ซ่อมผนังร้าวควรทำเองหรือเรียกช่าง?
การซ่อมผนังร้าวนั้นหลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมีหลากหลายสาเหตุของการเกิดรอยร้าวที่ผนัง และบางสาเหตุก็อาจะไม่จำเป็นจะต้องเรียกช่าง หรือวิศวกรมาทำการซ่อมแซม แต่สามารถลงมือซ่อมแซมได้ด้วยตัวเองได้แบบไม่ยาก รวมไปถึงวัสดุอุปกรณ์ที่นำมาใช้ซ่อมแซมก็มีราคาไม่แพง ในบทความนี้จะมาแนะนำ 7 ข้อควรรู้ เกี่ยวกับอาการผนังร้าว และ วิธีการซ่อมผนังร้าวด้วยตัวเองว่าทำได้อย่างไร
1. ผนังร้าวเกิดจากอะไร
รอยร้าวที่บริเวณผนังของบ้านนั้นสามารถเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ ซึ่งมีทั้งเป็นเรื่องปกติที่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ กับโครงสร้างของบ้าน กับรอยร้าวบางประเภทที่เป็นความผิดพลาดทางโครงสร้างซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาอย่างมากมาย ลองมาดูกันว่าสาเหตุของการเกิดรอยร้าวที่ผนังนั้นมีอะไรบ้าง
2. รอยร้าวที่เกิดจากการทำงานไม่เรียบร้อย
การเกิดรอยร้าวบริเวณผนังจากการที่ช่างทำงานไม่เรียบร้อยนั้นเป็นเรื่องที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด เนื่องจากบางครั้งช่างขาดความใส่ใจในรายละเอียดการทำงาน เช่นฉาบปูนไม่เรียบร้อย ผสมปูนผิดส่วน ทำให้เกิดรอยร้าวในบริเวณต่างๆ เมื่อฉาบปูนเสร็จ ซึ่งรอยร้าวในรูปแบบนี้นั้นจะเรียกว่า “แตกลายงา” เป็นรอยร้าวที่ไม่เกี่ยวข้องกับโครงสร้าง ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล สามารถซ่อมแซมได้ด้วยตัวเอง
3. รอยร้าวที่เกิดจากการเชื่อมต่อวัสดุ
รอยร้าวของผนังบริเวณรอยต่อระหว่างผนังกับวงกบก็เป็นเรื่องที่สามารถพบได้บ่อย ซึ่งการเกิดรอยร้าวในรูปแบบนี้ก็เป็นเรื่องของความไม่ละเอียดในการก่อสร้างเช่นกัน เพราะว่าไม่มีการคำนวณในเรื่องการหดตัว หรือขยายตัวที่แตกต่างกันของวัสดุ 2 ชนิดจึงทำให้เกิดรอยร้าวบริเวณรอยต่อของวัสดุนั่นเอง ซึ่งการซ่อมแซมรอยร้าวประเภทนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก สามารถซ่อมแซมได้ด้วยตัวเอง
4. รอยร้าวที่เกิดจากโครงสร้างอาคารผิดปกติ
รอยร้าวที่เกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างอาคารนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม และไม่ควรมองว่าเป็นปัญหาเล็กน้อย เนื่องจากรอยร้าวที่เกิดจากโครงสร้างอาคารนั้นเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าโครงสร้างของอาคารนั้นมีปัญหาที่ควรเรียกวิศวกรผู้เชี่ยวชาญมาทำการแก้ไขโดยด่วน ซึ่งลักษณะของรอยร้าวที่เกิดจากโครงสร้างของอาคารมีปัญหาได้แก่
- รอยร้าวกลางคาน เกิดจากการที่คานรับน้ำหนักมากเกินไป
- รอยร้าวเฉียงกลางผนัง เกิดจากการที่เสาทั้งสองด้านทรุดตัวไม่เท่ากัน
- รอยร้าวแนวดิ่งกลางผนัง เกิดจากการที่คานรับน้ำหนักไม่ไหวทำให้พื้นแอ่นจนเกิดรอยร้าวที่ผนัง
- รอยร้าวบริเวณคานใกล้เสา เกิดจากการที่โครงสร้างของอาคารไม่สามารถรับน้ำหนักได้ ทำให้ตัวอาคารเริ่มฉีกออกจากกัน
- รอยร้าวที่เพดาน เกิดจากการที่พื้นด้านบนรับน้ำหนักมากเกินไปโดยไม่มีคานมาช่วยรับน้ำหนัก
5. เตรียมความพร้อมก่อนซ่อมผนังร้าวด้วยตัวเอง
จากที่แนะนำเรื่องรอยร้าวประเภทต่างๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้บริเวณผนังบ้านไปแล้วนั้น จะมีรอยร้าวบางประเภทที่ไม่มีอันตรายต่อโครงสร้าง และสามารถซ่อมแซมได้ด้วยเองแบบไม่ยาก เพียงแค่เตรียมอุปกรณ์ให้ครบ มีความสามารถทางด้านงานช่างเพียงเล็กน้อย การซ่อมรอยร้าวบริเวณผนังบ้านก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
รอยร้าวที่สามารถซ่อมแซมได้ด้วยตัวเองนั้นคือ รอยร้าวที่เกิดจากการที่ช่างทำงานไม่เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นรอยร้าวแบบแตกลายงา หรือรอยร้าวระหว่างจุดเชื่อมต่อของวัสดุ ซึ่งรอยร้าวทั้งสองรูปแบบนี้จะเป็นรอยร้าวตื้นๆ มีขนาดเล็ก ไม่มีผลต่อโครงสร้าง และอุปกรณ์ต่างๆ สามารถหาได้ที่ร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างทั่วไปในราคาที่ไม่แพงอีกด้วย
6. อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการซ่อมผนังร้าว
การซ่อมผนังร้าวด้วยตัวเองนั้นอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้มีไม่กี่ประเภท ซึ่งอุปกรณ์ต่างๆ เหล่านั้นสามารถแบ่งตามการใช้งานได้ดังนี้
- อุปกรณ์สำหรับปรับสภาพพื้นผิว อุปกรณ์สำหรับปรับสภาพพื้นผิวคืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้จัดการพื้นผิวของผนังทั้งก่อนซ่อมรอยร้าว และหลังซ่อมรอยร้าว เพื่อให้พื้นผิวนั้นพร้อมที่จะได้รับการซ่อมแซม และเมื่อซ่อมแซมเสร็จแล้วพื้นผิวจะกลับมาอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ อุปกรณ์ในกลุ่มนี้ได้แก่ เหล็กสกัดคอนกรีต, ค้อน, สิ่ว, เกรียงโป๊วปูน, กระดาษทราย, เครื่องเจียร, ฟองน้ำ เป็นต้น
- วัสดุอุดรอยร้าว วัสดุสำหรับอุดรอยร้าวนั้นคือวัสดุประเภทต่างๆ ที่นำมาใช้ซ่อมผนังร้าวให้กลับมาดูเหมือนเดิมนั่นเอง โดยวัสดุเหล่านั้นจะทำหน้าที่ปกปิด หรือผสานรอยร้าวที่ผนัง ซึ่งวัสดุที่นิยมใช้ในการซ่อมผนังร้าวได้แก่ ปูนกาว หรือซีเมนต์สำเหรับซ่อมแซม, อะคริลิกปิดรอยร้าว, พียู, ครีมปิดรอยร้าว, สเปรย์โฟม เป็นต้น ซึ่งวัสดุแต่ละชนิดก็จะมีความสามารถในการซ่อมแซม และวิธีการใช้งานที่แตกต่างกัน ซึ่งการเลือกใช้ควรเลือกให้เหมาะสมกับรอยร้าวที่เกิดขึ้นนั่นเอง
7. วิธีการซ่อมผนังร้าวด้วยตัวเอง
การซ่อมผนังร้าวด้วยตัวเองนั้นไม่ยากเพียงแต่ต้องเลือกวัสดุอุดรอยร้าวให้เหมาะสม และทำตามขั้นตอนต่างๆ อย่างถูกต้อง ลองมาดูกันว่าวัสดุอุดรอยร้าวแต่ละประเภทนั้นมีวิธีการใช้งานอย่างไร และเหมาะที่จะใช้ในการปกปิดรอยร้าวประเภทไหน
- ปูนกาว ปูนกาวเป็นปูนซีเมนต์สำเร็จรูปที่มีความเหนียว มีแรงยึดเกาะที่ดี และยังใช้งานได้สะดวกเพียงแค่นำมาผสมน้ำก็สามารถใช้งานได้ทันที ปูนกาวจึงเหมาะกับผนังที่ร้าวแบบมีรอยลึกเข้าไปแต่ไม่ถึงขั้นมีปัญหากับโครงสร้าง หรือรอยร้าวตามขอบวงกบประตู หรือหน้าต่างนั่นเอง
วิธีการใช้ปูนกาวซ่อมผนังร้าวนั้นเริ่มจากการใช้เหล็กสกัดซีเมนต์ หรือเครื่องเจียรเปิดรอยร้าวให้มีขนาดกว้างขึ้นกว่าเดิมด้านละประมาณ 1 ซ.ม.ตลอดรอยร้าวที่ต้องการซ่อมแซม จากนั้นให้ทำความสะอาดพื้นผิวให้เรียบร้อย นำน้ำราดบริเวณรอยร้าวให้ชุ่ม ทิ้งไว้ประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง
จากนั้นให้ผสมปูนกาวตามสัดส่วนที่กำหนดไว้ซึ่งอาจจะแตกต่างกันตามแต่ละแบรนด์ ให้ดูวิธีการผสมที่ข้างถุงเป็นหลัก เมื่อพื้นผิวพร้อมแล้วให้นำปูนกาวใส่ลงไปบริเวณรอยร้าวที่ได้ทำการเปิดแผลไว้ โดยใส่ลงไปโดยใช้เกรียงเป็นตัวช่วย เมื่อใส่ลงไปจนเต็มแล้วให้ใช้เกรียงฉาบปูนที่ล้นออกมาให้เรียบเสมอผนัง ทิ้งไว้ให้แห้ง
หลังจากที่ปูนแห้งแล้วให้ใช้ฟองน้ำเปียกพรมน้ำให้ทั่วบริเวณรอยร้าวที่ฉาบปูนไว้ แล้ใช้เกรียงเก็บรายละเอียดให้เรียบร้อย หรือจะใช้โฟมขัดก็ได้ เพียงเท่านี้ปูนกาวที่ซ่อมแซมรอยร้าวก็จะเรียบเนียนไปกับผนัง เมื่อปล่อยให้ปูนแห้งอีกครั้งก็สามารถทาสีทับได้ - อะคริลิกปิดรอยร้าว การใช้อะคริลิกปิดรอยร้าวซ่อมผนังร้าวนั้นจัดว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีการซึ่งทำได้ง่าย เหมาะสมกับกับการซ่อมผนังร้าวแบบแตกลายงา เนื่องจากอะคริลิกนั้นสามารถปกปิดรอยได้ดี และขัดแต่งให้เรียบได้ง่าย ซึ่งอะคริลิกปิดรอยร้าวนั้นจะเป็นอะคริลิกสำเร็จรูปที่สามารถนำมาใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องผสมอะไรเพิ่ม
ส่วนขั้นตอนในการซ่อมผนังร้าวด้วยอะคริลิกนั้นเริ่มต้นจากการทำความสะอาดผนังบริเวณที่มีรอยร้าวให้สะอาด จากนั้นให้ใช้เกรียงซึ่งส่วนมากจะแถมมาให้ด้วย หรือจะใช้เกรียงสำหรับโป๊วก็ได้ ตักเนื้ออะคริลิกแต้มไปบริเวณรอยร้าวที่ต้องการ จากนั้นก็เกลี่ยให้เรียบไปกับผนังเดิม จากนั้นทิ้งไว้ให้แห้งแล้วจึงใช้กระดาษทรายขัดแต่งให้เรียบเนียนอีกครั้ง ถ้าต้องการทาสีทับต้องใช้นำยารองพื้นปูนเก่าก่อนทุกครั้ง - พียู พียูนั้นมาจากคำว่า โพลียูรีเทน ซีลเลนท์ เป็นวัสดุสังเคราะห์ที่สามารถปกปิดรอยร้าวได้เป็นอย่างดี ซึ่งวิธีการใช้งานนั้นจะคล้ายคลึงกับการใช้อะคริลิกปิดรอยร้าวเอง แต่ตัวพียูจะมีลักษณะเป็นแท่งยาว คุณสมบัติพิเศษมากกว่าอะคริลิกคือมีความแข็งแรงในการเชื่อมต่อมากกว่า ทำให้สามารถใช้งานกับรอยร้าวบริเวณขอบวงกบประตู หรือหน้าต่างได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้พียูยังเหมาะกับการใช้ปกปิดรอยร้าวต่างๆ ภายนอกอาคารมากกว่า อีกทั้งยังสามารถขัดแต่งให้เป็นรูปทรงต่างๆ รวมไปถึงสามารถทาสีทับได้เลยอีกด้วย - สเปรย์โฟม สเปรย์โฟมสำหรับอุดรอยร้าวนั้นก็จัดว่าเป็น โพลียูรีเทน ซีลเลนท์ ประเภทหนึ่ง แต่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น และเหมาะกับการใช้งานกับรอยร้าวที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งวัสดุอุดรอยร้าวประเภทอื่นๆ ไม่สามารถจัดการได้
วิธีการใช้งานสเปรย์โฟมก็ง่ายมาก เพียงแค่ฉีดสเปรย์โฟมเข้าไปบริเวณที่มีรอยร้าวจนเต็ม ซึ่งสเปรย์โฟมจะแข็งตัวเพื่อปิดรอยร้าวนั้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นใช้คัทเตอร์ตัดแต่งให้เรียบเสมอผนัง แล้วใช้กระดาษทรายขัดตกแต่งอีกครั้งก็เป็นอันเรียบร้อย - ครีมปิดรอยร้าว ครีมปิดรอยร้าวเป็นอีกหนึ่งวัสดุที่สามารถปิดร้าวตื้นๆ ได้เป็นอย่างดี และมีการใช้งานที่สะดวกมากกว่าอะคริลิก หรือพียู เนื่องจากครีมซ่อมผนังนั้นถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายมาก เพียงแค่ทำความสะอาดผนังที่ต้องการซ่อมให้เรียบร้อย จากนั้นบีบครีมปิดรอยร้าวออกจากหลอดไปปิดยังบริเวณที่ต้องการ เกลี่ยให้เรียบ เมื่อครีมแห้งแล้วก็สามารถขัดแต่งให้เรียบเนียนได้
จะเห็นได้ว่าการซ่อมผนังร้าวด้วยวัสดุต่างๆ ที่แนะนำไปในบทความนี้นั้นไม่ใช่เรื่องยาก สามารถทำได้เองโดยไม่จำเป็นต้องจ้างช่างแต่อย่างใด แต่ความสำคัญขอการเกิดผนังร้าวนั้นต้องวิเคราะห์ให้ดี เพราะถ้าเป็นเรื่องของโครงสร้างอย่าพยายามซ่อมด้วยตัวเองเด็ดขาด ให้รีบปรึกษาวิศวกรทางด้านโครงสร้างทันที
ที่มาภาพประกอบ : https://www.truelevelconcrete.ca