การเจาะผนังปูน เป็นเรื่องที่ผู้พักอาศัยหลายท่านค่อนข้างกังวล แม้จะมองดูเป็นเรื่องที่เล็กน้อยแต่ต้องอาศัยความชำนาญและความละเอียดอ่อนในงานช่าง การเลือกช่างเพื่อมาดำเนินงานจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ค่อนข้างสำคัญ ทาง Baania จึงได้รวบรวมข้อมูลที่ควรรู้ก่อนการปฏิบัติงาน ดังรายละเอียดต่อไปนี้
ก่อนจะทราบถึงวิธีการเจาะก็จะต้องมารู้จักกับอุปกรณ์และเครื่องมือที่กันเสียก่อนโดยเริ่มกันที่
เป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในการเจาะท่านจะต้องเลือกใช้สว่านที่สามารถเจาะกระแทกได้และที่สำคัญไม่แพ้กันคือการเลือกใช้ดอกสว่านให้เหมาะสมกับขนาดที่ต้องการ
เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยยึดนอตและสกรูเข้ากับผนัง มีหลายเบอร์ให้เลือกซึ่งต้องเหมาะสมกับขนาดดอกสว่าน
ใช้สำหรับขันยึดหรือแขวนซึ่งมีหลายเบอร์ต้องเทียบความยาวและขนาดด้วยพุกพลาสติก
ใช้สำหรับไขสกรูและนอตฝังลงในพุกพลาสติก
ใช้สำหรับตอกพุกลงในปูนพลาสติก
เพื่อติดกับผนังและใส่เศษฝุ่นไม่ให้ฟุ้งกระจายขณะเจาะ
ใช้สำหรับทำเครื่องหมายและการรองเจาะ อย่างไรก็ตามการเลือกอุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้นั้น สิ่งที่สำคัญคือเรื่องความปลอดภัย ต้องมาเป็นอันดับแรก ดังนั้น ท่านควรจะเลือกใช้เครื่องมือที่มีคุณภาพ มีมาตรฐานการรับรอง และเลือกใช้เครื่องมือให้เหมาะสมไม่ใช้เกินกำลังไฟฟ้าและห้ามดัดแปลงเครื่องมือ
เพื่อตรวจสอบว่ามีการเดินท่อน้ำ สายไฟ หรืออื่นๆ ภายในผนังหรือไม่ เพราะถ้าหากเจาะเข้าไปจะก่อให้เกิดอันตรายและความเสียหายต่อผู้ปฏิบัติงาน ดังนั้น จึงควรทำการสำรวจพื้นที่ก่อนดำเนินงานทุกครั้ง
โดยอาจจะใช้ปากกาเคมีจุดหรือกากบาทตำแหน่งที่ต้องการเพื่อป้องกันความผิดพลาดจากการคาดคะเนโดยใช้สายตาเพียงอย่างเดียว
เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยให้การเจาะนั้นเรียบขึ้นหัวสว่านจะไม่กระโดด และรูเจาะจะเป็นไปในแนวทางที่ตรง
พร้อมถุงพลาสติกรองใต้ตำแหน่งการเจาะจากนั้นทำการเจาะโดยใช้ดอกสว่านเจาะคอนกรีตเจาะด้วยโหมดกระแทก
ซึ่งควรขันสกรูลงในพุกก่อนตอกเข้าไปเพื่อทำให้การตอกนั้นง่ายขึ้นพุกที่ตอกนั้นไม่บี้ และเมื่อตอกเสร็จให้ทำการคลายสกรูออกจากผนัง
เพื่อตรวจสอบให้มั่นใจว่างานนั้นเรียบร้อย ไม่มีรอยแตกร้าว และไม่มีฝุ่นหลงเหลืออยู่
เพียงเท่านี้ ท่านก็สามารถนำสิ่งของที่ท่านต้องการยึดหรือแขวนกับผนังได้ตามที่ท่านต้องการ ซึ่งขั้นตอนต่างๆ ก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด สามารถทำเองได้โดยตนเอง แถมไม่ต้องง้อช่างให้เสียเวลา
สำหรับวิธีการดูแลรักษาผนังปูนนั้นก็ทำได้ไม่ยาก แต่ก่อนอื่นก็จะต้องทำความรู้จักกับสาเหตุต่างๆ ของปัญหา ซึ่งพบว่ามีด้วยกัน 2 กรณีใหญ่ๆ ดังนี้
สาเหตุมาจากการทรุดตัวของอิฐ ซึ่งก่อให้เกิดการเกิดการบวมหรือการผิดรูปทรง จะต้องทำการทุบและก่อใหม่ในกรณีที่รุนแรงมาก แต่ถ้าหากไม่รุนแรงก็สามารถทำได้ด้วยการสกัดผิวที่เสียออกและฉาบแต่งใหม่ด้วยปูนหรือวัสดุกันซึมอื่น ๆ และอีกสาเหตุหนึ่งมาจากการปูนฉาบหดตัว มักเกิดขึ้นจากช่วงเวลาการฉาบปูนภายนอกอาคารฝั่งที่โดนแสงแดดหรือในช่วงที่ร้อนจัด จึงส่งผลให้ผนังหดตัว สามารถแก้ได้ด้วยการยาแนวรอบรอยร้าวด้วยวัสดุกันซึม
สาเหตุมาจากการฉาบผนังเพียงด้านเดียว พบมากกับอาคารประเภทตึกแถว อะพาร์ตเมนต์ หรือผนังที่สร้างชิดแนวเขตที่ดิน ซึ่งมักจะเป็นผนังเปลือยส่งผลให้เกิดการรั่วซึมผ่านรอบต่อของอิฐเข้ามาสู่ผนังด้านใน วิธีแก้คือควรฉาบผนังทั้งสองด้านและควรผสมน้ำยากันซึมลงไปในปูนฉาบและอีกสาเหตุมาจากการวัสดุเคลือบผิวหมดสภาพเพราะสิ่งของแทบทุกชนิดมักจะมีเงื่อนไขเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง ยกตัวอย่างเช่น ปูนฉาบ ที่มีอายุการใช้งานสูงสุดประมาณ 20-25 ปี หลังจากนั้นปูนจะสูญเสียประสิทธิภาพจึงเป็นสาเหตุการรั่วซึมและเกิดรอยร้าวตามมา จึงควรหมั่นดูแลรักษาด้วยการตรวจสอบและซ่อมแซม รวมไปถึงการใช้วัสดุทาผิวที่มีคุณสมบัติป้องกันแสงแดดและช่วยในการยึดเกาะสูงเพื่อช่วยในการยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น
ก็ได้ทราบถึงเทคนิค การเจาะผนังปูน กันไปแล้ว เริ่มตั้งแต่การทำความรู้จักอุปกรณ์และเครื่องมือ วิธีการเจาะผนังปูนตลอดจนการดูแลรักษาผนังปูน ซึ่งขั้นตอนและวิธีการเหล่านี้คงจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านหลายๆคน เหมาะสำหรับการนำไปประยุกต์และปรับใช้ให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้งาน