ปวดก้น (กบ) ปัญหาหลักของคนทำงานออฟฟิศที่นั่งนาน ๆ
หาเคยประสบกับปัญหาอาการ ปวดก้น คงจะทราบดีว่าทรมานเกินจะบรรยาย หลายท่านไม่เพียงแต่ปวดกระดูกก้นเท่านั้น แต่ปวดจุดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคออฟฟิศซินโครม แต่ปัญหาการปวดกระดูกก้นนั้น ค่อนข้างเป็นจุดที่บอบบางมากที่สุด ดังนั้นหากเกิดอาการปวดแล้ว ไม่ว่าจะขยับหรือเปลี่ยนท่านั่งยังไง ก็เกิดอาการปวดอยู่ดี ฉะนั้นวันนี้จึงมีข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับปัญหาการปวดก้นกบ และวิธีการแก้ไขอย่างถูกวิธีมาแนะนำ
1. ปวดตรงจุดไหน ถึงเรียกว่า ปวดก้นกบ?
เชื่อว่ายังมีหลายท่าน ที่แยกไม่ออกว่าก้นกบอยู่ตรงบริเวณไหน บางท่านปวดหลังช่วงล่าง บางท่านปวดกระเบนเหน็บ แต่คิดไปกว่าปวดก้นกบ จริง ๆ แล้วส่วนกระดูกก้นกบนั้นจะอยู่บริเวณด้านหลังระดับบั้นเอว ก่อนถึงส่วนเหน็บชายกระเบน เป็นกระดูกส่วนปลายสุดของกระดูกสันหลัง หากลองลูบคลำดูจพบว่า มีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ อยู่เหนือร่องก้น ซึ่งหากเปรียบกับสัตว์ชนิดอื่นก็คือส่วนหางนั่นเอง
2. การปวดกระดูกก้นกบ เกิดจากสาเหตุอะไร?
สาเหตุของอาการปวดกระดูกก้นกบนั้น มาจากหลายปัจจัยด้วยกัน แต่สาเหตุหลักมาจาก เส้นเอ็นที่อยู่รอบ ๆ บริเวณกระดูกก้นกบเกิดการอักเสบ เกิดจากการนั่งท่าเดิมนาน ๆ แบบท่านั่งไม่ถูกต้อง อย่างเช่น การนั่งจมลงเก้าอี้มากเกินไป หรือเอนหลังมากเกิน จนทำให้กระดูกก้นกบไปกดทับกับเบาะ โดยเฉพาะผู้ที่เลือกใช้เก้าอี้แบบแข็ง ไม่มีอะไรรองรับยิ่งทำให้เกิดการอักเสบได้ง่าย โดยมากพบว่าพนักงานออฟฟิศส่วนใหญ่ มักจะประสบปัญหากับโรคนี้ เพราะในแต่ละวันที่นั่งนานเกินไป และนั่งผิดท่าซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการปรับพฤติกรรมเสียใหม่ แต่นอกจากการนั่งผิดท่า หรือนั่งนานเกินไปแล้ว ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้ก้นกบอักเสบ ดังนี้
- เกิดจากอุบัติเหตุหรือถูกกระแทกแรง ๆ ซึ่งเป็นสาเหตที่พบบ่อย อย่างเช่น คนที่ลื่นล้มแล้วก้นกระแทกพื้น ก็อาจจะทำให้ก้นกบอักเสบได้ อาจเกิดการแตกหรือหัก จนเกิดอาการปวดในที่สุด
- การตั้งครรภ์ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุ ที่ทำให้ก้นกบอักเสบได้ โดยเกิดจากฮอร์โมนรีแล็กซิน ที่ผลิตมากขึ้นในช่วงนี้ทำให้เส้นเอ็นและข้อต่ออุ้งเชิงกรานมีความนิ่มเป็นพิเศษ เพื่อเป็นการยืดขยายพร้อมสำหรับทารกคลอด และมื่อข้อต่อเกิดยืดขยายมากเกินไป กล้ามเนื้อส่วนสะโพกจะรับน้ำหนักมากไป ทำให้อุ้งเชิงกรานแบะออกจนไปกดทับกระดูกก้นกบ จนเป็นสาเหตุให้เกิดอาการปวดตามมา
- ความอ้วนก็เป็นเหตุให้ปวดก้นกบได้เช่นกัน เพราะน้ำหนักตัวที่มากเกินไป เมื่อนั่งไม่ถูกท่าและนั่งนาน ๆ ตลอดทั้งวัน อาจทำให้กดทับกระดูกก้นกบจนเกิดการอักเสบ
- สำหรับคุณผู้หญิงที่อยู่ในช่วงมีประจำเดือน มักจะมีอาการปวดปั้นเอว รวมไปถึงปวดก้นกบเนื่องจากเส้นเอ็นมีการขยายตัว แต่เมื่อผ่านช่วงมีประจำเดือนในระยะแรกไป อาการปวดก้นกบก็จะหายไปเอง
- นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่น ๆ อย่างเช่น ข้อเสื่อม เป็นเนื้องอกบริเวณกระดูกก้นกบ หรือมีอาการข้างเคียงจากการป่วย อย่างโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม ก็จะไปกดทับเส้นประสาทให้ปวดลามมาถึงก้นกบได้
3. ปฏิบัติตัวอย่างไรให้ห่างไกล จากอาการปวดกระดูกก้นกบ
สำหรับท่านที่ยังไม่เคยประสบกับปัญหานี้ สามารถปฏิบัติให้ห่างไกลจากอาการปวดก้นกบได้ ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนั่งทำงานใหม่ ให้นั่งบนเก้าอี้ที่มีเบาะนุ่มกำลังพอดี อาจจะใช้เบาะรองนั่ง ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ทำงานโดยเฉพาะ และที่สำคัญไม่ควรนั่งนานเกิน 1 ชั่วโมง ควรลุกขึ้นขยับร่างกายบ้าง เพื่อเลี่ยงการกดทับมากจนเกินไป เพราะการนั่งนาน ๆ นั้นส่งผลโดยตรงต่ออาการปวดก้นกบ
4. เคล็ดลับการป้องกันอาการปวดก้นกบ
สำหรับท่านที่กำลังมีอาการปวดก้นกบอยู่นั้น มีเคล็ดลับง่าย ๆ ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนั่ง มานำเสนอเพื่อลดอาการปวด สามารถทำตามได้ดังนี้
- ให้นั่งหลังตรงโดยที่ก้นต้องสัมผัสกับพื้นเก้าอี้แบบเต็มตัว ให้ลงน้ำหนักลงที่ต้นขาสองข้างเท่า ๆ กัน และไม่ควรเอนตัวไปพิงด้านหลังมากนัก เพราะจะทำให้กระดูกก้นรองรับน้ำหนัก แทนที่จะนั่งอยู่บนปุ่มของกระดูกเชิงกราน จึงเป็นสาเหตุทำให้เกิดการอักเสบแบบเฉียบพลัน
- ไม่ควรนั่งเก้าอี้ที่แข็ง และก็ไม่ควรนั่งเก้าอี้ที่นิ่มเกินไปด้วย เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อหลังออกแรงได้ไม่มากนัก ส่งผลให้หลังค่อมและน้ำหนักจะลงไปอยู่ที่ก้นกบ ฉะนั้นควรเลือกเก้าอี้หรือเบาะรองที่มีความนิ่มแบบพอดี ๆ
- สำหรับท่านที่ทำงานออฟฟิศ หรือทำงานที่ต้องนั่งนาน ๆ ควรลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายบ้าง เพื่อให้กล้ามเนื้อได้เคลื่อนไหว อย่านั่งอยู่กับที่นานเพราะจะทำให้เกิดการกดทับสะสม
- หมั่นออกกำลังกายยืดกล้ามเนื้อหลัง ให้มีความแข็งแรงอยู่เสมอก็จะช่วยลดอาการปวดลงได้ เพราะเมื่อหลังมีความแข็งแรง ก็จะช่วยลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ จึงทำให้อาการปวดลดลง
เมื่อรู้ถึงสาเหตุและวิธีแก้ไขอาการ ปวดก้น แล้ว ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสม เพื่อลดอาการปวดและเพื่อสุขภาพที่ดี ค่อย ๆ ฝึก ค่อย ๆ ปรับไปสักพัก ก็จะนั่งได้ถูกท่าและห่างไกลโรคออฟฟิศซินโดรม