ค่ายอสังหาฯ แตกแบรนด์ขยายฐานลูกค้าใหม่

การค้นหาความต้องการซื้อที่แท้จริง(real demand) เป็นโจทย์ที่ยากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผู้บริโภครุ่นใหม่มีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป และมีความเฉพาะตัวมากยิ่งขึ้น การทำอะไรแมสๆ แพลนๆ วันนี้อาจจะไม่ตอบโจทย์ เพราะผู้บริโภคต้องการและคาดหวังอะไรที่มากกว่า สามารถสะท้อนตัวตนได้อย่างชัดเจน 

ความยากจึงอยู่ที่การเลือกที่จะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ลงลึก และแยกย่อยและแปรเปลี่ยนเป็นยอดขายที่จะต้องเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี ได้อย่างไร 

แม้จะยากเย็นเพียงใดก็เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการจะต้องตีโจทย์ให้แตก เพราะสิ่งนี้คือ  new normal ที่เปลี่ยนไปตาม generation ที่เปลี่ยนแปลง ยิ่งในสถานการณ์ที่ทางเลือกเหลือน้อยเต็มที และมีเป้าหมายของการเติบโตในทุกๆ ปี จ่อคอหอยอยู่ การวิ่งเข้าหาลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ด้วยแบรนด์ใหม่ๆ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องเร่งรีบทำให้เกิดผลโดยเร็ว 

เสนาฯส่งแบรนด์ปีติลุยคอนโดลักชัวรี่
ในช่วงนี้มีความเคลื่อนไหวของบริษัทพัฒนาที่ดิน 2-3 ราย ที่เดินไปในทิศทางดังที่กล่าว รายแรกบริษัท เสนา ดีเวลลอปเมนท์ ร่วมกับพันธมิตรจากญี่ปุ่น ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ปเปอร์เรชั่น เปิดตัวคอนโดมิเนียมร่วมทุนแบรนด์ใหม่ ปีติ (PITI) เพื่อขยายฐานธุรกิจเข้าสู่ตลาดลักชัวรีอย่างเต็มตัว

เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวว่า  ปีติ จะเป็นแบรนด์คอนโดที่รุกตลาดลักชัวรี่เป็นครั้งแรก โดยได้นำเอาหลักปรัชญาชีวิตจากแนวคิด “IKIGAI (อิคิไก)” ของญี่ปุ่น มาร่วมสร้างสรรค์เอกลักษณ์ทั้งมิติด้านฟังก์ชั่นและเติมเต็มมิติด้านสุนทรียศาสตร์ภายในโครงการให้กับลูกค้า

อิคิไก แปลความหมายได้ว่า เหตุผลในการตื่นขึ้นมา ซึ่งเป็นปรัชญาที่ลึกซึ้ง ในการทำให้ชีวิตมีคุณค่า จากการได้ทำในสิ่งที่ทำได้ดีมีความเชี่ยวชาญ เป็นสิ่งที่รัก สามารถสร้างรายได้ และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อคนอื่น หรือสังคม นั่นคือกรอบกว้างๆ ของคำว่า อิคิไก โดย เสนาฯ ได้นำเสนอในรูปแบบ การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขที่แท้จริง  จะเป็นเหตุผลในการตื่นขึ้นมา และ Good living ที่ว่านี่แหละคือ ลักชัวรีในรูปแบบใหม่  (Good LIVING is the New Luxury)

ปีติ แบรนด์ใหม่ในตลาดลักชัวรีคอนโดของเสนา ดีเวลลอปเมนท์

นั่นคือนิยามของ "ปีติ" ที่เสนาจะต้องใส่ใจในทุกรายละเอียดของตัวโปรดักต์และบริการที่จะทำให้ลูกค้าได้ ปีติ ในการอยู่ลักชัวรี่คอนโดของเสนาฯ  ที่ประเดิมเปิดโครงการแรกที่ เอกมัย(บริเวณซอยเอกมัย 26) เป็นโครงการร่วมทุนที่ 3 ภายใต้การร่วมทุนชื่อบริษัท เสนา ฮันคิว จำกัด มูลค่าโครงการรวม 5,000 ล้านบาท บนเนื้อที่ 4 ไร่เศษ ตั้งอยู่ใจกลางเอกมัย (ช่วงบริเวณซอยเอกมัย 26) โดยลักษณะเป็นอาคารสูง 37 ชั้น  1 อาคาร รวมทั้งหมด  897 ห้อง และร้านค้า 3 ยูนิต ราคาเริ่มที่ 4.45 ล้านบาท หรือ เฉลี่ยตารางเมตรละ 170,000 บาท  

แสนสิริปั้น XT เจาะลูกค้ายุคมิลเลนเนียล 
ขณะที่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้เปิดตัว XT คอนโด ซึ่งเป็นคอนโดแบรนด์ใหม่ที่จับกลุ่มค้าชัดเจนคือ คนในยุค มิลเลนเนียล ซึ่งถือเป็นผลงานชิ้นแรกของ "อู้ พหลโยธิน" ดีไซน์เนอร์ชื่อดัง ในฐานะประธานบริหารฝ่ายสร้างสรรค์ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)

"หนึ่งในเป้าหมายที่แสนสิริให้ความสำคัญและต้องจับตามอง ได้แก่ “คนมิลเลนเนียล” หรือ กลุ่มประชากรที่เกิดในช่วงระหว่างปี 1980 – 2000 ที่ได้กลายมาเป็นกลุ่มคนที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศตั้งแต่นี้เป็นต้นไป 

ซึ่งคนกลุ่มนี้ มีความโดดเด่นทางพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้เกือบ 80% ของชาวมิลเลนเนียลยังให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ หรือ Experience Over Things ใช้ชีวิตผ่านเทรนด์ Sharing Economy มากกว่าการครอบครองทรัพย์สิน เป็นที่มาของการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่จะตอบโจทย์ความต้องการคนมิลเลนเนียล และเป็นที่มาของการสร้างสรรค์แบรนด์ไลฟ์สไตล์คอนโดมิเนียม แบรนด์ XT" อู้ กล่าว

ปิติ จารุกำจรผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทจะเปิดตัวแบรนด์โครงการ XT พร้อมกันถึง 3 โครงการ มูลค่า 21,000 ล้านบาท บนทำเลที่สำรวจมาแล้วว่าเป็นที่นิยมของคนมิลเลนเนียล หรือที่เรียกว่า Central Millennial District (CMD) ประกอบไปด้วย 

XT เอกมัย ซึ่งเป็นโครงการที่แสนสิริร่วมกันพัฒนากับบริษัท โตคิว คอนสตรัคชัน จำกัด ตั้งอยู่ห่างจากสถานี BTS เอกมัย 1.5 กม. เนื้อที่โครงการ 2 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียมสูง 38 ชั้น จำนวน 537 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 185,000 บาทต่อตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้น 4.59 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 3,540 ล้านบาท 

XT ห้วยขวาง ตั้งอยู่ห่างจากสถานี MRT ห้วยขวาง 75 เมตร เนื้อที่ 6 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียม 2 อาคาร 43 ชั้น และ 14 ชั้น จำนวน 1,404 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 165,000 บาทต่อตารางเมตร  ราคาขายเริ่มต้น 3.69 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 7,530 ล้านบาท 

XT พญาไท ตั้งอยู่ห่างจากสถานีแอร์พอร์ตเรลลิงก์ราชปรารภ 500 เมตร และ สถานี BTS พญาไท เพียง 600เมตร เนื้อที่ 3 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียม 2 อาคาร 41 ชั้น และ 37 ชั้น จำนวน 1,435 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 165,000 บาทต่อตารางเมตร  ราคาเริ่มต้น 4.9 ล้านบาท มูลค่าโครงการ  10,800 ล้านบาท 

XT คอนโด หัวหอกเจาะคนมิลเลนเนียลจากค่ายแสนสิริ

นอกจากนี้ แสนสิริยังได้นำข้อมูลที่ได้จากการศึกษาพฤติกรรมชาวมิลเลนเนียลมาสร้างนิยามใหม่ของการออกแบบการอยู่อาศัยด้วยแนวคิด Explore your space, Expand your lifestyle ที่ชู 3 จุดเด่น ที่ให้ลูกบ้านสามารถออกแบบการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิต ค้นพบไลฟ์สไตล์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด ได้แก่ 
1.Personalized Room Layouts –อิสระในการเลือกรูปแบบห้องที่ออกแบบมาเพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์ของชาวมิลเลนเนียลที่มีความหลากหลายผ่านรูปแบบห้อง 6 สไตล์ 
2. Co-Sharing Spaces–แพลตฟอร์มใหม่ของสังคมกลุ่มคนที่มีความชอบเหมือนกันกับการแลกเปลี่ยนการเข้าใช้ Co-Sharing Spaces ที่แตกต่างกันได้ทุกโครงการภายใต้แบรนด์ XT 
3.Virtual Activities – นำเสนอการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทด้วยเทคโนโลยีใหม่ในแบบฉบับ XTไม่ว่าจะเป็นเครื่อง Virtual Exercise เทคโนโลยีการถ่ายทอดสดคลาสออกกำลังกายจากสตูดิโอฟิตเนสชื่อดัง เป็นต้น

สิงห์เปิดตัว "อีส" ขยายฐานตลาดระดับบน
ด้าน บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ได้เปิดแบรนด์ใหม่ในกลุ่มคอนโดโลว์ไรส์ไฮเอนด์  โดย ณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการพัฒนาธุรกิจพักอาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท กล่าวว่า บริษัทเตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ "อีส" (EYSE) ซึ่งเป็นคอนโดรูปแบบโลว์ไรส์ทำเลในซอยสุขุมวิท 43 ระดับราคาตั้งแต่ 2 แสนบาท/ตารางเมตร (ตร.ม.)อยู่บนพื้นที่ 2 ไร่ ประกอบด้วย อาคารชุดสูง 7 ชั้น 2 อาคาร 107 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท ราคาขายตั้งแต่ 13.99-30 ล้านบาท

อีส แบรนด์ขยายตลาดคอนโดหรูจากสิงห์ เอสเตท

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเปิดตัวโครงการบ้านแนวราบ ได้แก่ โครงการสันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม เป็นบ้านเดี่ยวระดับ อัลตร้า ลักซ์ชัวรี่ บนที่ดินทั้งหมด 45 ไร่ ประกอบด้วย บ้านเดี่ยวบนเนื้อที่ 1 ไร่เศษ รวม 26 หลัง มูลค่าโครงการรวม 6,500 ล้านบาท ราคาขายเริ่มต้นที่ 250 ล้านบาท จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือน ก.ย.นี้

การแตกแบรนด์ขยายฐานตลาด มุ่งตอบสนองลูกค้าเป้าหมายที่มีความหลากหลายและเฉพาะตัว แม้จะต้องทำการบ้านหนักขึ้น แต่ก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะช่วยดันยอดขายให้เพิ่มขึ้นได้ในยุคที่ดีมานด์ในตลาดหาได้ยากเหลือเกิน

Baania มี Line แล้วนะ
ติดตามเรื่องราวอสังหาริมทรัพย์แบบอินเทรนด์ ได้ทุกวันผ่าน Line ID @baania