ติดแอร์บ้านไม้อย่างไรให้ประหยัดไฟ

การติดแอร์บ้านไม้ สามารถทำได้โดยการบุผนังห้องเพิ่มเข้าไป ไม่จำเป็นต้องมีการสร้างบ้านใหม่ ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องรับแขก หรือห้องทำงาน การบุผนังห้องเข้าไปจะช่วยปิดช่องลม ป้องกันแอร์รั่วไหล ซึ่งช่วยประหยัดไฟได้เป็นอย่างดี  วันนี้เรามาทำความเข้าใจว่า เราต้องคำนึงถึงสิ่งใดบ้างเมื่อต้องการที่จะติดแอร์ให้กับบ้านไม้

การระบายอากาศของบ้านไม้ 

         การระบายอากาศของบ้านไม้ ส่วนใหญ่ คือ การมีช่องลม โดยติดตั้งหน้าต่างหรือประตูให้ถูกทิศทางของลม เช่น บ้านไม้ที่ปล่อยโล่งในสมัยก่อน แต่ในปัจจุบันด้วยสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นอย่างมาก หลายบ้านอาจจะมีการเพิ่มช่องลม หรือต้องปรับทิศทางลม รวมถึงเพิ่มการระบายอากาศโดยการติดตั้งแอร์ เพราะแค่ช่องลมเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เราจึงขอเสนอเทคนิคการระบายอากาศของบ้านไม้ ดังนี้

ติดตั้งหน้าต่างให้ถูกทิศทางลม

การระบายอากาศของบ้านไม้ส่วนใหญ่ต้องอาศัยช่องลม และทิศทางลม สมัยก่อนจึงเน้นการทำบ้านไม้แบบเปิดรับช่องลมเพื่อระบายอากาศ หรือความร้อน บ้านไม้ในปัจจุบันจึงต้องมีการติดตั้งหน้าต่างให้ถูกทิศทางลม เพราะไม่สามารถทำบ้านให้เปิดโล่งเหมือนแต่ก่อนได้ จึงต้องใช้การระบายอากาศด้วยหน้าต่าง ซึ่งควรเน้นหน้าต่างในทิศเหนือและทิศใต้ จะช่วยให้อากาศในบ้านมีการหมุนเวียนและระบายได้ดี

ทำช่องระบายอากาศ

สำหรับท่านที่ชื่นชอบอากาศจากธรรมชาติ อาจจะมีการติดตั้งช่องอากาศด้านบนหน้าต่างอีกที หรือที่เรียกว่า ช่องทางลม ให้มีระดับที่สูงขึ้นจากหน้าต่าง ซึ่งจะช่วยให้เกิดการหมุนเวียนของอากาศในช่วงกลางคืน

การติดตั้งประตูบ้าน 

หากมีการติดตั้งประตูบ้านในทิศลมที่ถูกต้อง และอยู่ในบริเวณตรงกลางของบ้าน จะช่วยให้เกิดการระบายอากาศได้ดี เพราะลมจะเข้าออกในส่วนนี้ หากท่านอยู่บ้านในช่วงกลางวัน แนะนำให้เปิดประตูบ้านไว้เพื่อรับลม

การติดตั้งแอร์

หากท่านต้องระบายอากาศโดยติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในช่วงฤดูร้อน จำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีการบุผนังบ้านก่อน เผื่อป้องกันไม่ให้แอร์รั่วออกจากผนังบ้านไม้

การบุผนังบ้านไม้ต้องทำอย่างไร 

        การบุผนังบ้านไม้ หากต้องการติดตั้งแอร์ หรือป้องกันความร้อนจากผนังด้านนอก เนื่องจากไม้สามารถรับความร้อนได้โดยตรง เมื่อมีการติดตั้งผนังอีกชั้นหนึ่งจะสามารถป้องกันความร้อนได้ดี การบุผนังเพิ่มเข้าไปสามารถทำได้ ดังนี้

1. เลือกวัสดุสำหรับบุผนัง วัสดุที่สามารถนำมาบุผนังเพิ่มเข้าไปนั้น มีหลายประเภท หลายราคา เช่น แผ่นไม้อัด ไม้เทียม แผ่นฝ้าสมาร์ทบอร์ด หรือแผ่นยิปซัม ซึ่งเป็นที่นิยม เนื่องจากมีราคาไม่สูงมาก
2. เลือกวัสดุสำหรับทำฝ้าเพดาน สามารถทำพร้อมกับผนังได้ สำหรับบ้านที่ยังไม่มีฝ้าแบบปิด จำเป็นต้องมีการติดตั้งฝ้าใหม่ การติดฝ้าจะสามารถช่วยกรองความร้อนจากหลังคาได้ดี จึงทำให้ห้องไม่ร้อนจนเกินไป
3. การติดตั้ง นำไม้หรือวัสดุที่เลือกมาตีลงบนผนังบ้านไม้ ขั้นตอนนี้สามารถทำเอง หรือจ้างช่างได้ตามสะดวก หากผนังห้องยังไม่มีโครง ควรมีการทำโครงก่อนบุผนัง สามารถทำได้ทั้งโครงเหล็ก และโครงไม้ เพื่อง่ายต่อการบุผนังเข้าไป โดยใช้ตะปูหรือเครื่องมือในการยึดผนังกับโครงที่ทำไว้ จะได้แนวระดับเดียวกัน และเกิดความเรียบเนียน

ติดแอร์บ้านไม้อย่างไรให้ประหยัดไฟมากขึ้น 

การติดตั้งแอร์บ้านไม้ มีหลากหลายวิธีที่จะช่วยให้ท่านประหยัดไฟได้มากขึ้น ดังนี้

ควรบุผนังบ้านก่อนติดแอร์

บ้านไม้ต้องทำการบุผนังก่อนติดแอร์ เพราะหากต้องการประหยัดค่าไฟ ห้องควรปิดชิดสนิท และควรทำการปิดช่องลมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นฝ้าเพดาน หรืออาจเปลี่ยนหน้าต่างและประตูห้องด้วย เพื่อที่ลมแอร์จะได้ไม่รั่วไหล หากลมแอร์ไหลออกจะทำให้ห้องเย็นช้า แอร์ทำงานหนัก ซึ่งจะยิ่งทำให้เปลืองค่าไฟ

ขนาด BTU

ต้องเลือกขนาด BTU ของแอร์ให้เหมาะสมกับห้องที่จะติดตั้งแอร์ จะช่วยให้แอร์เย็นเร็ว และไม่ทำงานหนัก แถมยังช่วยประหยัดไฟอีกด้วย

เลือกแอร์ที่มีฉลากประหยัดไฟ เบอร์ 5

การเลือกแอร์ที่มีฉลาก จะช่วยประหยัดค่าไฟมากยิ่งขึ้น โดยสามารถดูค่า EER หรือ SEER ยิ่งมีตัวเลขที่มาก ประสิทธิภาพในการประหยัดไฟจะยิ่งสูงตามไปด้วย

เลือกแอร์ระบบ Inverter

ระบบนี้มีข้อดี คือ มีการควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมกับขนาดห้องโดยอัตโนมัติ เพราะเรื่องการควบคุมอุณหภูมิ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยประหยัดค่าไฟ

ติดตั้งแอร์ให้ถูกตำแหน่งและทิศทาง

ตำแหน่งและทิศทางของแอร์ หากวางผิดตำแหน่ง จะทำให้ห้องเย็นช้า เครื่องแอร์ทำงานหนัก แต่ถ้าอยู่ในตำแหน่งและทิศทางที่เหมาะสม ห้องจะเย็นเร็ว ซึ่งช่วยประหยัดค่าไฟได้เป็นอย่างดี การติดตั้ง ควรติดตั้งแอร์ในทิศทางตรงข้ามกับเตียงนอน หรือโซฟาของห้องรับแขก ซึ่งก็คือ ทิศตะวันออก

วิธีการดูแลรักษาแอร์บ้านไม้ 

      มาลองดูวิธีการดูแลรักษาแอร์บ้านไม้ ที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแอร์ได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น ดังนี้

1. ล้างและทำความสะอาดแอร์ การล้างแอร์จะช่วยทำให้แอร์เย็นเร็วขึ้น ระบบแอร์ไม่ทำงานหนัก ไม่เกิดน้ำแข็งเกาะในตัวแอร์ ช่วยให้แอร์สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น เพราะได้มีการทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่สะสมในช่องแอร์ออกไป ควรมีการล้างและทำความสะอาดแอร์ทุก ๆ 3 หรือ 6 เดือน
2. ไม่ปล่อยให้น้ำแอร์รั่ว หมั่นตรวจเช็คหรือตรวจสอบท่อแอร์อยู่สม่ำเสมอ
3. สังเกตเสียงของแอร์ หากมีเสียงที่ผิดปกติ เช่น ดังเกินไป ควรมีการเรียกช่างแอร์เข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุความผิดปกติของแอร์และทำการแก้ไข

การระบายอากาศของบ้านไม้ นอกจากการระบายทางช่องลมของหน้าต่างแล้ว การติดแอร์บ้านไม้โดยการบุผนังห้องเพิ่มเข้าไปจะช่วยให้ประหยัดไฟได้มากยิ่งขึ้น เพราะไม่เกิดการรั่วไหลของแอร์