด เพื่อลดเสียงรบกวนจากภายนอกให้เข้ามาภายในที่พักอาศัยได้น้อยที่สุดนั่นเอง 

เสียงรบกวนถึงเข้ามา

3. วิธีการป้องกันเสียงรบกวน

เสียงรบกวนทั้ง 2 ประเภทไม่ว่าจะเป็นเสียงจากภายนอก หรือเสียงที่เกิดภายในบ้านล้วนแต่เป็นการรบกวนทั้งสิ้น สำหรับเสียงรบกวนจากภายนอกนั้นเข้ามาทางช่องว่างๆ ต่างของบ้าน การป้องกันเสียงรบกวนไม่ให้เข้ามาได้คือการอุดช่องว่างเหล่านั้นให้หมด รวมไปถึงการเลือกใช้วัสดุต่างๆ ทั้งภายใน และภายนอกบ้านเพื่อให้เสียงรบกวนสามารถสร้างความรำคาญได้น้อยที่สุดนั่นเอง 

  • ปิดช่องว่างรอบบ้านโดยเฉพาะช่องว่างที่ประตู การที่ปิดประตูรอบบ้านสนิทแล้วแต่ยังมีเสียงรบกวนเข้ามาได้แสดงว่ารอบบ้านต้องมีช่องว่าง ซึ่งช่องว่างส่วนมากจะอยู่ที่ด้านบน และด้านล่างของประตู รวมไปถึงขอบวงกบ และรอยรั่วต่างๆ ที่ผนังบ้าน การถ้าเป็นช่องว่างที่ประตู วิธีการแก้ไขคือใช้อุปกรณ์กั้นประตูซึ่งเป็นแผ่นยางที่สามารถอุดช่องว่างของประตูได้เป็นอย่างดี ส่วนถ้าเป็นที่วงกบให้ใช้ซิลิโคนอุดช่องว่าง ส่วนถ้ามีรอยร้าวที่ผนังให้ได้อุปกรณ์ซ่อมแซมรอยร้าวจัดการให้เรียบร้อย แต่ถ้าต้องการจัดการปัญหาเรื่องประตูให้เรียบร้อย การใช้ประตูเก็บเสียง หรือประตูกันเสียงก็สามารถช่วยได้ เพราะประตูเหล่านี้ถูกออกแบบมาให้มีความสามารถในการป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้เป็นอย่างดีมากกว่าประตูทั่วไปแบบเทียบกันไม่ได้  
  • ตรวจดูหน้าต่าง หน้าต่างก็เป็นหนึ่งในช่องทางที่เสียงสามารถลอดเข้ามาสร้างความรบกวนภายในบ้านได้ เพราะส่วนมากหน้าต่างมักจะมีช่องว่างโดยเฉพาะหน้าต่างที่มีกรอบบานเป็นไม้ การเลือกใช้หน้าต่างที่เป็นกรอบอลูมิเนียม หรือบานกระจก จะช่วยป้องกันเสียงรบกวนที่เข้ามาจากภายนอกได้ดีกว่า
  • ควรมีฝ้าเพดาน ในความเป็นจริงแล้วฝ้าเพดานสามารถป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว เพราะฝ้าเพดานจะสามารถกั้นเสียงรบกวนที่เข้ามาทางรอยต่อต่างๆ ของหลังคาได้เป็นอย่างดี ยิ่งถ้าเป็นผ้าเพดานแบบที่มีฉนวนกันความร้อนก็จะสามารถป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีกว่าเดิม
  • วอลเปเปอร์ต้องแบบหนา วอลเปเปอร์ในปัจจุบันนอกจากจะเป็นวัสดุที่นำมาตกแต่งห้องได้แล้ว ยังมีความสามารถในการป้องกันเสียงรบกวนได้อีกด้วย เพราะมีวอลเปเปอร์แบบหนาที่ผลิตจาก PE Form ซึ่งความหนาของวอลเปเปอร์จะช่วยดูดซับเสียงรบกวนได้ดี รวมไปถึงวอลเปเปอร์แบบสามมิติที่ไม่เรียบ ซึ่งความไม่เรียบของวอลเปเปอร์จะสามารถช่วยดูดซับเสียงได้อีกด้วย 
  • ผ้าม่านกันเสียง หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าผ้าม่านนั้นสามารถช่วยกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ โดยเฉพาะผ้าม่านที่เป็นผ้าเนื้อหนา เนื่องจากความหนาของผ้าจะช่วยดูดซับเสียงต่างๆ ที่เข้ามากระทบผ้าม่านได้เป็นอย่างดี และในปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีในการทอผ้าม่านสำหรับดูดซับเสียงขึ้นมา ทำให้ผ้าม่านนั้นมีน้ำหนักเบากว่า แต่สามารถดูดซับเสียงได้มากกว่า
  • วางเฟอร์นิเจอร์ไว้ที่ผนัง การวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆ ไว้ที่ผนังนั้นเป็นอีกหนึ่งวิธีการที่ได้ผลสำหรับการกำจัดเสียงสะท้อนที่เกิดขึ้นภายในบ้านที่เกิดขึ้นจากเสียงรบกวนภายนอก เพราะว่าเมื่อเสียงรบกวนจากภายนอกเข้ามาในบ้านแล้วไปเจอผนัง เสียงเหล่านั้นก็จะสะท้อนไปมา การนำเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆ หรือเฟอร์นิเจอร์ Built – in ไปวางที่ผนังคือการให้เฟอร์นิเจอร์เหล่านั้นดูดเสียงรบกวนไม่ให้สะท้อนไปมานั่นเอง
  • พรมหนาๆ สามารถดูดซับเสียงได้ การเลือกใช้พรมปูพื้นห้องนั้นถ้าใช้พรมแบบหนานอกจากจะได้ในเรื่องของความสวยงามแล้ว ความหนาของพรมยังสามารถดูดซับเสียงสะท้อนต่างๆ ภายในห้องได้เป็นอย่างดี
  • ปลูกต้นไม้กันเสียง การปลูกต้นไม่ที่มีใบหนา หรือมีลักษณะเป็นพุ่มบริเวณรอบๆ บ้าน สามารถช่วยดูดซับเสียงรบกวนจากภายนอกไม่ให้เข้ามาถึงบริเวณบ้านได้ ดังนั้นการปลูกต้นไม้รอบบ้านนอกจากจะเป็นการช่วยดูดซับมลพิษ และฝุ่นละอองแล้ว ยังสามารถช่วยจัดการปัญหาในเรื่องเสียงรบกวนจากภายนอกได้อีกด้วย 

วิธีการป้องกัน

4. ฉนวนกันเสียงแตกต่างจากแผ่นดูดซับเสียงอย่างไร

ความแตกต่างของวัสดุทั้งสองประเภทนี้ยังเป็นที่สงสัยของหลายๆ คน ซึ่งวัสดุทั้งสองแบบนี้มีการทำงานที่แตกต่างกัน การทำความเข้าใจเกี่ยวกับความแตกต่างของฉนวนกันเสียงกับแผ่นดูดวับเสียงจะสามารถช่วยให้จัดการปัญหาเรื่องเสียงรบกวนได้ง่ายขึ้น 

ฉนวนกันเสียง คือวัสดุที่มีหน้าที่กั้นเสียงไม่ให้ผ่านออกไป ไม่ว่าจะเป็นการกั้นเสียงจากภายในไม่ให้ออกไปสู่ภายนอก หรือกั้นเสียงจากภายนอกไม่ให้เข้ามารบกวน โดยฉนวนกันเสียงนั้นเน้นการใช้งานกับผนัง ซึ่งสามารถใช้ได้กับผนังที่เป็นการก่ออิฐ หรือผนังที่สร้างจากโครงเบาก็ได้ และฉนวนกันเสียงยังสามารถติดตั้งบนฝ้าเพดานได้ด้วย 

แผ่นดูดซับเสียง เป็นวัสดุที่ถูกออกแบบมาให้ลดเสียงสะท้อนที่เกิดขึ้นภายในห้อง ซึ่งอาจจะเป็นเสียงที่เกิดจากกิจกรรมต่างๆ ภายในห้อง ที่จะทำให้การสื่อสารพูดคุยในห้องนั้นถูกรบกวนจากเสียงสะท้อน ห้องที่นิยมใช้แผ่นดูดซับเสียงจะเป็นห้องทำงาน ห้องประชุม ห้องสัมมนา ที่ไม่ต้องการให้มีเสียงสะท้อนต่างๆ มารบกวนนั่นเอง โดยแผ่นดูดซับเสียงมีการออกแบบมาให้ใช้ได้สำหรับผนัง ฝ้าเพดาน พื้นห้อง 

ดังนั้นจึงสามารถสรุปได้ว่าการเลือกใช้วัสดุทั้งสองประเภทนั้นต้องพิจารณาในเรื่องความต้องการจัดการกับเสียงในรูปแบบใด ถ้าต้องการปิดกั้นเสียงจากภายนอกให้ใช้ฉนวนกันเสียง ถ้าต้องการป้องกันเสียงสะท้อนที่รบกวนภายในห้องให้ใช้แผ่นดูดซับเสียง 

ฉนวนกันเสียง

5. เสียงรบกวนภายในคอนโดมิเนียม

การพักอาศัยในคอนโดมิเนียมนั้นหลีกเลี่ยงปัญหาเรื่องเสียงรบกวนได้ยากมาก เนื่องจากเป็นสถานที่ซึ่งมีบุคคลจำนวนมากอาศัยอยู่ และเป็นการอยู่ที่ใกล้ชิดกันแบบผนังชนผนัง การป้องกันเสียงรบกวนสำหรับห้องภายในคอนโดมิเนียมนั้นเป็นการป้องกันแบบ 2 ทาง คือป้องกันไม่ให้เสียงจากห้องเราไปรบกวนห้องคนอื่น และป้องกันไม่ให้เสียงจากห้องคนอื่นเข้ามารบกวนห้องเรานั่นเองคอนโดมิเนียมนั้นจะมีอยู่ 4 จุดใหญ่ที่เสียงรบกวนสามารถผ่านเข้าออกได้ นั่นคือ

  • ประตู และหน้าต่าง ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการติดยางกันเสียงที่ประตูให้สนิท หรือใช้ซิลิโคนอุดช่องว่างที่หน้าต่าง
  • ปลั๊กไฟ เนื่องจากเป็นพักอาศัยที่ใช้ผนังร่วมกัน ปลั๊กไฟจึงเป็นอีกหนึ่งจุดที่จะมีเสียงรบกวนผ่านไปได้ถ้าตำแหน่งปลั๊กไฟนั้นตรงกับห้องข้างๆ วิธีแก้ไขคือการใช้ซิลิโคนกันเสียงอุดรอบปลั๊กไฟ หรือย้ายตำแหนงปลั๊กไฟใหม่ไม่ให้ตรงกัน
  • โครงสร้างอาคาร โครงสร้างอาคารสามารถสร้างเสียงรบกวนได้ ซึ่งอาจเกิดจากการสั่นสะเทือนต่างๆ ภายในอาคารไม่ว่าจะเสียงปิดประตูห้อง เสียงกระโดด ซึ่งการสั่นสะเทือนนั้นได้ไหลมาตามโครงสร้างอาคาร ทำให้เกิดเสียงรบกวนในวงกว้าง และเป็นเรื่องที่แก้ไขได้ลำบาก วิธีการแก้ไชปัญหานี้ต้องติดผนังกั้นเสียง และติดวัสดุลดเสียงในบริเวณที่ทำให้เกิดการสั่นสะเทือน

เสียงรบกวนในคอนโดมิเนียม

จากบทความนี้จะเห็นได้ว่าวัสดุป้องกันเสียงรบกวนนั้นมีความสำคัญมากเพียงใดในการใช้ชีวิตท่ามกลางผู้คนมากมายในเมืองใหญ่ การเลือกวัสดุป้องเสียงรบกวนที่เหมาะสม และใช้งานได้อย่างถูกต้องจะสามารถช่วยบรรเทาเสียงรบกวนต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ เมื่อไม่มีเสียงรบกวนแล้วการพักผ่อนอย่างมีความสุขในที่พักอาศัยก็เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกๆ วัน  

ประกาศยอดนิยม ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร

โครงการยอดนิยม ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร