พฤกษาเร่งบุกภูมิภาคส่งทาวน์เฮาส์เจาะตลาดเชียงใหม่

แม้ตลาดที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮาส์จะมีการแข่งขันที่รุนแรงมาอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับ บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นเจ้าตลาดทาวน์เฮาส์มายาวนานกว่า 10 ปี ด้วยส่วนแบ่ง 22-23% ของตลาดทาวน์เฮาส์โดยรวมในปีนี้ที่คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 88,705 ล้านบาท นอกจากภารกิจการรักษาแชมป์ในตลาดทาวน์เฮาส์ที่อุณหภูมิการแข่งขันร้อนระอุ เป็นสิ่งที่จะต้องทำอยู่แล้ว เหนือสิ่งอื่นใดคือความตั้งใจของ ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งกิจการคือ ต้องการเห็นคนไทยทุกคนมี "บ้าน"  ซึ่งทาวน์เฮาส์ถือเป็นที่อยู่อาศัยที่เข้ามาตอบโจทย์แนวคิดของ ซีอีโอ พฤกษา เพราะถือเป็นที่อยู่อาศัยขั้นพื้นฐานของคนวัยเริ่มทำงาน และกลุ่มคนที่เริ่มต้นสร้างครอบครัว

ในปีนี้ พฤกษาจึงปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ โดยการเพิ่มธุรกิจ พฤกษา เรียลเอสเตท ทาวน์เฮาส์ เป็นอีกหนึ่ง Business Unit (BU) เพื่อกำกับดูแลธุรกิจทาวน์เฮาส์ที่มีสัดส่วนสูงถึง 60% ของพอร์ตรวมทั้งหมดของบริษัท ให้เกิดความคล่องตัวสำหรับการเดินหน้าสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมอบหมายให้ ธีรเดช เกิดสำอางค์ ที่คลุกคลีอยู่กับธุรกิจทาวน์เฮาส์ของพฤกษามายาวนานเกือบ 20 ปี พัฒนาทาวน์เฮาส์ให้พฤกษามาแล้วกว่า 370 โครงการ 120,000 ยูนิต ขึ้นเป็นแม่ทัพในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจทาวน์เฮาส์ ของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)

เร่งขยายตลาดทาวน์เฮาส์ ชูคุณภาพ-บริการ

ธีรเดช เกิดสำอางค์ ประเมินว่า ตลาดทาวน์เฮาส์ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลในปี 2561 คาดว่ามีมูลค่าตลาดประมาณ 88,705 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมาประมาณ 14% โดยกลุ่มธุรกิจทาวน์เฮาส์ ยังถือเป็นพอร์ตหลักของพฤกษา จึงตั้งเป้ารักษาความเป็นเจ้าตลาดเอาไว้ให้ได้ โดยมีแผนที่จะขยายกลุ่มลูกค้าไปยังทาวน์เฮาส์ในระดับราคา 5-7 ล้านบาทมากขึ้น ขณะเดียวกันยังคงรุกตลาดระดับกลาง ราคา 1.5-2 ล้านบาท และ 2-3 ล้านบาท ซึ่งพฤกษาเป็นผู้นำตลาดในระดับราคานี้อยู่แล้ว รวมทั้งการรุกสู่ตลาดภูมิภาคให้มากยิ่งขึ้น

นอกจากการขยายตลาดให้ครอบคลุมในทุกเซ็กเมนต์แล้ว อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่วางไว้คือ การพัฒนาคุณภาพสินค้า และบริการอย่างต่อเนื่อง จากจุดแข็งในด้านนวัตกรรมการก่อสร้างโดยใช้เทคโนโลยีพรีคาสท์ (Precast) จากเยอรมนี พฤกษายังได้ร่วมกับพันธมิตรเพื่อนำนวัตกรรมต่างๆ มาใช้ในกลุ่มทาวน์เฮาส์อย่างต่อเนื่อง  อาทิ นวัตกรรมบ้านหายใจได้ หรือ ออกแบบระบบไหลเวียนอากาศภายในบ้าน โดยใช้แนวคิดการดึงอากาศบริสุทธิ์จากภายนอกเข้าสู่ตัวบ้าน ทำให้อากาศภายในบ้านถ่ายเทได้ดีขึ้น ส่งผลให้ความร้อนในตัวบ้านลดลง

นอกจากนี้ยังนำระบบ Home Automation  ที่สามารถควบคุมและสั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านผ่าน Smart Phone   ตลอดจนการใช้เสาเข็มมาตรฐาน มอก. พร้อมเสริมความแข็งแรงของพื้นที่หลังบ้านด้วยเสาเข็มขนาดยาวลึกเท่าตัวบ้าน เพื่อรองรับการใช้งานเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ของลูกค้า  เป็นต้น รวมถึงการนำเครื่องมือและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้พัฒนาสินค้าและบริการอยู่เสมอ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งในวันนี้และในอนาคต เช่น การพัฒนา HEALTH CARE PROJECT หรือการออกแบบที่พักอาศัยให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุและผู้ใส่ใจด้านสุขภาพ  การจัดทำพื้นที่ส่วนกลางอเนกประสงค์หรือ Co-Working Space , การพัฒนาไฟทางเดินทั่วโครงการและกริ่งบ้านที่ใช้พลังงานจากโซลาร์เซลล์ เป็นต้น

เดินหน้าลุยภูมิภาค เตรียมเปิดโครงการเชียงใหม่

สำหรับแผนการลงทุนในภูมิภาคซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการขยายตลาดทาวน์เฮาส์ ที่ผ่านมา พฤกษา ได้เข้าไปลงทุนในหลายจังหวัดใหญ่ๆ มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น  เชียงใหม่ ภูเก็ต ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา และอยุธยา โดยในระยะ 2-3 ปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายรุกตลาดทาวน์เฮาส์ในภูมิภาคให้ครบ 20 จังหวัด เช่น จังหวัดเชียงราย พิษณุโลก สระบุรี นครปฐม ประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี สุราษฎร์ธานี สงขลา นครศรี ธรรมราช ขอนแก่น โคราช อุดรฯ อุบลฯ และจันทบุรี โดยมีตลาดที่สำคัญคือ 3 จังหวัด ที่อยู่ในพื้นที่โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) จะเป็นที่สนใจในการลงทุนด้วยมูลค่าตลาดที่สูงถึง 60,000 ล้านบาท

ในขณะเดียวกัน จังหวัดใหญ่ๆ ที่มีศักยภาพสูงอย่างภูเก็ตและเชียงใหม่ ซึ่งได้อานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยว ก็ยังคงเป็นจังหวัดที่น่าสนใจ โดยเร็วๆ นี้ พฤกษา มีแผนจะไปเปิดทาวน์เฮาส์โครงการใหม่ล่าสุดที่เชียงใหม่ ซึ่งแม้ว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดเชียงใหม่จะทรงตัวต่อเนื่องมาหลายปีด้วยมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 15,000 ล้านบาท ส่วนตลาดทาวน์เฮาส์ยังคงใต้ระดับอยู่ที่หลัก 700-800 ล้านบาท ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา หรือมีส่วนแบ่งตลาดอยู่เพียง 5% ของตลาดอสังหาฯโดยรวม แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะยังเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะทาวน์เฮาส์ในกลุ่ม 1-3 ล้านบาท  ซึ่งเป็นบ้านระดับพื้นฐานของคนวัยทำงาน

ทั้งนี้ การเติบโตของตลาดทาวน์เฮาส์ของจังหวัดเชียงใหม่ จะมีลักษณะใกล้เคียงกับจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม เป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ และมีสถานศึกษาที่มีชื่อเสียง โดยมีคนที่ย้ายถิ่นฐานมาปักหลักทำมาหากินในเชียงใหม่ เพิ่มขึ้นทุกๆ ปี ยิ่งในอนาคตจะมีสนามบินแห่งที่ 2 และโครงการรถไฟฟ้ารางเบาที่คาดว่าจะเปิดประมูลได้ในช่วงต้นปี 2563 ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพของเมืองเชียงใหม่ ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ขณะที่ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยทั้งจากคนท้องถิ่น และคนที่เข้ามาทำงานในเชียงใหม่จะเพิ่มมากยิ่งขึ้นในอนาคต ในขณะเดียวกันจะเกิดทำเลอยู่อาศัยใหม่เกิดขึ้นตามเส้นทางรถไฟฟ้า ทั้งที่อยู่อาศัยแนวราบ ซึ่งได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ และที่อยู่อาศัยแนวสูงอย่างคอนโดมิเนียม

ด้วยศักยภาพและโอกาสการลงทุนที่พฤกษาจะสามารถตอบสนองความต้องการที่อยู่อาศัย สำหรับคนรุ่นใหม่วัยทำงานในเชียงใหม่ได้เป็นอย่างดี ทำให้ พฤกษา เริ่มขยายการลงทุนมายังเชียงใหม่ตั้งแต่ปี 2557 ทั้งบ้านเดี่ยว ได้แก่ บ้านภัสสร ไพร์ด และ The Plant   มหิดล เจริญเมือง ทาวน์เฮาส์ ภายใต้แบรนด์ พฤกษา วิลล์ ได้แก่ พฤกษา วิลล์ ราชพฤกษ์-แม่เหียะ พฤกษา วิลล์ บิ๊กซี-ดอนจั่น และล่าสุด พฤกษา วิลล์ 115 เชียงใหม่-ม.พายัพ ทาวน์เฮาส์โครงการใหม่ของพฤกษา ที่เตรียมจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้

RECOMMENDED PROJECT

พฤกษาวิลล์ 115 เชียงใหม่ - ม.พายัพ โครงการใหม่ของพฤกษา มาพร้อมจุดเด่นเหนือกว่าใคร ทาวน์เฮาส์ 2 ชั้นหนึ่งเดียวในเชียงใหม่ที่มาพร้อมสระว่ายน้ำ แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ด้วยการออกแบบสไตล์ล้านนาให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายอย่างมีสไตล์ นอกจากนี้ยังให้คุณมากกว่าด้วยคุณภาพของยูนิตและระบบรักษาความปลอดภัยเทียบเท่าบ้านเดี่ยว สะดวกสบายกับ “Prime Location” จากมหาวิทยาลัยพายัพเพียง 5 นาที และเชื่อมต่อกับตัวเมืองเพียง 15 นาที รายล้อมด้วยแหล่งอำนวยความสะดวก และสถานที่สำคัญมากมาย อาทิ เซ็นทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่, อินเด็กซ์ลีฟวิ่งมอลล์เชียงใหม่, และโรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่

ลงทะเบียนเยี่ยมชมโครงการเพื่อรับโปรโมชั่นส่วนลดสูงสุด 300,000 บาท และส่วนลดพิเศษเพิ่มเติม 10,000 บาทเมื่อลงทะเบียนออนไลน์ทุกช่องทาง พิเศษ เริ่มต้นที่ 1.99 ล้าน เฉพาะในงาน Pre-Sale 15-16 กันยายนนี้ เท่านั้น!

การรุกคืบสู่ตลาดภูมิภาค โดยเฉพาะหัวเมืองหลักและหัวเมืองรองที่มีการพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐที่กระจายไปทั่วประเทศ นอกจากจะเป็นการสร้างโอกาสในการซื้อที่อยู่อาศัยในราคาที่จับต้องได้ให้กับคนไทยทั่วประเทศแล้ว ยังเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่ทำให้ พฤกษา ครองความเป็นเจ้าตลาดทาวน์เฮาส์ต่อไปอีกนานหลายปี